ข่าวประชาสัมพันธ์
ขบ.เผยผล!! การตรวจความพร้อมรถโดยสารและคนขับตาม Checklist ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรถ 212 แห่งทั่วประเทศ


 นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงผล การดำเนินการร่วมกับบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ทหาร ตำรวจ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจังหวัด และหน่วยงานท้องถิ่นในการ “สแกนรถโดยสาร” ทุกคันก่อนออกเดินทาง ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดที่กำหนดรวม 212 แห่งทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นเตือนให้ผู้ประกอบการและพนักงานขับรถตระหนักถึงความปลอดภัยมากขึ้น และรองรับการเดินทางเทศกาลปีใหม่2561 โดยเข้มงวดตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ ตามรายการตรวจสอบที่กรมการขนส่งทางบกจัดทำขึ้น (Checklist) เฉพาะวันที่ 5 ธันวาคม 2560ตรวจรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถรวมทั้งสิ้น 15,344 คัน พบรถโดยสารมีข้อบกพร่องรวมทั้งสิ้น 133 คัน โดยสั่งเปลี่ยนรถอีกจำนวน คัน เนื่องจาก GPS ไม่พร้อมใช้งาน และยางหลังด้านซ้ายบวม ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย หากนำไปใช้งานบนท้องถนน ส่วนที่เหลือจำนวน 131 คัน เป็นความบกพร่อง ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามข้อหาความผิดแล้วทุกราย ส่วนการตรวจความพร้อมด้านพนักงานขับรถ พบความผิดที่ไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการให้บริการจำนวน 8 คน ทั้งนี้ส่งผลให้สถิติการสแกนรถโดยสารรวม 5 วัน ตั้งแต่ 1–5 ธันวาคม 2560 ตรวจรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถรวมทั้งสิ้น 72,897 คัน พบข้อบกพร่องด้านตัวรถรวมจำนวน 606 คัน ในจำนวนนี้เป็นความบกพร่องที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยรวม 27 คัน โดยดำเนินการพ่นห้ามใช้รถจำนวน 2 คัน และสั่งให้เปลี่ยนรถจำนวน 27 คัน ส่วนพนักงานขับรถพบเฉพาะความผิดที่ไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการให้บริการรวมจำนวน44 ราย

 

 

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนตลอดช่วงเทศกาล ขอความร่วมมือผู้ประกอบการควบคุมการให้บริการให้มีมาตรฐานความปลอดภัย ปฏิบัติตามเงื่อนไขการเดินรถ เข้มงวดตรวจสอบพฤติกรรมคนขับ ห้ามเก็บอัตราค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด ห้ามบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่งโดยเด็ดขาด ให้เดินรถเริ่มต้นออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารและต้องส่งผู้โดยสารถึงที่หมายด้วยความสะดวกและปลอดภัยด้านพนักงานขับรถต้องมีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้อง ไร้สารเสพติด และแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ ชั่วโมงการขับรถไม่เกินที่กฎหมายกำหนด หากขับรถติดต่อกันครบ 4 ชั่วโมง ต้องพักเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 30 นาที จึงจะสามารถขับรถต่อไปได้อีกไม่เกิน 4 ชั่วโมงติดต่อกัน เมื่อครบระยะเวลาดังกล่าวต้องเปลี่ยนคนขับทันที ส่วนสภาพตัวรถทั้งภายนอกและภายใน รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ต้องครบถ้วนและมีความปลอดภัยสูงสุด เช่น ระบบเบรก ยาง ล้อ เข็มขัดนิรภัย ประตูรถ ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก เป็นต้น ทั้งนี้ประชาชนสามารถร่วมตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานขับรถด้วยเทคโนโลยี GPS Tracking ผ่าน application “DLT GPS” ทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะแสดงผลข้อมูลของแบบ Realtime Online เช่นเดียวกันกับข้อมูลที่แสดงผลในศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก และศูนย์ฯ GPS ขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ  โดยหากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมาย รถโดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัย ขับเร็วเกินอัตราที่กำหนด หรือมีพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายแจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 06 ธ.ค. 2560 เวลา : 19:12:34
06-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 6, 2024, 6:16 am