แม้ว่าปัจจุบันโรงภาพยนตร์เมเจอร์จะเป็นผู้นำตลาดในธุรกิจโรงภาพยนตร์ในประเทศไทย ด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดเกือบ 80% แต่โรงภาพยนตร์เมเจอร์ก็ยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการเริ่มขยายสาขาโรงภาพยนตร์เข้าไปในจังหวัดขนาดเล็ก และอำเภอขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพ  เพื่อให้คนต่างจังหวัดได้สัมผัสถึงอรรถรสของการดูหนังในโรงภาพยนตร์ โดยในปี 2561 นี้ โรงภาพยนตร์เมเจอร์คาดหวังว่าจะสามารถขยายโรงภาพยนตร์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศได้ครบ 800 โรงได้อย่างแน่นอน จากปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 750 โรง

นอกจากจะให้ความสำคัญกับการขยายสาขาแล้ว โรงภาพยนตร์ยังให้ความสำคัญกับการทำการตลาดในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้บริการตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด และจากการที่โรงภาพยนตร์เมเจอร์มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย  ทำให้ต้องทำการบ้านมากขึ้น  ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์ที่เมเจอร์นำมาใช้ เพื่อแยกกลุ่มลูกค้าให้มีความชัดเจนมากขึ้น คือ การสร้างฐานลูกค้าประจำผ่านบัตรสมาชิกเอ็ม เจน(M Gen)

ปัจจุบันโรงภาพยนตร์เมเจอร์มีฐานสมาชิกบัตร M Gen ประมาณ 3-4 ล้านราย ในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นฐานลูกค้าบัตร M Gen student (นักเรียน นักศึกษา) 50% บัตร M Gen Adult(ผู้ใหญ่) 30% ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 20% เป็นบัตร M Gen freedom(วัยเกษียณ) บัตร  M Gen Fristclass (กลุ่มคนที่ดูหนังตั้งแต่ 39 เรื่องขึ้นไปต่อปี) บัตร M Gen Imax (ลูกค้าที่ชอบดูโรงไอแมกซ์) และบัตรM Gen Kids (เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี)

จากความแข็งแกร่งของฐานลูกค้ากลุ่มนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีความแข็งแกร่ง ทำให้โรงภาพยนตร์เมเจอร์มองเห็นโอกาสที่จะขยายฐานลูกค้ากลุ่มอื่นให้มีความแข็งแกร่งตามไปด้วย และกลุ่มที่โรงภาพยนตร์เมเจอร์มองเห็นโอกาส คือ กลุ่ม เด็ก เนื่องจากปัจจุบันฐานลูกค้ากลุ่มเด็กมีอยู่ที่ประมาณ 2.5 แสนราย ซึ่งถือว่ามากพอสมควร หากโรงภาพยนตร์เมเจอร์สามารถทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้เป็นลูกค้าประจำที่มีความแอคทีฟได้ก็จะทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้เป็นฐานลูกค้าที่สำคัญในอนาคต เพราะเด็กจะมีพัฒนาการเติบโตไปเรื่อยๆ

เมื่อกำหนดเป้าหมายและวางแผนการตลาดเรียบร้อย ล่าสุดได้จับมือร่วมกับบริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวโรงภาพยนตร์เด็กเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่  เมกา ซีนีเพล็กซ์ บางนา ด้วยการนำแบรนด์ผลิตภัณฑ์เด็ก โคโดโม จากประเทศญี่ปุ่น  เข้ามาร่วมสนับสนุนเป็น Naming Sponsor ในชื่อ “KODOMO Kids Cinema” จำนวน 1 โรง โดยเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา  เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าเด็กและครอบครัวให้เพิ่มขึ้น

นายนิธิ พัฒนภักดี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  การที่บริษัทเลือกโรงภาพยนตร์เมกา ซีนีเพล็กซ์ บางนา เป็นแห่งแรกในการเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์เด็ก เพราะย่านบางนาเป็นย่านที่มีที่พักอาศัย หมู่บ้านมากกว่า 290 แห่ง และสถานศึกษาในระดับประถมศึกษาตอนต้น โรงเรียนนานาชาติ อีกกว่า 31 แห่ง  บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสในการเปิดโรงภาพยนตร์เด็ก  เพื่อบริการฉายภาพยนตร์ที่เหมาะกับกลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ที่มีลูกอายุระหว่าง 5-12 ปี เพื่อให้เด็กๆ ได้สัมผัสประสบการณ์การชมภาพยนตร์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ และมีความสนุกสนานไปพร้อม ๆ กันแบบเฉพาะกลุ่มอย่างเป็นส่วนตัว 

นอกจากนี้ การเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ดังกล่าวยังมีส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาการด้านความคิดและอารมณ์ของเด็ก พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนจากค่ายภาพยนตร์ต่าง ๆ ที่พร้อมจะส่งภาพยนตร์เด็กเข้าฉายหลากหลายแนวให้เด็ก ๆ ได้เลือกชม เช่น  แอนิเมชั่น, การ์ตูน และผจญภัย เป็นต้น

