ข่าวประชาสัมพันธ์
ขบ. เดินหน้าต่อเนื่อง!!! สแกนรถโดยสารและคนขับรถทุกคน ทุกคัน ทุกสถานีขนส่งและจุดจอดทั่วไทย


กรมการขนส่งทางบก เดินหน้าต่อเนื่อง!!! สแกนรถโดยสารและคนขับรถทุกคน ทุกคัน ทุกสถานีขนส่งและจุดจอดทั่วไทย เข้มข้นยกกำลังสาม ช่วงสงกรานต์ 11-17 เมษายน 2561 กำชับผู้ประกอบการต้องเข้มงวดตรวจรถและคนขับอย่างใกล้ชิด ฝ่าฝืนโทษหนักและต้องรับผิดชอบทุกกรณี พร้อมเผย!!! ผลตรวจรถโดยสารและคนขับ ช่วง 7 วันเตรียมพร้อม (4-10 เมษายน 2561) ตรวจรถโดยสารและคนขับรวม 121,677 ราย

 

 

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงผลการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน เทศกาลสงกรานต์ 2561 ในช่วง 7 วันเตรียมพร้อมรองรับการเดินทางตั้งแต่วันที่ 4-10 เมษายน 2561 ตามมาตรการเข้มข้น สแกนความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถก่อนออกเดินทาง  สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรวม 212 แห่งทั่วประเทศ ร่วมกันระหว่าง กรมการขนส่งทางบก, บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.), สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.), ทหาร, ตำรวจ และหน่วยงานท้องถิ่น รวมถึงมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น จริงจัง และติดตามพฤติกรรมการขับรถและการใช้ความเร็วภายใต้ที่กฎหมายกำหนด ตลอดการเดินทางด้วยระบบ GPS Trackingโดยตรวจความพร้อมของรถโดยสารและพนักงานขับรถจำนวนทั้งสิ้น 121,677 คัน (เป็นรถโดยสารหมวด 2 กรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด จำนวน 62,075 คัน และรถโดยสารหมวด 3 วิ่งระหว่างจังหวัด จำนวน 59,602 คันพบรถที่มีข้อบกพร่องจำนวน 325 คัน หรือคิดเป็นร้อยละ 0.27 ของจำนวนรถที่ตรวจความพร้อมทั้งหมด ในจำนวนนี้เป็นความบกพร่องที่ส่งผลกระทบกับความปลอดภัยจำนวน 59 คัน สั่งให้เปลี่ยนรถจำนวน 21 คัน และมีการพ่นห้ามใช้รถจำนวน 38 คัน เนื่องจากเป็นข้อบกพร่องที่กระทบต่อความปลอดภัย อาทิ ระบบ GPS Tracking ไม่เชื่อมต่อกับกรมการขนส่งทางบก และปัญหาสภาพยางชำรุด ส่วนการตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถ พบพนักงานขับรถฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดจำนวน 23 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 0.02 ของจำนวนที่ตรวจความพร้อมทั้งหมด โดยในจำนวนนี้ได้ดำเนินการสั่งเปลี่ยนพนักงานขับรถจำนวน 9 ราย ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้เพิ่มความเข้มข้นยกกำลังสามทุกมาตรการ เพื่อรองรับการเดินทางระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2561พร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่เดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ต้องซื้อตั๋วโดยสารที่ช่องจำหน่ายตั๋ว และขึ้นรถที่ชานชาลาภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารเท่านั้น เพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาส โดยจัดเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584 เฉพาะกิจ” ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่งทั่วประเทศ และภายในกรมการขนส่งทางบก

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการเพิ่มมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยรถโดยสารเช่าเหมา ระหว่างทางบนเส้นทางหลัก ตั้งจุดตรวจใน 16 จังหวัด รวม 19 แห่งทั่วประเทศ พร้อมเน้นย้ำผู้ประกอบการต้องควบคุมการให้บริการให้มีมาตรฐานความปลอดภัย ปฏิบัติตามเงื่อนไขการเดินรถ เข้มงวดตรวจสอบพฤติกรรมพนักงานขับรถและพนักงานประจำรถอย่างเคร่งครัด ด้านการให้บริการต้องเป็นธรรม ห้ามเก็บอัตราค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด ห้ามบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่งโดยเด็ดขาด ให้เดินรถเริ่มต้นออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารและต้องส่งผู้โดยสารถึงที่หมายด้วยความสะดวกและปลอดภัยพนักงานขับรถต้องมีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้อง ไร้สารเสพติด แอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ ชั่วโมงการขับรถไม่เกินที่กฎหมายกำหนด หากพบการกระทำความผิดซ้ำ พักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถและใบอนุญาตประกอบการขนส่งของผู้ประกอบการที่ไม่ให้ความร่วมมือร่วมติดตามรถโดยสารสาธารณะผ่านแอพพลิเคชั่น DLT GPS ตรวจสอบความเร็ว ชั่วโมงการทำงาน รู้พิกัด รู้จุดจอด ร้องเรียนพฤติกรรมเสี่ยงได้ตลอด 24 ชั่วโมง หากพบรถโดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัย ขับเร็วเกินอัตราที่กำหนด หรือมีพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อการเดินทางอย่างปลอดภัยเปิดไฟหน้าตลอดเวลาขณะขับรถ ไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดด้วยการขับช้าและควบคุมให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดการเดินทาง อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 12 เม.ย. 2561 เวลา : 12:31:39
05-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 5, 2024, 8:23 pm