กองทุนรวม
ทิสโก้ส่งกองญี่ปุ่นถึงเป้าหมายเลิกโครงการใน 27 วันเป็นกองที่ 5 ของปีนี้


 

ทิสโก้โชว์ฟอร์มแม่น! ส่งกองญี่ปุ่นถึงเป้าหมายเลิกโครงการใน 27 วันเป็นกองที่ 5 ของปีนี้  แนะหาจังหวะลุยหุ้นญี่ปุ่นต่อได้ รับอานิสงส์ BoJ อัดฉีดเพิ่มเติม


 
ทิสโก้โชว์ผลงานเด่นรับไตรมาส 3 ส่ง “TISCOJ11” ถึงเป้าหมายเลิกโครงการ 8% ใน 27 วัน! ถือเป็นทริกเกอร์ฟันด์กองที่ 5 ของ บลจ. ทิสโก้ที่ถึงเป้าหมายเลิกโครงการในปีนี้ ตอกย้ำความเชี่ยวชาญการจับจังหวะลงทุน พร้อมชูตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ แนะนำหาจังหวะเข้าลงทุน เชื่อมั่น BoJ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) กล่าวว่า ด้วยความเชี่ยวชาญในการจับจังหวะลงทุนได้อย่างเหมาะสม ล่าสุด บลจ. ทิสโก้ สามารถบริหาร “กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% #11” (TISCO Japan Equity Fund 11: TISCOJ11) ให้ถึงเป้าหมายเลิกโครงการ 8% ได้ หลังจากใช้เวลาบริหารกองทุนเพียง 27 วันเท่านั้น (กองทุนจดทะเบียน ณ วันที่ 24 มิ.ย. 2559) จากระยะเวลาเป้าหมายที่กำหนด 8 เดือน โดย ณ วันที่ 20 ก.ค. 2559กองทุนดังกล่าวมีมูลค่า NAV อยู่ที่ 10.8262 บาทต่อหน่วยจึงเข้าเงื่อนไขการเลิกโครงการ และข้อมูล ณ วันที่ 20 ก.ค. 59 บลจ. ทิสโก้มีทริกเกอร์ฟันด์ภายใต้การจัดการทั้งหมด 114 กองทุน สามารถบริหารให้ถึงเป้าหมายแล้ว 73 กองทุน (ถึงเป้าหมายใน target time 61 กองทุนและถึงเป้าหมายนอกtarget time 12 กองทุน) และมีทริกเกอร์ฟันด์ที่ยังไม่ถึงเป้าหมาย 23 กองทุน (อยู่ในระหว่างกำหนดเวลาการลงทุน 5 กองทุนและอยู่ในระหว่างลงทุนนอกเวลา (เกินtarget time) 18 กองทุน) และมีทริกเกอร์ฟันด์ที่ไม่ถึงเป้าหมายและเลิกกองทุน 18 กองทุน

 “เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของ บลจ. ทิสโก้ที่สามารถจับจังหวะการลงทุนในตลาดหุ้นได้อย่างแม่นยำจนกองทุนเปิด TISCOJ11 ถึงเป้าหมายเลิกโครงการ8% ได้ภายใน 27 วันเท่านั้น และนับเป็นทริกเกอร์ฟันด์กองที่ 5 ที่บลจ. ทิสโก้สามารถบริหารให้ถึงเป้าหมายเลิกโครงการได้ในปีนี้ ตอกย้ำภาพความเป็นผู้เชี่ยวชาญการลงทุนด้านทริกเกอร์ฟันด์ โดยก่อนหน้านี้ดัชนีตลาดหุ้นญี่ปุ่นเริ่มปรับลดลงมาจากปัจจัยค่าเงินเยนแข็งค่า แต่เราเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลกระทบระยะสั้นเท่านั้นจึงเป็นโอกาสจับจังหวะลงทุน หลังจากความตื่นตระหนกจาก Brexit เริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นฟื้นตัวและทำให้ TISCOJ11 ถึงเป้าหมายเลิกโครงการอย่างรวดเร็ว ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังคงเป็นทางเลือกในการลงทุนในลำดับต้นๆ เนื่องจากแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายเพิ่มเติมของทาง BoJ และอาจจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางรัฐบาลออกมาเช่นเดียวกันในช่วงไตรมาสที่ 3 ดังนั้นผู้ลงทุนสามารถหาจังหวะในการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้ต่อเนื่อง” นายสาห์รัช กล่าว

 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 25 ก.ค. 2559 เวลา : 07:21:24
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 2:59 pm