กองทุนรวม
บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุน KF-GBRAND เปิดโอกาสรับผลตอบแทนจากสินค้าแบรนด์ดัง


 


บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้ปันผล (KF-GBRAND) ชูศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาวจากการลงทุนในหุ้นของสินค้าแบรนด์ดังหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่มีฐานลูกค้ากระจายอยู่ทั่วโลก และมีอัตราการเติบโตของยอดขายที่ดี  เหมาะสำหรับเป็นหนึ่งในสินทรัพย์หลักที่พอร์ตการลงทุนคุณภาพสูงควรมี   เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 27 ก.ค. – 3 ส.ค. 59  

น.ส.ศิริพร  สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี  เปิดเผยว่า “จากสภาวะการลงทุนของตลาดการเงินการลงทุนทั่วโลกที่มีความผันผวนจากปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้อง  ส่งผลให้การลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอถือเป็นเรื่องที่มีความท้าทายเพิ่มมากขึ้น  บริษัทจึงได้คัดสรรผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่สม่ำเสมอ จึงเป็นที่มาของกองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้ปันผล        (KF-GBRAND) ที่ลงทุนในกองทุนหลัก Morgan Stanley Investment Funds – Global Brands Fund ที่มีประวัติการจัดตั้งมายาวนานกว่า 15 ปี  และสามารถสร้างผลตอบแทนได้เป็นบวกถึง 14 ปีปฏิทินนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน  โดยปีที่ผลการดำเนินงานของกองทุนหลักติดลบอยู่ในช่วงปี 2008 ที่เกิดวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ (Hamburger Crisis) ซึ่งวิกฤตการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปทั่วโลก (ที่มา : Morgan Stanley Investment Management ณ 30 เม.ย. 59)

กองทุนหลัก Morgan Stanley Investment Funds – Global Brands Fund  มีทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์การลงทุนในตลาดรวมกันกว่า 150 ปี บริหารจัดการโดย Morgan Stanley Investment  Management  ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำระดับโลก มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 4.05 แสนล้านเหรียญสหรัฐ  และมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมจัดการลงทุนมายาวนานกว่า 40 ปี    อีกทั้งเป็นบริษัทในกลุ่มของ MUFG ซึ่งเป็นกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดของโลก” (แหล่งข้อมูล : ข้อมูลบริษัทจาก Morgan Stanley Investment Management ณ 31 มี.ค. 59. MUFG เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Morgan Stanley (MS) โดยถือหุ้นในสัดส่วน 22%. Morgan Stanley Investment Management ถือหุ้นโดย MS 100% I ข้อมูลการจัดอันดับโดย S&P Global Market Intelligence , CNBC ณ 25 พ.ค. 59)

กองทุนหลักมุ่งเน้นลงทุนในบริษัทที่มีคุณภาพสูงทั่วโลก โดยให้ความสำคัญกับการคัดเลือกหุ้นรายตัวที่มีความทนทานต่อวัฎจักรเศรษฐกิจ  มีศักยภาพในการเติบโต มีฐานลูกค้าและแหล่งรายได้กระจายอยู่ทั่วโลกทั้งยุโรป  สหรัฐ  รวมถึงประเทศกำลังพัฒนาซึ่งมีศักยภาพในการสร้างรายได้ที่ดีจากการเติบโตของเศรษฐกิจและประชากร จึงช่วยกระจายความเสี่ยงในด้านการชะลอตัวของเศรษฐกิจของประเทศใดประเทศหนึ่งได้เป็นอย่างดี   และเป็นบริษัทที่มีอำนาจในการต่อรองราคา  มีคู่แข่งน้อยราย  มีความได้เปรียบทางการแข่งขันโดยอาศัยจุดแข็งจากแบรนด์ที่แข็งแกร่งซึ่งยากที่จะถูกลอกเลียนแบบ  และสามารถสร้างผลตอบแทนจากเงินลงทุนเพื่อการดำเนินธุรกิจในระดับสูงอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ กองทุนหลักยังหลีกเลี่ยงการซื้อหลักทรัพย์ในราคาที่แพงเกินไป  เมื่อเทียบกับกระแสเงินสดที่กิจการสร้างได้  โดยพอร์ตการลงทุนมีระดับราคาเมื่อเทียบกับกระแสเงินสดในปี 2560 ที่ประมาณ 20 เท่า หรืออัตราผลตอบแทนจากกระแสเงินสดที่ 4.9% เทียบกับอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปัจจุบันอยู่ที่ 1.8% 
(ที่มา : Morgan Stanley Investment Management  ณ 30 เม.ย. 59)

กลุ่มอุตสาหกรรมที่กองทุนหลักเลือกลงทุน เช่น บริษัทในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน เช่น อาหาร  เครื่องดื่ม  ของใช้ภายในบ้านและของใช้ส่วนตัวหลากหลายชนิด  โดยผลตอบแทนของกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคมีผลตอบแทนที่โดดเด่นเหนือกว่าตลาดโดยรวมในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา  และมีการเติบโตของกำไรสุทธิที่สูงกว่า MSCI World  ในขณะที่ระดับ พี/อี ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ   โดยหุ้นอันดับต้นๆที่กองทุนหลักเลือกลงทุน  อาทิ  Microsoft , L’Oreal  ,Unilever , Nestle  ,Twenty-First Century Fox เป็นต้น”  (ที่มา : Morgan Stanley Investment  Management  ณ 31 มี.ค. 59)

“บลจ.กรุงศรี เชื่อมั่นว่ากองทุน KF-GBRAND เหมาะที่จะเป็นหนึ่งในสินทรัพย์หลักที่ทุกพอร์ตการลงทุนคุณภาพสูงควรมี เพื่อรับมือกับสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูงเช่นในปัจจุบัน  และเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ  มูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 2,000 บาท ทั้งนี้  บริษัทได้จัดเตรียมโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่ลงทุนในกองทุน KF-GBRAND ในช่วงการเสนอขายครั้งแรกครบทุกๆ100,000บาท จะได้รับหน่วยลงทุนกองทุน  KF-GBRAND มูลค่า100 บาทด้วย”

“กองทุน KF-GBRAND ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ Morgan Stanley Investment Funds – Global Brands Fund (Class Z) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของNAV  ความเสี่ยงสูงระดับ 6  และการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเป็นไปตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหน่วยลงทุน”  น.ส.ศิริพร กล่าว
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 26 ก.ค. 2559 เวลา : 11:01:37
27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 5:36 am