กองทุนรวม
บลจ.กรุงศรี แนะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของประเทศเกิดใหม่ทั่วโลก


 


น.ส.ศิริพร  สินาเจริญ  กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี  ชี้ปัจจัยหนุนเพิ่มความน่าสนใจของตลาดเกิดใหม่    ทำให้มีเงินไหลเข้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กองทุนที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มตลาดเกิดใหม่ให้ผลตอบแทนที่ดีตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เชื่อเป็นจังหวะดีในการเพิ่มน้ำหนักลงทุน
จากสถานการณ์ในปัจจุบันที่ธนาคารกลางในหลายประเทศทั่วโลกมีการดำเนินนโยบายแบบผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ   โดยมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้อยู่ในระดับต่ำ และกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วบางประเทศมีการใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบ ส่งผลให้สภาพคล่องในระบบการเงินโลกยังมีอยู่สูง
“อีกทั้งเศรษฐกิจของประเทศเกิดใหม่เริ่มมีการฟื้นตัว และมีความเสี่ยงของค่าเงินลดลงเนื่องจากกลุ่มประเทศเกิดใหม่มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง   รวมทั้งการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED ซึ่งช้ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ทำให้มีเม็ดเงินเข้ามาที่ตลาดเอเชียทั้งในส่วนของตราสารหนี้และตราสารทุนซึ่งส่งผลดีต่อค่าเงินโดยรวมของประเทศเกิดใหม่”   
นอกจากนี้  การที่เศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นตัวและมีเสถียรภาพมากขึ้นก็ส่งผลดีต่อตลาดเกิดใหม่ให้ดีขึ้นตามไปด้วย  ทางด้านเศรษฐกิจอินเดียก็ยังคงมีการเติบโตในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง  โดย IMF คาดการณ์ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียในช่วงปี 2016 – 2017 จะมีการเติบโตปีละ 7.4%  และ GDP น่าจะโตเพิ่มได้อีกปีละประมาณ 0.5% จากการที่ประชุมวุฒิสภาของอินเดียมีมติเป็นเอกฉันท์ผ่านร่างกฎหมายจัดเก็บภาษีสินค้าและบริการ (Good and Services Tax หรือ GST) ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และลดต้นทุนให้กับภาคธุรกิจ  ถือว่าเป็นหนึ่งในนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดของรัฐบาลโมดี   จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้นถือเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้มีเงินทุนไหลเข้ามาในตลาดเกิดใหม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
น.ส.ศิริพร กล่าวถึงกองทุนเปิดกรุงศรีอีเมอร์จิ้งมาร์เก็ตส์อิควิตี้ (KF-EM) ที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มตลาดเกิดใหม่ว่า ”ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 7.08% ใกล้เคียงกับดัชนีชี้วัดที่ 6.80 %(ที่มา : บลจ. กรุงศรี ณ 29 ก.ค. 59 / ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต) และยังมีแนวโน้มที่ดีต่อไป ถือเป็นจังหวะสำหรับการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ทั่วโลกที่มีศักยภาพและมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง เนื่องจากมีหุ้นคุณภาพสูงให้เลือกลงทุนจำนวนมาก  มูลค่าตลาดหุ้นเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง” 

กองทุนเปิดกรุงศรีอีเมอร์จิ้งมาร์เก็ตส์อิควิตี้ (KF-EM) มีนโยบายลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ  Vontobel Fund - Emerging Markets Equity(กองทุนหลัก) เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของ NAV ความเสี่ยงสูงระดับ 6  และการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเป็นไปตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหน่วยลงทุน  

สำหรับผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนของกองทุน KF-EM  อยู่ที่ 7.00% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 3.81%  ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 13.48% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 14.83%  ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ -0.01% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ -4.20%  ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 4.48% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 0.85% ผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งกองทุน อยู่ที่ 3.46% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ -0.52%”)  น.ส.ศิริพร กล่าว (ที่มา : บลจ.กรุงศรี ณ 29 ก.ค. 59 /ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม  มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / เอกสารวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน)
“กองทุน KF-EM เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีมุมมองว่าเศรษฐกิจและหุ้นของประเทศตลาดเกิดใหม่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี และต้องการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศเพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาว โดยสามารถรับความผันผวนของตลาดในระยะสั้นจากการลงทุนในหุ้นได้  ทั้งนี้ บริษัทได้จัดเตรียมโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่ลงทุนในกองทุน KF-EM ระหว่างวันที่ 1 – 31 สิงหาคม 2559  ครบทุกๆ 100,000 บาท จะได้รับหน่วยลงทุนกองทุน  KF-EM  มูลค่า 100 บาท”
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 23 ส.ค. 2559 เวลา : 14:44:04
04-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 4, 2024, 4:02 am