เอสเอ็มอี
นายกฯระบุ พร้อมช่วยเหลือเอสเอ็มอีเต็มที่ ทั้งเรื่องเงินทุนและการตลาด แต่เอสเอ็มอีต้องช่วยเหลือตัวเองด้วย "เข้ามาอยู่ในระบบ-ทำบัญชีให้ถูกต้อง-พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ"


"พลเอกประยุทธ์"เผย รัฐเร่งเดินหน้า Digital Economy หวังช่วยลดต้นทุนเอสเอ็มอี ชี้รัฐพร้อมช่วยเหลือทั้งเรื่องเงินทุนและการตลาด แต่เอสเอ็มอีต้องช่วยเหลือตัวเองก่อนลำดับแรก เข้ามาอยู่ในระบบ และทำบัญชีให้ถูกต้อง พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้า

 

 

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการปาฐกถาพิเศษ "ขับเคลื่อนเอสเอ็มอี ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย" ว่า ปัจจุบันต้องยอมรับว่าธุรกิจวิสาหกิจขนาดกลางและขยาดย่อมหรือเอสเอ็มอีมีความสำคัญกับประเทศ เนื่องจากธุรกิจของเอสเอ็มอีคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 37.4% ของจีดีพี (อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ) และคิดเป็นสัดส่วน 25.5% ของการส่งออกรวม ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญกับประเทศ

 

"วันนี้รัฐบาลกำลังเร่งเดินหน้าในเรื่องเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้ค่อนข้างมาก แต่ต้องยอมรับว่าปัจจุบันเอสเอ็มอีขนาดเล็กและกลางไม่โตเสียที ไปสู้กับบริษัทใหญ่ไม่ได้ ทั้งในเรื่องการผลิต และการจำหน่าย ฉะนั้นต้องเร่งยกระดับเอสเอ็มอีในหลายด้าน ทั้่งการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต การพัฒนาตนเอง เพื่อให้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้ เพราะการจะไปค้าขายกับใครต้องสร้างตัวเองให้เข้มแข็งก่อน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่น และมีแผนธุรกิจทีดี เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นไม้เล็กใต้ไม้ใหญ่ตลอดเวลา"นายกรัฐมนตรีกล่าว

 

พลเอกประยุทธ์กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้เอสเอ็มอีต้องช่วยเหลือตนเอง ต้องมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและรองรับความต้องการที่จะเกิดขึ้น และจะต้องมีการบริหารจัดการที่ดีให้ความต้องการขายกับความต้องการซื้อมีความสมดุลกัน

 

 

สำหรับการช่วยเหลือเอสเอ็มอีจะต้องเร่งทำในหลายๆด้าน โดยเฉพาะการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งก่อนอื่นเอสเอ็มอีต้องเข้ามาอยู่ในระบบ และมีการทำบัญชีที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะปัจจุบันมีจำนวนเอสเอ็มอีประมาณ 2.8 ล้านราย แต่มีการจดทะเบียนไว้เพียง 7 แสนราย นอกจากนี้จะต้องเข้าไปช่วยเหลือทางด้านการตลาด เพราะปัจจุบันเอสเอ็มอีกมักขาดบุคลากรด้านการตลาดที่มีความพร้อม รวมถึงต้องสร้างแบรนด์ที่ดีมีคุณภาพด้วย 

 

" ณ ขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือซอฟท์โลน วงเงิน 100,000 ล้านบาท ผ่านธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐ  ซึ่ีงหากวงเงินดังกล่าวไม่เพียงพออาจมีการพิจารณาขยายวงเงินเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากบอกเอสเอ็มอี คือ คุณต้องช่วยเหลือตัวเองด้วย เพื่อสร้างเข้มแข็งให้กับตัวเอง"พลเอกประยุทธ์กล่าว

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ผ่านมารัฐบาลยังช่วยเหลือในเรื่องการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเอสเอ็มอีที่จดทะเบียนตั้งแต่ปี 2558-2559  เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเอสเอ็มอีที่เพิ่งเริ่มกิจการ เป็นเวลา 5 ปี อีกด้วย


บันทึกโดย : วันที่ : 18 ก.ย. 2558 เวลา : 19:17:47
05-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 5, 2024, 12:07 am