กองทุนรวม
KSAM เสนอขายกองทุน KFFAI6M11 ประมาณการณ์ผลตอบแทน 2.35% ต่อปี


บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 6M11 (KFFAI6M11) อายุประมาณ      6 เดือน  เสนอขายระหว่างวันที่ 6 – 11 พฤษภาคม 2558 เหมาะกับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้ที่มีเงินลงทุนสูง  ลงทุนขั้นต่ำ 510,000 บาท  ประมาณการณ์ผลตอบแทน 2.35% ต่อปี   
     

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด  หรือ KSAM เปิดเผยว่า “บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 6M11 (KFFAI6M11) อายุประมาณ 6 เดือน มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เช่น  เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน ,มาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 6%  ตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร  Akbank T.A.S. (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 23.50%    ตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร Isbank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 23.5%   ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Vakifbank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 23.5%   และตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร Yapi Kredit bank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 23.5%   ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน  โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 2.35% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป”  

กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 6M11 (KFFAI6M11) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้ที่มีเงินลงทุนสูง  ที่ต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก   และต้องการล็อคผลตอบแทนโดยสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน

สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้โลกนั้น อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาครัฐของสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นร้อยละ 0.01 – 0.15 โดยที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาวเพิ่มขึ้นมากกว่าอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้น หลังเฟดให้ความเห็นว่า ยังมีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นในเดือน มิ.ย. ถึงแม้ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาอ่อนแอก็ตาม   ทางด้านกรีซได้มีการเปลี่ยนทีมเจรจากับกลุ่มเจ้าหนี้ โดยตั้งเป้าที่จะบรรลุข้อตกลงกับธนาคารกลางยุโรปภายในวันที่ 9 พ.ค. และก่อนที่จะถึงกำหนดชำระหนี้ 700 ล้านยูโรให้แก่ไอเอ็มเอฟในวันที่ 12 พ.ค. ทางด้านฟิทช์ เรตติ้งส์             ได้ประกาศลดอันดับเครดิตของญี่ปุ่นลง 1 ขั้น สู่ “A” โดยระบุว่าไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการคลัง และยังไม่มีความชัดเจนถึงประสิทธิภาพของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

“สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยลดลง 0.03 – 0.20% โดยอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้นปรับลดลงมาก หลัง กนง. ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 1.50% ซึ่งผิดไปจากที่ตลาดคาดว่าจะคงดอกเบี้ย  โดยคณะกรรมการ กนง.ให้ความเห็นว่า การลงทุนของภาครัฐและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไม่สามารถชดเชยความอ่อนแอของภาคการส่งออกและการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนได้  และได้แสดงความกังวลต่อการแข็งค่าของเงินบาท และเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้า ซึ่งจะส่งผลต่อภาคการส่งออกในอนาคต  พร้อมระบุว่า เงินเฟ้ออาจอยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาด ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ รวมถึงอุปสงค์ภายในประเทศอ่อนแอ และความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะติดลบนานกว่าที่คาดมีมากขึ้น  ทางด้าน ธปท.ได้ประกาศมาตรการผ่อนคลายการไหลออกของเงินทุน ได้แก่ การผ่อนคลายกฎสำหรับผู้มีถิ่นฐานอยู่นอกประเทศและบริษัทต่างชาติในการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในประเทศเป็นสกุลเงินบาท มีผลในเดือน พ.ค. รวมทั้งเสนอให้เพิ่มวงเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศและวงเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศให้กระทรวงการคลังพิจารณาอนุมัติอีกด้วย”  นายฉัตรพี กล่าว  


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 06 พ.ค. 2558 เวลา : 16:24:55
27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 5:17 am