ประมวลสถานการณ์น้ำ 

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า 50 จังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังอุทกภัย แยกเป็น ภาคเหนือ 15 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 จังหวัด ภาคกลาง 11 จังหวัด ภาคใต้ 9 ประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย แจ้งเตือนประชาชน

นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนแก่งกระจานว่า ยังดำเนินการสูบน้ำอย่างต่อเนื่อง ใช้เขื่อนเพชรบริหารจัดการน้ำ โดยการหน่วงน้ำและตัดน้ำเข้าระบบชลประทาน และผันออกคลองระบายน้ำ D9 ออกสู่ทะเล จากนั้นจะระบายน้ำผ่านเขื่อนเพชรลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี ไหลผ่านตัวเมืองเพชรบุรี ซึ่งอาจทำให้มีน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำและพื้นที่ชุมชนบางแห่งประมาณ 20 – 30 เซนติเมตร ส่วนกรมทางหลวงชนบทสนับสนุนติดตั้งสะพานแบรี่ ตรงจุดที่ติดตั้งท่อกาลักน้ำ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร

ด้านการช่วยเหลือ ในวันนี้ 8 สิงหาคม 2561 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในจังหวัดเพชรบุรี รวมถึงติดตามการดำเนินการตามแผนบริหารจัดการน้ำ ทุกเหล่าทัพมีความพร้อมในการปฏิบัติการช่วยเหลือน้ำท่วม ทั้งยุทโธปกรณ์และบุคลากร กองทัพเรือส่งเรือผลักดันน้ำจำนวน 20 ลำ เร่งระบายน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี พร้อมส่งหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวลำแม่น้ำโขง หรือ นรข. เข้าไปช่วยเหลือประชาชนขนย้ายสิ่งของและลาดตระเวนตรวจการณ์ระดับน้ำที่ริมแม่น้ำโขงที่มีน้ำเอ่อล้น กรมทางหลวงชนบท สนับสนุนติดตั้งสะพานแบรี่ ตรงจุดที่ติดตั้งท่อกาลักน้ำ

50 จังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังอุทกภัย แยกเป็น ภาคเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิจิตร และจังหวัดตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ชัยภูมิ อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด ยโสธร และจังหวัดอุบลราชธานี ภาคกลาง 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และจังหวัดสตูล

ส่วนจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังคลื่นลมแรง แยกเป็น ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และจังหวัดตราด

ภาคใต้ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และจังหวัดสตูล

ข่าว-รูป สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์