การตลาด
สกู๊ป...ไอคอนสยามปล่อยแม่เหล็กเคาทน์ดาวน์เปิดโฉม






 

เริ่มออกมาเปิดตัวแม่เหล็กดึงลูกค้าเป็นระยะสำหรับโครงการไอคอนสยาม เนื่องจากปลายปี 2560 ก็จะพร้อมเปิดบริการให้ลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติได้เข้ามาช้อปปิ้งยลโฉมความยิ่งใหญ่อลังการของโครงการอภิมหาโปรเจคริมแม่น้ำเจ้าพระยา  ซึ่งนอกจากจะมีศูนย์การค้าที่พัฒนาขึ้นมาด้วยตัวเองแล้ว 2 ส่วนที่ได้เปิดตัวไปเรียบร้อยแล้วก่อนหน้านี้ คือ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม  และศูนย์การค้าไอคอนลักซ์  ยังจะมีในส่วนของห้างสรรพสินค้าทาคาชิมาย่า  ที่อิมพอร์ทมาจากประเทศญี่ปุ่น
 
นอกจากนี้  ยังมีโครงการแมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนซ์ ณ ไอคอนสยาม (Magnolias Waterfront Residences at ICONSIAM) คอนโดมิเนียมที่พักอาศัยคุณภาพเหนือระดับที่หรูหราที่สุดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เทียบชั้นมาตรฐานโครงการที่พักอาศัยที่ดีที่สุดในต่างประเทศ โดยเป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 70 ชั้น จำนวน 379 ยูนิต ผสาน 3 องค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้เป็นโครงการระดับโลก คือ แต่ละยูนิต ประกอบด้วยวัสดุประกอบติดตั้งที่หรูหราที่สุด, ตัวอาคารถูกออกแบบอย่างหรูหราและมีคุณภาพสูงสุด และพักอาศัยระดับโลกอย่าง  เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ (The Residences at Mandarin Oriental Bangkok) ที่มีความสูง 52 ชั้น จำนวน 146 ยูนิต มาเปิดให้บริการ
 

ขณะเดียวกันในส่วนของความบันเทิงด้านศิลปะ บริษัท ไอคอนสยาม  ก็ยังได้มีการจับมือร่วมกับกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ยังได้มีการร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการส่งเสริมเผยแพร่คุณค่าศิลปะและวัฒนธรรมไทย เพื่อพัฒนาให้มีการจัดแสดงมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ อันประกอบด้วยโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ ภายใน ‘ไอคอนสยาม เฮอริเทจ มิวเซียม’ (ICONSIAM Heritage Museum) พิพิธภัณฑ์ระดับโลกแห่งแรกของประเทศไทย บนพื้นที่โครงการไอคอนสยาม พื้นที่แลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยว ที่จะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย
 

สำหรับจุดเด่นของพิพิธภัณฑ์  ไอคอนสยาม เฮอริเทจ มิวเซียม แห่งนี้จะมีส่วนจัดแสดงงานศิลปวัฒนธรรม 3 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1. National Heritage Gallery  จะจัดแสดงศิลปวัตถุที่เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติไทย ที่เกิดจากความร่วมมือกับกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ส่วนที่ 2. จะเป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน ที่รองรับการจัดแสดงผลงานสุดยอด Masterpieces และนิทรรศการหมุนเวียนจากพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ซึ่งจะหมุนเวียนมาจัดแสดงทั้งศิลปวัตถุ ภาพเขียน ผลงานศิลปะ รวมถึงสมบัติล้ำค่าจากทั่วทุกมุมโลก  และส่วนที่ 3. River Gallery  จะส่วนการจัดแสดงนิทรรศการศิลปกรรมร่วมสมัย ที่สามารถจัดแสดงผลงานของศิลปินร่วมสมัยทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่มีชื่อเสียง ให้ผู้เข้าเยี่ยมชมสามารถสัมผัสชิ้นงานศิลปะได้อย่างใกล้ชิด และยังเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับศิลปะต่างๆ อีกด้วย

ทั้งนี้  ล่าสุดบริษัท ไอคอนสยาม  ได้จับมือร่วมกับกลุ่มทรู ผู้นำคอนเวอร์เจนซ์ไลฟ์สไตล์ ซึ่งนำเสนอบริการและโซลูชั่นด้านการสื่อสารโทรคมนาคมอย่างครบวงจร เนรมิต “ทรู ไอคอนสยาม ฮอลล์” ศูนย์ประชุมมาตรฐานระดับโลกและการจัดงานแสดงระดับนานาชาติล้ำสมัยแห่งยุค ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ดีที่สุดโดยการออกแบบให้ได้มาตรฐานสากลในระดับโลก  ซึ่งได้รับขนานนามเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งไอคอนสยาม 

นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า  บริษัทยังคงตอกย้ำโครงการไอคอนสยาม  ด้วยการสร้างจุดยืนที่สง่างามให้กับประเทศไทยในเวทีโลก ซึ่งการจับมือร่วมกับกลุ่มทรู  เพื่อทำ “ทรู ไอคอนสยาม ฮอลล์”  ในครั้งนี้ก็เพื่อส่งเสริมและยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์  รวมถึงการจัดแสดงงานและการประชุมระดับโลกต่างๆ ในประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการประชุมระดับโลกและการจัดงานแสดงต่างๆ อย่างครบวงจรที่มีศักยภาพมากที่สุดและโดดเด่นที่สุดของทวีปเอเชีย  โดยในการของการทำ ทรู ไอคอนสยาม ฮอลล์ คาดว่าจะใช้งบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท  ในการก่อสร้างบนพื้นที่กว่า 12,000 ตร.ม.  ซึ่งจะสามารถจุผู้ชมได้ประมาณ  3,000 ที่นั่ง ตั้งอยู่บนชั้น 7 และ7M  ของโครงการไอคอนสยาม  ซึ่งจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของสายน้ำเจ้าพระยาควบคู่ไปกับการจัดแสดงต่างๆภายใน   ทรู ไอคอนสยาม ฮอลล์ ที่จะมีความโดดเด่นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ดีที่สุด
 

