เริ่มออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกันอย่างคึกคัก สำหรับกลุ่มสินค้าเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม หรือชาเขียวพร้อมดื่ม เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ยอดขายของแต่ละค่ายยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ จึงทำให้ต้องเริ่มออกมารุกหนัก เพื่อกระตุ้นยอดขายให้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ให้ได้มากที่สุด

สำหรับกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการเครื่องดื่มน้ำอัดลมและชาเขียวพร้อมดื่ม เลือกนำมาใช้กระตุ้นยอดขายในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ยังคงเน้นไปที่การจัดกิจกรรมลุ้นโชค เพราะทุกครั้งที่จัดถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าว่าช่วงระยะหลังการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบดังกล่าวจะมีความคึกคักน้อยลง เนื่องจากแต่ละกลุ่มสินค้ามีการจัดกิจกรรมลุ้นโชคกันตลอดทั้งปี จึงทำให้ผู้บริโภครู้สึกชิน ประกอบกับเงินในกระเป๋าก็ลดลง

เครื่องดื่มน้ำอัดลมรายล่าสุดที่ออกมาเปิดตัวแคมเปญลุ้นโชคครั้งใหญ่ส่งท้ายปี คือ "เป๊ปซี่"  ออกมาร่วมแคมเปญลุ้นโชคแจก Samsung Galaxy S6 ตามหลัง เอส มาติดๆ  หลังจาก "เอส" ยอมลงทุนมอบของรางวัล “รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ” มากถึง 30 คัน รวมมูลค่ากว่า 74 ล้านบาท เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า

ในส่วนของของแคมเปญที่ เป๊ปซี่  ออกมาประกาศท้ารบชิงลูกค้าและยอดขายในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ คือ “เป๊ปซี่ท้า..ซ่าเต็มที่ให้โลกเห็น” ชิงรางวัล Samsung Galaxy S6 ทุกสัปดาห์ เพียงแค่ถ่ายภาพหรือวิดีโอโชว์ความซ่าให้เต็มช็อตในแบบคุณ แล้วโพสขึ้น Instagram พร้อม ?#‎PepsiChallengeTH หรือส่งมาที่ http://bit.ly/1PYmd9F   

นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด กล่าวว่า ในฐานะแบรนด์ เอส เป็นน้ำอัดลมของคนรุ่นใหม่ บริษัทยังคงเดินหน้าทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเอาประสบการณ์ความซ่าในรูปแบบใหม่ๆ มาให้วัยรุ่นและคนไทยได้สัมผัส ซึ่งล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวแคมเปญ “เอส คนพันธุ์ซ่า ต้องเบนซ์ซิ่ง” ที่สุดของโปรโมชั่นแคมเปญส่งท้ายปีในประวัติศาสตร์วงการน้ำอัดลมไทย เนื่องจากของรางวัลที่นำมาแจกมีมูลค่ามากกว่า 74 ล้านบาท

ทั้งนี้ ลูกค้า เอส ที่เข้าร่วมลุ้นโชค นอกจากจะมีสิทธิ์ลุ้นเป็นเจ้าของ “รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ” รถยนต์สุดหรูในใจของคนรุนใหม่มากถึง 30 คันแล้ว ยังได้รับโอกาสพิเศษในการฝึกเทคนิคการขับขี่จากทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพของทางเบนซ์ที่มีประสบการณ์ในการแข่งขันระดับโลก ก่อนลงประลองความเร็วบนสุดยอดสนามแข่งมาตรฐานโลกหนึ่งเดียวในประเทศไทยอย่าง ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต

นอกจากนี้ บริษัท ไทยดริ้ง ยังได้ใช้งบประมาณกว่า 200 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้และชวนให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาร่วมลุ้นสัมผัสประสบการณ์ความซ่าในครั้งนี้ พร้อมทั้งให้เกิดการทดลองผลิตภัณฑ์ด้วยการสร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณาชุด “คนพันธุ์ซ่า” ถ่ายทอดช่วงเวลาสุดซ่าของวัยรุ่นทันทีที่ได้ดื่มเครื่องดื่มเอส ที่ยิ่งดื่มยิ่งได้ลุ้นเป็นเจ้าของรถเบนซ์ จีแอลเอ

พร้อมกันนี้ ยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดแบบ 360 องศา เช่นการจัดกิจกรรมโรดโชว์ร่วมกับพรีเซนเตอร์เอสอย่าง "ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์" และตัวแทนคนพันธุ์ซ่าอย่าง "โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์" และ “ฮั่น-อิสริยะ ภัทรมานพ” ออกไปเดินสายใน 9 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อชวนคนรุ่นใหม่ให้ทดลองดื่มและส่งรหัสใต้ฝามาลุ้นซิ่งเบนซ์กันเป็นของขวัญส่งท้ายปี และการเดินหน้าเสริมแกร่งแบรนด์อิมเมจ ส่งบรรจุภัณฑ์ เอส ลิมิเต็ดเอดิชั่น ลายรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ ให้คนพันธุ์ซ่าได้สะสมในช่วงแคมเปญนี้

นางเจษฎากร กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าแคมเปญ “เอส คนพันธุ์ซ่า...ต้องเบนซ์ซิ่ง” ที่จะมาเปิดประสบการณ์ความซ่าครั้งประวัติการณ์ของวงการน้ำอัดลมไทยด้วยมูลค่าของรางวัลกว่า 74 ล้านบาท ทั้งการได้เป็นเจ้าของรถเบนซ์สุดหรู  และการมีโอกาสได้ไปลงขับในสนามแข่งระดับโลกของเอสในครั้งนี้ บริษัทเชื่อว่าจะได้ผลการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