เมื่อได้เข้ามาภายในโรงภาพยนตร์ KODOMO Kids Cinema เด็กๆ จะได้พบกับบริการเครื่องเล่น Playland ดินแดนแห่งความสุข พร้อมบ่อลูกบอลหลากสีสัน และสไลเดอร์ ไว้ให้เด็ก ๆ ได้เล่นก่อนชมภาพยนตร์  และมีเก้าอี้สีสันแนวลูกกวาด จำนวน 84 ที่นั่ง เพื่อสร้างบรรยากาศความสดใสให้กับโรงภาพยนตร์ 

นายนิธิ กล่าวต่อว่า  การเปิดโรงภาพยนตร์เด็กครั้งนี้  ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตอบสนองความต้องการของกลุ่มพ่อแม่รุ่นใหม่ที่นิยมพาลูก ๆ ไปสัมผัสประสบการณ์นอกห้องเรียน ซึ่งภาพยนตร์ก็นับเป็นกิจกรรมหนึ่งที่พ่อแม่อยากให้ลูก ๆ ได้เรียนรู้ แต่ที่ผ่านมาอาจจะติดปัญหาเรื่องการเข้าชมในโรงภาพยนตร์ปกติที่อาจไม่เอื้ออำนวย และยังไม่มีภาพยนตร์เฉพาะสำหรับเด็ก จึงไม่สามารถตอบสนองความต้องการให้กับลูกๆ ได้แบบเฉพาะกลุ่ม 

จากปัจจัยดังกล่าวโรงภาพยนตร์เมเจอร์ จึงเล็งเห็นโอกาส  ด้วยการสร้างโรงภาพยนตร์ KODOMO Kids Cinema ขึ้นมา  เพื่อเปิดตลาดไปสู่การสร้างทางเลือกใหม่ในการใช้โรงภาพยนตร์เด็กทำกิจกรรมสันทนาการร่วมกันภายในครอบครัว และเวิร์กช็อปที่หลากหลาย รวมทั้ง เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของเด็ก ๆ และผู้ปกครอง เพื่อแลกเปลี่ยนและเพิ่มทักษะการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และยังสามารถใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมสำหรับเด็ก ๆ ซึ่งสามารถช่วยปูพื้นฐานพฤติกรรมของเด็กให้เลือกทำกิจกรรมและใช้เวลาว่างไปในทางที่เหมาะสม เช่น กิจกรรมประกวดร้องเพลง, เต้น, เครื่องแต่งกาย, วาดภาพ, ระบายสี  และแฟชั่นโชว์  ซึ่งจะให้ทั้งความสนุกและสนับสนุนพัฒนาการการเรียนรู้ใหม่ ๆ ของเด็กได้อีกด้วย

นายนิธิ กล่าวอีกว่า การเปิดโรงภาพยนตร์ KODOMO Kids Cinema ครั้งนี้ จะทำให้เกิดการโฟกัสทำการตลาดแบบ Segmentation กลุ่มเด็กและครอบครัวอย่างชัดเจนและจริงจังมากขึ้น คาดว่าจะทำให้ฐานกลุ่มลูกค้าเด็กอายุไม่เกิน 12 ปีเพิ่มขึ้น และสมาชิก M GEN Kids ก็จะเพิ่มขึ้นด้วยจากปัจจุบันที่มีอยู่ 2.5 แสนราย เด็ก ๆ สมัครสมาชิก M GEN Kids ในราคาเพียง 50 บาท โดยสามารถใช้เป็นส่วนลดบัตรชมภาพยนตร์ได้ถึง 90 บาท ซึ่งในส่วนของบัตรชมภาพยนตร์ของโรงภาพยนตร์  KODOMO Kids Cinema  จะเริ่มต้นที่ 200 บาท สำหรับเก้าอี้ปกติ, เก้าอี้ฮันนีมูน 220 บาท, Single Sofa Bed 250 บาท  และ Double Sofa Bed คู่ละ 500 บาท

ส่วนรอบฉายในวันธรรมดา จันทร์-ศุกร์  จะฉายวันละ 4 รอบ ระหว่างเวลา 11.00-19.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันละ 5 รอบ ระหว่างเวลา 10.00-20.00 น.

 อย่างไรก็ดี เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มลูกค้าครอบครัวพาเด็กๆ มาชมภาพยนตร์มากขึ้น โรงภาพยนตร์เมเจอร์ได้มีการทำโปรโมชั่นในช่วงแรกของการเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ KODOMO Kids Cinema  ให้เด็ก ๆ สามารถสมัครสมาชิก M GEN Kids ในราคาพิเศษ 269 บาท พร้อมรับฟรีชุด Kids Welcome Set ในกระเป๋าผ้าร่ม ประกอบด้วย บัตรชมภาพยนตร์ฟรี 1 ที่นั่ง, บัตรโยนโบว์ลิ่งฟรี 2 เกม หรือ บัตรร้องคาราโอเกะฟรี 1 ชั่วโมง หรือ บัตรเล่นไอซ์สเก็ตฟรี 90 นาที, กระบอกน้ำ, กล่องดินสอ และผลิตภัณฑ์เด็กจากโคโดโม รวมมูลค่า 1,200 บาท ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการไป 2-3 เดือน โรงภาพยนตร์เมเจอร์มีแผนที่จะขยายสาขาต่อไปในย่านรังสิต และบางใหญ่เพิ่มเติม