เศรษฐกิจไทยกำลังผ่านพ้นครึ่งแรกของปี 2559 ไปในอีกไม่ช้า แต่ทิศทางเศรษฐกิจก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูง แม้คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรก ที่ขยายตัวได้ถึง 3.2% ซึ่ง นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการ สศช. เชื่อว่าตัวเลขดังกล่าว แสดงถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นต่อเนื่องและยังเป็นอัตราที่สูงสุดในรอบ 3 ปี โดยมีแรงสนับสนุนจากหลายส่วนทั้งการท่องเที่ยว การใช้จ่ายภาครัฐ การใช้จ่ายภาคครัวเรือน
และหากเทียบกับหลายๆ ประเทศ ที่เศรษฐกิจส่วนใหญ่ชะลอตัวลง โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาต่ำสุดใน 8 ไตรมาส จีนก็ต่ำสุดในรอบ 6-7 ปี จึงเป็นสัญญาณที่ดีของไทย ที่จะทำให้นักลงทุนในโลกมีความมั่นใจ และหันมาดูโอกาสลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น
ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ก็ระบุว่า เศรษฐกิจที่โต 3.2% มีความหมายมาก ถือว่าเป็นข่าวดีและเป็นจุดพลิกผันสำคัญด้านความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยว่าขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มพลิกฟื้นแล้ว ส่วนแนวโน้มตลอดปีนี้น่าจะฟื้นตัว แต่ยังต้องเฝ้าการส่งออก ทั้งนี้รัฐบาลให้ความสำคัญกว่าคือการปฏิรูปต่อเนื่อง เพื่อให้การเติบโตยั่งยืน
แต่สำหรับผลสำรวจความเชื่อมั่นของนักเศรษฐศาสตร์ที่มีต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ของกรุงเทพโพลล์ พบว่า อยู่ที่ระดับ 36.15 เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา ที่อยู่ในระดับ 33.93 และเป็นการเพิ่มขึ้น 4 ไตรมาสติดต่อกัน แต่ค่าดัชนีที่อยู่ในระดับต่ำกว่า 50 สะท้อนให้เห็นถึงสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันที่ยังอ่อนแอเป็นอย่างมาก
ส่วนมุมมองของหน่วยงานภาคเอกชน นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจากตัวเลขของสภาพัฒน์ เป็นการฟื้นตัวอย่างอ่อนและไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนและผู้บริโภคที่ยังเปราะบาง ในไตรมาส 2 ก็จะยังไม่เห็นการฟื้นตัวที่โดดเด่น คาดว่าในครึ่งปีแรกจีดีพีน่าจะขยายตัวได้ 3% ขึ้นไป และจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนในครึ่งปีหลัง
ขณะที่ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (อีไอซี) ระบุว่า จากตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสแรกที่โต 3.2% จึงได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้เป็น 2.8% จากเดิม 2.5% แต่เศรษฐกิจไทยยังคงมีความเสี่ยงจากกำลังซื้อครัวเรือน รวมทั้งการจ้างงานและชั่วโมงทำงานที่ลดลง
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เริ่มเห็นสัญญาณการบริโภคขยายตัวมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการบริโภคด้านการท่องเที่ยว ขณะที่งบกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐมีการเบิกจ่ายดีขึ้น คาดว่าจะทำให้มีการจ้างงาน ผู้ประกอบการมียอดขายสินค้าเพิ่มขึ้น
ข่าวเด่น