การตลาด
สกู๊ป "สปาร์คเคิล" ปลุกตลาดยาสีฟันออกสินค้าใหม่ ย้ำผู้นำฟันขาว


ยังคงแข่งขันกันอย่างดุเดือดสำหรับตลาดยาสีฟันเพื่อสุขภาพฟันขาว เนื่องจากปัจจุบันคนไทยหันมาให้ความสำคัญกับสินค้าคุณภาพมากขึ้น และไม่เกี่ยงราคาแม้ว่าจะแพงกว่าปกติ แต่ขอให้สินค้าดีจริงอย่างที่โฆษณาผู้บริโภคก็พร้อมที่จะควักเงินจ่ายเพื่อซื้อสินค้านั้นๆ

 

ความคึกคักดังกล่าวของตลาดยาสีฟันเพื่อสุขภาพและความงามเริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้น ภายหลังจาก บริษัท คิวรอน จำกัด ออกมาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากเพื่อสุขภาพฟันขาว แบรนด์ “สปาร์คเคิล” (Sparkle) เข้าทำตลาด  ส่งผลให้ผู้เล่นรายเดิมในตลาดอย่างบริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด  และบริษัท บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด เริ่มอยู่นิ่งไม่ได้ต้องเร่งออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่  เพื่อชิงแชร์ตลาดยาสีฟันเพื่อสุขภาพฟันขาวจากผู้เล่นรายใหม่ทันที

แต่เนื่องจากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเจอปัญหาการเมืองรุมเร้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยชะลอ ซึ่งปัจจัยลบที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการในตลาดยาสีฟันเพื่อสุขภาพฟันขาวชะลอการทำตลาดออกไปด้วย เนื่องจากไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจและการเมืองที่เกิดขึ้น

หลังจากสถานการณ์ทางการเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติ แต่ผู้ประกอบการก็เริ่มมีกำลังใจที่กระโดดเข้ามาทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย  และเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดอีกครั้ง เห็นได้จากผู้นำตลาดอย่างสปาร์คเคิลไวท์ ที่ออกมากระตุ้นยอดขาย  พร้อมสร้างความคึกคักในตลาดเป็นรายแรก

 

 

นายเดชฤทธิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท คิวรอน จำกัด ผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากเพื่อสุขภาพฟันขาว แบรนด์ “สปาร์คเคิล” (Sparkle)  กล่าวว่า จากแนวโน้มของตลาดยาสีฟันเพื่อสุขภาพฟันที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะยาสีฟันดูแลช่องปากเพื่อสุขภาพฟันขาว ส่งผลให้ “สปาร์คเคิล” (Sparkle) มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และเพื่อเอาใจผู้บริโภคาที่รักในการดื่ม ชา กาแฟ บริษัทจึงได้เปิดตัวยาสีฟัน "สปาร์คเคิล คอฟฟี่  แอนด์ ที ดริ้งเกอร์ไวท์เทนนิ่ง"  เข้ามาทำตลาด

เหตุผลที่ทำให้บริษัท คิวรอน ติดสินใจเปิดตัวยาสีฟัน สปาร์คเคิล คอฟฟี่  แอนด์ ที ดริ้งเกอร์ไวท์เทนนิ่ง  เข้ามาทำตลาด  เพราะพบว่าปัจจุบันหนุ่ม สาวออฟฟิศสมัยใหม่นิยมดื่มชากาแฟมากขึ้น และส่งผลให้มีปัญหาของสีฟัน จึงทำให้บริษัท คิวรอน เล็งเห็นโอกาส เปิดตัวยาสีฟัน สปาร์คเคิล คอฟฟี่  แอนด์ ที ดริ้งเกอร์ไวท์เทนนิ่ง เข้ามาทำตลาด  เพื่อคนรักการดื่มชาและกาแฟโดยเฉพาะ โดยมีให้เลือก 2 ขนาด คือ 50 กรัม ราคา 85 บาท และ ขนาด 90  กรัม ราคา 135 บาท

 

 

นอกจากนี้  บริษัท คิวรอน ยังเตรียมงบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อทำกิจกรรมการตลาดและโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านทั้งภาพยนตร์โฆษณา สื่อออนไลน์ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อกลางแจ้ง สื่อโฆษณา ณ จุดขาย รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่นๆ และเพื่อให้คอนเน็คผู้บริโภคเป้าหมายยิ่งขึ้น ซึ่งในส่วนของหนังโฆษณาตัวใหม่จะสื่อความหมายถึงกลุ่มคนที่ชื่นชอบดื่มชากาแฟ ด้วยคอนเซ็ปต์ “เลิฟชา กาแฟ แบบไม่แชร์กลิ่น และคราบ”

ขณะเดียวกัน ยังได้จัดแคมเปญ “เก่าแลกใหม่” ด้วยการส่งทีมผู้เชี่ยวชาญออกเดินสายถึงประตูออฟฟิศทั่วกรุงเทพฯ และคาดว่าแคมเปญการตลาดครั้งนี้จะเป็นแรงผลักดันให้สปาร์คเคิลเป็นผู้นำตลาดเพื่อฟันขาว โดยในปีนี้ บริษัท คิวรอน ได้ตั้งเป้ายอดขายยาสีฟันสปาร์คเคิล ไว้ที่กว่า 300 ล้านบาท

