หากพูดถึงย่านการค้าที่มีชื่อเสียงใจกลางกรุงหลายคนคงจะนึกถึง “ย่านราชประสงค์” เพราะนอกจากจะเป็นย่านธุรกิจการค้าและแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญของกรุงเทพฯแล้ว สถานที่แห่งนี้ยังถือเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ในการทำกิจกรรมรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง หรือการเฉลิมฉลอง

ปัจจุบันย่านราชประสงค์ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกและผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในย่านประมาณ 600,000 คนต่อวัน  เนื่องจากโรงแรมระดับ 5 ดาว ไว้ต้อนรับลูกค้ามากกว่า 4,000 ห้อง มีพื้นที่ช้อปปิ้งรวม 884,200 ตร.ม. มีร้านค้าภายในย่าน 5,500 ร้านค้า  มีอาคารสำนักงานรองรับธุรกิจต่างๆ มากกว่า 169,000 ตร.ม. 

นอกจากนี้  ย่านราชประสงค์ยังเป็นศูนย์กลางศิลปะวัฒนธรรมโดยรวมเทวสถานของมหาเทพศักดิ์สิทธิ์ 8 พระองค์ไว้ในบริเวณเดียวกัน ประกอบด้วย 

1. ศาลพระตรีมูรติ ณ เซ็นทรัลเวิลด์ 

2. พระพิฆเนศวร ณ ห้างอิเซตัน  

3. พระแม่อุมาเทวี ณ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ  

4. พระลักษมี ณ ศูนย์การค้าเกษร  

5. พระนารายณ์ทรงสุบรรณ ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล 

6.พระนารายณ์ประทับยืนบนพญาอนันตนาคราช ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

7. ศาลท่านท้าวมหาพรหม ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ และ  

8. ท้าวอัมรินทราธิราช  แห่งศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า

ด้วยระบบการคมนาคมที่ครบถ้วนในย่านราชประสงค์ ได้แก่ ทางรถยนต์ เรือ และรถไฟฟ้า จึงทำให้ย่านราชประสงค์มีนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ และบุคคลทั่วไปเข้ามาใช้บริการย่านเป็นจำนวนมาก  ทั้งนี้  เพื่อให้ย่านราชประสงค์มีความสะดวกสบายในการเดินทางมากขึ้น  ทางสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) จึงได้มีการผนึกกำลังกับสมาชิกในย่านสร้างทางเดินลอยฟ้า(Sky - Walk) ขึ้นในปี 2545 เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางเชื่อมระหว่าง 2 สถานี คือ สถานีชิดลม และสถานีสยาม

จากความสำเร็จที่ได้รับจากการสร้าง Sky – Walk ส่งผลให้ RSTA  และสมาชิกเดินหน้าพัฒนาโครงข่ายเส้นทางเดินลอยฟ้าเพิ่มขึ้น  เพื่อเชื่อมต่อระหว่างอาคารต่างๆ ภายใต้ชื่อ Ratchaprasong Walk หรือ R-Walk ด้วยเงินลงทุน 715 ล้านบาท  โดยเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา R-Walk  ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์มุ่งสู่ทิศเหนือเชื่อมต่อกับ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ราชดำริ เป็นที่เรียบร้อย  ทำให้ R-Walk  เชื่อมต่ออาคารต่างๆ มากถึง 18 อาคาร ความยาวรวม 1,150 เมตร แบ่งการเดินเป็น 2 เส้นทาง คือ ทิศตะวันออกสู่ทิศตะวันตก เริ่มต้นจากสถานีรถไฟฟ้าชิดลมมุ่งสู่แยกเฉลิมเผ่า ความยาวกว่า 650 เมตร และทิศใต้สู่ทิศเหนือ จากแยกราชประสงค์ ผ่านเกษรวิลเลจ สู่ เดอะ แพลทินัม แฟชั่นมอลล์ ความยาวกว่า 500 เมตร ทำให้ขณะนี้มีผู้ใช้บริการบน R-Walk รวม 100,000 คนต่อวัน 

แผนการดำเนินงานดังกล่าวถือเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงข่ายทางเดินในย่านราชประสงค์ ซึ่งเป็นแผนพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสังคมและชุมชน  เพื่อให้เกิดการเดินท่องเที่ยวและใช้ชีวิตที่สะดวกสบายและปลอดภัย นำไปสู่การขยายตลาดและรองรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาเพิ่มขึ้น สร้างย่านราชประสงค์ให้เป็นย่านต้นแบบในการพัฒนาไปข้างหน้าอย่างแท้จริง

นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) กล่าวว่า  พัฒนาการของย่านราชประสงค์ รวมถึง R-Walk นั้นเกิดจากความร่วมมืออันแข็งแกร่งในการทำงานของ ภาครัฐ เอกชน และชุมชน ร่วมกัน ซึ่งต้องขอขอบคุณความร่วมมือร่วมใจกันของพันธมิตรทุกฝ่าย ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ และสมาชิกภายในย่านราชประสงค์ ที่ร่วมกันมอบชีวิตไร้รอยต่อผ่านโครงข่ายทางเดินเชื่อมต่ออาคารรวม 18 อาคาร ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์การสร้าง “Walkable District – ย่านนี้เพื่อคนเดิน” ทำให้คนสามารถเดินทางได้ไกลและเข้าถึงสถานที่ต่างๆ ในย่านได้มากขึ้น 

นอกจากนี้ โครงข่ายทางเดินลอยฟ้ายังทำให้เกิดการหมุนเวียนและการสัญจรภายในย่าน นับเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนชีวิต (Life) เศรษฐกิจ (Economy) ให้เกิดขึ้นควบคู่ไปกับสไตล์ (Style) ซึ่งเมื่อคนสามารถเดินได้ไกลขึ้น เส้นทางที่ตัดผ่านและเชื่อมต่อทำให้ย่านราชประสงค์เกิดพื้นที่ใหม่ๆ เช่น Co-Working Space ที่มากที่สุด เพื่อเอาใจคนรุ่นใหม่ที่ทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาและเกิดเป็นไลฟ์สไตล์ขึ้น 

นอกจากจะให้ความสำคัญในด้านของเส้นทางการเดินทางที่มีความสะดวกสบายแล้ว RSTA ยังมีแผนที่จะเดินหน้าเชื่อมต่อโครงข่ายทางเทคโนโลยีและพัฒนาในหลายๆ ด้านของโครงการ  เพื่อให้ย่านราชประสงค์ก้าวสู่การเป็น Smart District ย่านแรกในประเทศไทย  ด้วยการให้ย่านนี้เป็นย่านท่องเที่ยวที่ไร้เงินสด พัฒนาการเชื่อมต่อด้านบริการ ผ่านอินเทอร์เน็ต ฟรีไว-ไฟ หรือแอพพลิเคชั่น 

 นายชาย กล่าวต่อว่า สมาคมฯมีเป้าหมายที่จะพัฒนาการเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟฟ้าในย่านนี้ให้เชื่อมเข้าสู่ย่านธุรกิจ ผ่านโครงข่ายเส้นทางเดินในเส้นทางสีลม ราชประสงค์ ประตูน้ำ และมักกะสัน เพื่อรองรับผู้ใช้บริการและนักท่องเที่ยวจากสนามบินได้โดยตรง เพื่อผลักดันให้กรุงเทพฯ ก้าวขึ้นสู่มหานครชั้นนำระดับโลก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับผู้ประกอบการในพื้นที่เพื่อร่วมลงทุน คาดจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้  

ขณะเดียวกัน RSTA ยังมีโครงการพัฒนาพื้นที่คลองซุง เพื่อพัฒนาเส้นทางเดินและท่าเรือบริเวณคลองแสนแสบ เพื่อให้ความสวยงามและสะดวกสบายมากขึ้น เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุนหลัก 100 ล้านบาท และการปรับปรุงน่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้  เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาร่วมงานในช่วงเทศกาลปีใหม่ 

ด้าน พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ย่านราชประสงค์เป็นย่านที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการทุ่มเทพัฒนาจนยกระดับเป็นย่านแห่งธุรกิจและไลฟ์สไตล์สำคัญของประเทศ จนเรียกได้ว่า “ราชประสงค์ โมเดล” ต้นแบบของย่านธุรกิจ ไลฟ์สไตล์ และการท่องเที่ยวแห่งแรกของประเทศไทย นับเป็นจุดศูนย์กลางในการเชื่อมต่อการคมนาคมที่ครบวงจร ก่อให้เกิดการขับเคลื่อนทางธุรกิจ การท่องเที่ยว กิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ มากมาย 

จากการพัฒนาย่านและทำกิจกรรมต่างๆ ภายในย่านฯ ทำให้เป็นย่านราชประสงค์มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากที่สุดในประเทศ  และสร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างมหาศาล ถือเป็นตัวอย่างความสำเร็จจากการทำงานร่วมกันระหว่างเครือข่ายภาคเอกชนที่แข็งแกร่งและภาครัฐที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์อย่างเป็นรูปธรรม ในการพัฒนาย่านราชประสงค์อย่างครอบคลุมทุกมิติ  ทั้งในแง่การออกแบบผัง การก่อสร้าง สิ่งอำนวยความสะดวก การนำนวัตกรรมมาใช้ การเข้มงวดด้านความปลอดภัย และการส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการที่สมาชิกในย่านราชประสงค์ได้ร่วมกันสร้างเมกกะโปรเจ็กต์ “ R-Walk” เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ต่อส่วนรวม