สำหรับเทคโนโลยีที่ดีที่สุดที่ได้นำมาใส่ไว้ใน   ทรู ไอคอนสยาม ฮอลล์ ประกอบด้วย  1.ระบบ Retractable Seating ครั้งแรกในประเทศไทย ที่เก้าอี้นั่งประชุมสามารถพับเก็บได้โดยระบบอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด  ซึ่งสามารถตอบสนองการจัดงานประชุมและการจัดงานได้ทุกประเภทในระยะเวลาอันรวดเร็ว  โดยให้มุมมองที่ดีที่สุดในทุกที่นั่ง และทุกที่นั่งสามารถรองรับการเชื่อมโยงระบบการสื่อสารทุกประเภททั้ง ระบบแปลภาษาที่ล้ำสมัย,  ระบบ Wifi, ไมโครโฟน เป็นต้น 
 

2. ระบบ Tri-wall Panel Acoustic ที่ดีที่สุด ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการปรับเปลี่ยนผนังและเพดานโดยระบบอัตโนมัติได้ถึง 3 รูปแบบ  ซึ่งมีระบบการดูดซับเสียงและสะท้อนเสียงตามประเภทของการแสดงและการจัดงานอันได้แก่ งานประชุม  งานแสดง  World Class Performance   และ งานคอนเสิร์ต  ทำให้ผู้ชมทุกที่นั่งได้รับอรรถรสในการชมและรับฟังที่ล้ำเลิศที่สุดอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน  3. ระบบเวที ที่มีโครงสร้าง Rigging  เพื่อการเปลี่ยนฉาก สำหรับการแสดงเวทีระดับโลก และผนังพิเศษที่สามารถเคลื่อนย้ายมาบรรจบขอบเวที เพื่อสร้างสรรค์บรรยากาศการแสดงและการจัดงานที่สมบูรณ์แบบที่สุด  เพื่อมอบประสบการณ์ที่แตกต่างเหนือระดับในทุกครั้งที่มาเยือน
 
นางชฎาทิพ  กล่าวต่อว่า  ทรู ไอคอนสยาม ฮอลล์  แห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมนานาชาติที่โดดเด่นของเอเชียและจะดึงดูดการแสดงระดับชั้นนำของโลกให้เข้ามายังประเทศไทย  โดยสามารถรองรับการจัดงานประเภทต่างๆ ได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นการประชุมระดับโลก (International Conference) เช่น การประชุม G20, ASEAN Summit, APEC, OPEC, การประชุมทางการแพทย์และการประชุมวิชาการต่างๆ  โดยสามารถรองรับผู้เข้าร่วมงานได้ถึง 3,000 คน  พร้อมกันนี้  ยังมีห้องประชุมขนาดกลางและขนาดเล็กอีกหลายห้อง  ที่สามารถรองรับงานประชุมย่อยได้อีกด้วย

 
นอกจากนี้  ยังสามารถรองรับการแสดง World Class Performance เช่น ละครจาก Broadway, Musical Show, การแสดงโอเปร่า,การแสดง Ballet, การแสดง Cirque du Soleil  ตลอดจนการแสดง Cultural Performance  ของไทย  เช่น การแสดงโขนพระราชทานชุดใหญ่  การแสดง Concert ระดับโลก เช่น การแสดง Orchestra   การแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินชั้นนำของโลกและของไทย  การจัด International Exhibition บนพื้นที่ Flat Floor หลังจากการเก็บเก้าอี้ประชุมโดยระบบอัตโนมัติ ซึ่งมีระบบสาธารณูปโภครองรับอย่างครบครัน  

ขณะเดียวกัน  ในส่วนของงาน Special Event เช่น งานการแข่งขันกีฬาทัวร์นาเม้นท์สำคัญ (Sport Show), แฟชั่นโชว์ระดับโอต์กูตูร์, งานประกวดระดับนานาชาติ, งานมอบรางวัล, งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์, เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ  และการจัดเลี้ยง  ก็สามารถรองรับได้ทุกประเภท จำนวนมากกว่า 3,000 คน  โดยมีห้องจัดเตรียมอาหารและอุปกรณ์การจัดเลี้ยงครบครัน  เช่น การจัดงานเลี้ยงในโอกาสสำคัญต่างๆ และ งานฉลองมงคลสมรส เป็นต้น  

นางชฎาทิพ กล่าวปิดท้ายว่า   หลังจากเริ่มให้บริการทรู ไอคอนสยาม ฮอลล์ ในปี 2561 บริษัทมั่นใจว่ายอดจองเข้าใช้บริการจะเต็มหมดทั้งปี  ซึ่งบริษัทมีความมั่นใจว่าฮอลล์แห่งนี้จะสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆในอาเซียนได้แน่นอน เพราะเราไม่ได้ขายฮอลล์อย่างเดียว แต่เราขายกรุงเทพฯ และเราขายทัศนียภาพของแม่น้ำเจ้าพระยา


 

LastUpdate 22/07/2559 13:10:35 โดย : Admin
27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 10:10 am