ด้าน "บิ๊กโคล่า"  ก็ออกมาเปิดตัวแคมเปญ “ซิ่งไกลถึง...อังกฤษ” แคมเปญตัวใหม่ล่าสุดที่บิ๊กเฟ้นหาแฟนบิ๊กผู้โชคดีตัวจริงในประเทศไทย และโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ให้บินไปเชียร์ทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลแมตช์สำคัญช่วงเตรียมความพร้อมสำหรับฟุตบอลยูโร 2016 ซึ่งเป็นแมตช์ฟาดแข้งระหว่างทีมชาติอังกฤษกับทีมชาติฝรั่งเศสที่สนามกีฬาอันโด่งดังอย่างสนามกีฬาเวมบลีย์ ในวันที่ 17 พ.ย. นี้

นอกจากนี้ ยังมีการแจกรางวัลพิเศษจำนวนมาก เช่น รถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว้ ดับเบิ้ลแคป และรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้า ซูเมอร์-เอ๊กซ์ ที่มาพร้อมกับตราสัญลักษณ์สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) ซึ่งการออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบดังกล่าว ถือเป็นการแจกรางวัลครั้งใหญ่รวมมูลค่า 19 ล้านบาท ของบิ๊ก โคล่า

นายซอริน วอยเนีย ประธานฝ่ายการตลาดระดับภูมิภาค บริษัท อาเจ กรุ๊ป กล่าวว่า บิ๊ก ถือเป็นเป็นแบรนด์สินค้าระดับโลกที่มุ่งสนับสนุนให้บรรดาแฟนเครื่องดื่มบิ๊กทุกคนมีความฝันและคิดให้ใหญ่ คนที่ชื่อนชอบกีฬาฟุตบอลจะได้ไปเยือนประเทศอังกฤษ เพื่อชมฟุตบอลที่สนามเวมบลีย์อันศักดิ์สิทธิ์ในห้องวีไอพีของตัวเอง และการพบกันของสองทีมระดับแนวหน้าของยุโรปอย่างทีมอังกฤษกับฝรั่งเศส และยิ่งไปกว่านั้นบริษัทยังให้ลูกค้าได้มีโอกาสร่วมลุ้นรถโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว รุ่นใหม่ล่าสุดของปีนี้ และรถมอเตอร์ไซต์ฮอนด้า ซูเมอร์-เอ็กซ์ เพื่อเป็นการของคุณลูกค้าอีกด้วย ซึ่งหลังจากจบแคมเปญเชื่อว่าจะได้ผลการตอบรับที่ดี

ขณะที่เครื่องดื่มน้ำอัดลมกำลังฟาดฟันกันในด้านของยอดขาย ในส่วนของชาเขียวพร้อมดื่มก็ไม่น้อยหน้าออกมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบชิงรางวัลลุ้นโชคเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นค่ายโออิชิ หรืออิชิตัน โดยในส่วนของโออิชิ  จัดเบาๆ ด้วยการให้แฟนพันธุ์แท้โออิชิร่วมลุ้นเป็นเจ้าของโทรศัพท์สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy Note 5 จำนวน 200 รางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้น 5.78 ล้านบาท เพียงส่งรหัสใต้ฝาเครื่องดื่มโออิชิ หรือรหัสภายในกล่องผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มโออิชิ

ส่วน  อิชิตัน  ก็ดึงแคมเปญ “อิชิตัน รหัสรวยเปรี้ยง ตอน ทอง หมื่น แสน ล้าน” คงคอนเซ็ปท์ แจกใหญ่ แจกเยอะ กับที่สุดของรางวัลที่ทุกคนรอคอย ด้วยการเพิ่มโอกาสได้รับรางวัลทองคำเป็น 1,100 รางวัล มูลค่ารวม 30 ล้านบาท  เพียงกด *711* ตามด้วยรหัสใต้ฝาหรือในกล่องอิชิตัน กรีนที อิชิตัน ดราก้อนแบล็คที เย็นเย็น และไบเล่  ทุกขนาด ทุกรสชาติ

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การออกมาจัดแคมเปญ “อิชิตัน รหัสรวยเปรี้ยง ตอน ทอง หมื่น แสน ล้าน ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการสร้างสีสันให้กับตลาดชาเขียวพร้อมดื่มให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ขณะเดียวกันยังถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัว หลังสภาวะเศรษฐกิจทั้งภูมิภาคชะลอตัวลงตั้งแต่ต้นปีท่านมา ซึ่งระหว่างที่จัดแคมเปญดังกล่าว บริษัทเชื่อว่าจะช่วยสร้างความคึกคักให้ตลาดและเกิดแรงขับเคลื่อนในการจับจ่ายใช้สอยอีกครั้ง เนื่องจากการจัดแคมเปญครั้งนี้พิเศษกว่าเดิม คือ จับและแจกรางวัลทุกวันจันทร์ ซึ่งแต่ละสัปดาห์แจกมากถึง 222 รางวัล

ผู้ประกอบการเครื่องดื่ม 4 ค่ายที่กล่าวข้างต้น ถือเป็นเพียงส่วนหนึ่งของผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภคที่ออกมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายช่วงรอยต่อระหว่างไตรมาส 3 ต่อเนื่องไตรมาส 4 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาของหน้าขายสินค้า ส่วนแต่ละแคมเปญที่แต่ละผู้ประกอบการจัดจะได้ผลการตอบรับมากน้อยแค่ไหน คงต้องรอดูผลการตอบรับหลังจากแคมเปญจบลง ซึ่งก็เชื่อว่าแต่ละค่ายน่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็นที่น่าพอใจดีกว่าอยู่นิ่งๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย  เพราะกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัวอยู่ในขณะนี้ รอเพียงแรงกระตุ้นเท่านั้น ถ้ากระตุ้นถูกจุด ยอดขายก็เข้ากระเป๋าตุงอย่างแน่นอน.