ปัจจัยที่ให้บริษัท คิวรอน มั่นใจว่า ยาสีฟัน สปาร์คเคิล คอฟฟี่  แอนด์ ที ดริ้งเกอร์ไวท์เทนนิ่ง จะได้ผลการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือ การทดสอบสินค้าโดยทันตแพทย์จากสถาบันวิจัย Dermscan Asia จากประเทศฝรั่งเศส แล้วว่าทำให้ฟันขาวจริง ช่วยขจัดคราบชา กาแฟ ซึ่งทดสอบกับผู้ชายและผู้หญิงเอเชีย ที่มีการดื่มชา กาแฟ เป็นประจำ จำนวน 20 คน อายุ 18-37 ปี พบว่า หลังการใช้ 2 สัปดาห์ 90%  ฟันขาวขึ้น 19 คนจาก 20 คน พบว่ามีความพึงพอใจ

นายเดชฤทธิ์ กล่าวต่อว่า จุดเด่นของ สปาร์คเคิล ในตลาดแล้ว เราเปรียบเสมือนเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านฟันขาว เพราะบริษัทได้บุกตลาดในเซ็กเม้นต์นี้มาก่อนใคร ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า บริษัทเข้าใจลึกซึ้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ ไวท์เทนนิ่ง และทำให้ฟันขาวขึ้นจริง โดยปีที่ผ่านมา สปาร์คเคิล มีอัตราเติบโตกว่า 18% ขณะที่ภาพรวมตลาดยาสีฟันมีอัตราการเติบโตเพียง 3% หรือมีมูลค่าตลาดประมาณ 8,624 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มฟันผุ (Regular) 29% กลุ่มรักษา (Therapeutic) 35-36%  กลุ่มสมุนไพร (Herbal) 22%  กลุ่มฟันขาว (Whitening) 10%  และกลุ่มเด็ก (Kid) 3%

นอกจากจะให้ความสำคัญกับแบรนด์สปาร์คเคิลแล้ว บริษัท คิวรอน ยังจะให้ความสำคัญกับการทำการตลาดสินค้าในเครืออื่นๆ ด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์แต่งทรงผมเลอซาช่า ,ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากสปาร์คเคิล ,ผลิตภัณฑ์เครื่องออกกำลังกายเจสัน  และผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในลีน่า โดยในส่วนของแบรนด์ เลอซาช่า จะมีการรีแบรนด์สินค้าใหม่ เพื่อให้มีความเป็นสากลมากขึ้น ขณะที่แบรนด์สปาร์คเคิล ก็จะเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับแบรนด์เจสัน  และแบรนด์ลีน่า เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค

 

ในด้านของภาพรวมการทำตลาดสินค้าในเครือปีนี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณ 300-400 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราส่วนประมาณ 20% ของรายได้รวม ซึ่งถือเป็นการใช้งบการตลาดมากที่สุดในรอบกว่า 20 ปีที่ใช้ประมาณ 15% ของรายได้รวม เนื่องจากปีนี้มีการเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัท คิวรอน ยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปในภูมิภาคเอเชียมากขึ้น โดยประเทศที่ให้ความสนใจและกำลังศึกษาอยู่ คือ จีน เวียดนาม และพม่า จากปัจจุบันได้เริ่มส่งออกสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากสปาร์คเคิลเข้าไปทำตลาดแล้วที่อเมริกา กัมพูชา และลาว

หลังจาก บริษัท คิวรอน ออกมาขยายธุรกิจในเครือมากขึ้น คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้อยู่ที่ 2,200 ล้านบาท หรือเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่มีรายได้ 2,000 ล้านบาท ไม่มีอัตราการเติบโตเมื่อเทียบกับปี 2556 โดยในส่วนของรายได้ดังกล่าว แบ่งเป็นแบรนด์เลอซาช่า 52%  แบรนด์สปาร์คเคิล 15% แบรนด์แอดโฮม 9.5% แบรนด์คิวรอน 8%  แบรนด์เจสัน 5%  แบรนด์ลีน่า  2.5%  และอื่นๆ 7%


 

ออกมาเปิดกมรุกหนักขนาดนี้ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้ายาสีฟัน เชื่อว่าคู่แข่งในตลาดรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นบริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เจ้าของแบรนด์สินค้าโคลส อัพ ไวท์ นาว และบริษัท บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของแบรนด์สินค้า คอลเกต ออพติค ไวท์ น่าจะออกมาเปิดกลยุทธ์  เพื่อชิงยอดขายในตลาดเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน  หลังจากก่อนหน้านี้ทั้ง 2 ค่ายออกมาจัดหนัก ทั้งในด้านของสินค้าใหม่ และการดึงดาราชื่อดังมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้า

 

ทั้งนี้ ในส่วนของค่ายคอลเกต ได้ดึง2 ดาราสาวชื่อดัง พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์   และ ชมพู่  อารยา อัลเบอร์ต้า ฮาร์เก็ต มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้า คอลเกต ออพติค ไวท์  ขณะที่ค่ายยูนิลีเวอร์ ก็เคยใช้  “ก้อย รัชวินทร์ วงศ์วิริยะ” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับยาสีฟันโคลส อัพ ไวท์ นาว  เช่นกัน 

คงต้องรอลุ้น สปาร์คเคิล จะสามารถย้ำผู้นำตลาดยาสีฟันเพื่อสุขภาพฟันขาวได้หรือไม่ แต่ดูจากกลยุทธ์และผลการตอบรับด้านยอดขาย รวมไปถึงผู้เล่นในตลาดที่ยังคงซุ่มเงียบ เชื่อว่ายังคงนั่งผู้นำตลาดยาสีฟันเพื่อสุขภาพฟันขาวได้อีกนาน

 


LastUpdate 25/04/2558 14:10:47 โดย : Admin
02-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 2, 2024, 4:59 am