พิธีเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ 'สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก กับ การสาธารณสุขไทย 'ความรู้เชิงประยุกต์เพื่อมวลมนุษยชาติ” ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ทรงเป็นประธานเปิดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก กับ การสาธารณสุขไทย : ความรู้เชิงประยุกต์เพื่อมวลมนุษยชาติ” เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ร่วมกับ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ด้วยความร่วมมือของคณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทย์ศาสตร์ และคณะเภสัชศาสตร์ จาก ทุกสถาบันการศึกษา ได้ร่วมจัดขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประเทศชาติ และทรงเป็นพระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบัน และการสาธารณสุขไทย โดยมี ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวานิช รองประธานกรรมการมูลนิธิฯ, ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ ประธานกรรมการจัดงานฯ, คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม ประธานกรรมการบริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และรองประธานกรรมการมูลนิธิฯ, เกตุวลี นภาศัพท์, พาสินี ลิ่มอติบูลย์ กรรมการ บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และชาลี จารุวัสตร์ ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านกิจการองค์กรสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด พร้อมด้วยคณะกรรมการจัดงาน เฝ้าฯ รับเสด็จ
สำหรับการเสด็จพระราชดำเนินในครั้งนี้ ยังได้พระราชทานรางวัล แก่บัณฑิตแพทย์ บัณฑิตทันตแพทย์ และบัณฑิตเภสัชศาสตร์ดีเด่น ที่ได้รับการคัดเลือกจากมูลนิธิฯ และพระราชทานเกียรติบัตรบัณฑิตแพทย์ บัณฑิตทันตแพทย์ และบัณฑิตเภสัชศาสตร์ยอดเยี่ยม ที่มีผลการเรียนดีเยี่ยมของแต่ละสถาบัน พร้อมทั้งพระราชทานทุนการศึกษาแก่นิสิตนักศึกษาแพทย์ ทันตแพทย์ และเภสัชกร ยังความปลาบปลื้มและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่เหล่าบัณฑิตแพทย์และนิสิตนักศึกษา ตลอดจนครอบครัวที่มาร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จเป็นอย่างยิ่ง พร้อมทรงรับทูลเกล้าถวายวัตถุมงคลและหนังสือจากพระธรรมธัชมุนี เจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม ประธานกรรมการมูลนิธิฯ
จากนั้นได้เสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ เกี่ยวกับพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจโดยเฉพาะด้านการแพทย์ และการสาธารณสุขไทย พร้อมกันนี้ ยังมีนิทรรศการให้ความรู้จากความร่วมมือของคณะแพทย์ ทันตแพทย์ศาสตร์ และเภสัชศาสตร์ อาทิเช่น การพัฒนาแขนหุ่นยนต์ CUREs (Chulalongkorn University Rehabilitation Robotic Exoskeleton system) เพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นวิธีการฟื้นฟูสมัยใหม่ ใช้ฝึกการเคลื่อนไหวของหัวไหล่ ข้อศอก และแขนท่องล่างร่วมกับระบบเกม ควบคุมด้วยกลไกปรับแรงอัตโนมัติตามกำลังกล้ามเนื้อของผู้ป่วยแต่ละราย, การผ่าตัดใส่กระดูกเทียมจากโลหะไทเทเนียมโดยการพิมพ์ภาพสามมิติ เพื่อใส่ทดแทนกระดูกนิ้วหัวแม่มือ ที่ถูกทำลายจากเนื้องอกกระดูก, การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก ได้แก่ นวัตกรรมอาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก และน้ำลายเทียมชนิดเจลสำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก, เครื่องมือ 2M2A กับการแก้ไขภาวะหยุดหายใจจากการอุดกั้นขณะหลับ, โพรไบโอติกป้องกันฟันผุ, น้ำยาบ้วนปากจากมะหาดสมุนไพรไทยที่ช่วยยับยั้งการเติบโตของเชื้อก่อโรคในช่องปาก และนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับบัญชียาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖ พร้อมเสด็จฯ ทอดพระเนตรหน่วยบริการด้านสุขภาพและอนามัยที่มาให้บริการแก่ประชาชน โดยไม่คิดค่า ใช้จ่ายใดๆ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นประจำทุกปี
สำหรับบัณฑิตแพทย์ดีเด่นประจำปี ๒๕๕๙ ได้แก่ นายแพทย์ณัฐดนัย เนติ สำเร็จการศึกษา เกียรตินิยมอันดับ ๑ (เหรียญทอง) จากคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ปัจจุบัน ปฏิบัติงานเป็นแพทย์พี่เลี้ยง โรงพยาบาลพุทธชินราช จ. พิษณุโลก กล่าวว่า “รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ และมีความตั้งใจที่จะนำความรู้ที่ได้ศึกษาเล่าเรียน มาใช้ในการทำงานช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างสุดความสามารถ เพื่อประชาชนให้มีสุขภาพอนามัยที่ดีและมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงต่อไปอีกด้วย”
ส่วนบัณฑิตทันตแพทย์ดีเด่นประจำปี ๒๕๕๙ ได้แก่ ทันตแพทย์หญิง ณัฐวรินทร ธาตุดี สำเร็จการศึกษาจาก คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เกียรตินิยมอันดับ ๑ ปัจจุบัน ปฏิบัติงานฝ่ายทันตกรรมสาธารณสุข โรงพยาบาลศรีสาคร จ. นราธิวาส กล่าวว่า “รางวัลนี้ถือเป็นเกียรติอย่างสูงสุดสำหรับตัวเอง และครอบครัว โดยตนเองได้ตั้งปณิธานอันแน่วแน่ที่จะเชื่อมโยงความรู้ทางทฤษฎีที่ได้ศึกษานำมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน โดยจะรับผิดชอบหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เพื่อผู้ป่วยทุกคนที่มารับการรักษา”
และบัณฑิตเภสัชศาสตร์ดีเด่นประจำปี ๒๕๕๙ ได้แก่ เภสัชกรหญิงวิภาดา นาคปั้น สำเร็จการศึกษาจาก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ด้วยเกรดเฉลี่ยสะสม ๓.๘๙ เกียรตินิยมอันดับ ๑ เหรียญทอง ปัจจุบัน ปฏิบัติงานโรงพยาบาลได้กล่าวว่า “รู้สึกภูมิใจได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ และอยากฝากถึงรุ่นน้องให้ตั้งใจเรียนให้มาก ใส่ใจในการศึกษาหาความรู้ เพราะสิ่งที่เรากำลังศึกษานั่น จะมีประโยชน์กับประชาชน และทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติต่อไป”
ภายในงานปีนี้ยังมีการจัดเสวนาให้ความรู้ทางวิชาการด้านการแพทย์ การตอบปัญหาทางวิชาการชิงรางวัล รวมทั้งการให้บริการด้านสุขภาพและอนามัยแก้ประชาชนทั่วไป อาทิ การตรวจวัดสายตาจากโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง), การตรวจโรคผิวหนังจากสถาบันโรคผิวหนัง และการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
ข่าวเด่น