นายนิยต มาศะวิสุทธิ์   รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM  เปิดเผยผลการดำเนินงานของ SAM ณ สิ้นสุดไตรมาส 2 ปี 2561 ผลการดำเนินงานโดยรวมเป็นไปตามเป้าหมาย  SAM ได้รับชำระเงินสดรวมจำนวน 4,278 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 50.45 ของเป้าหมาย ซึ่งสูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน   โดยในด้านการปรับโครงสร้างหนี้นั้นSAM คงมุ่งเน้นความสำเร็จในการช่วยเหลือลูกค้าให้มีโอกาสแก้ไขภาระหนี้ โดยเพิ่มช่องทางให้ลูกค้าเข้ามาติดต่อเจรจาปรับโครงสร้างหนี้และให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว  ซึ่งในปี 2561 นี้  SAM  ได้จัดกิจกรรมด้านการปรับโครงสร้างหนี้และริเริ่มโครงการพิเศษ  เช่น โครงการลดหนี้มีสุข เพื่อช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ งานเปิดบ้านทำงานในวันหยุด เพิ่มบริการในวันเสาร์ ทั้งที่สำนักงานใหญ่และสาขา  รวมทั้งการเข้าร่วมงานร่วมใจไกล่เกลี่ยที่กรมบังคับคดีจัดขึ้นทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดตลอดปี เพื่อสนับสนุนนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประเทศ โดยร่วมมือกับหน่วยงานรัฐเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งมีลูกค้าสนใจเข้าร่วมงานและได้ข้อยุติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPLs)  จากสถาบันการเงินต่างๆ เข้ามาบริหารจัดการเพื่อเพิ่มขนาดพอร์ตของ SAM รวมทั้งเพื่อช่วยลดปริมาณ NPLs ของระบบสถาบันการเงิน  ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 3% ต่อสินเชื่อรวมหรือประมาณ 400,000 ล้านบาทนั้น  ในช่วงครึ่งแรกของปี มีการเสนอขาย NPLs จากสถาบันการเงินต่างๆ มายัง SAM ภาระหนี้รวมกันประมาณ 63,896 ล้านบาท ซึ่ง SAM ได้ยื่นเสนอซื้อไปยังสถาบันการเงินผู้ขายแล้ว 21,372 ล้านบาท  และคาดว่าในปี2561 นี้ สถาบันการเงินจะทยอยนำ NPLs ออกมาจำหน่ายไม่น้อยกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งSAM จะช่วยดูดซับภาระหนี้ด้อยคุณภาพให้กับระบบสถาบันการเงินได้ประมาณร้อยละ 15-20

ด้านการบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย (NPA) SAM เน้นทำการตลาดเชิงรุกและจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบเพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั้งนักลงทุนรายใหญ่และรายย่อยทั่วประเทศ โดยการจัดงานประมูลขายทรัพย์สินทุกเดือนซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง การร่วมงานมหกรรมต่างๆ  เช่น งานบ้านธนาคาร  มหกรรม NPA Grand Sale  ฯลฯ การลงพื้นที่เปิดบูธ“ทรัพย์มือสองต้องSAM”  และการเปิดบูธขนาดเล็ก  (kiosk) เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อยในบางพื้นที่ได้สะดวกยิ่งขึ้น  รวมทั้งการติดต่อขายตรงกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เป็นต้น นอกจากนี้ SAM  ยังเพิ่มช่องทางการติดต่อที่ทันสมัยและหลากหลายเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าและนักลงทุนที่สนใจ   นอกเหนือจากการสอบถามผ่าน  Call Center 02-686-1888 ซึ่งSAM เพิ่มเวลาให้บริการถึงเวลา 18.00 น. ทุกวันทำการและการดูรายละเอียดทรัพย์สินผ่านเว็บไซต์  www.sam.or.th  แล้ว  ยังมีแอปพลิเคชัน “Sam Smile App”  รวมทั้ง Line  โดยแอด ID Line “@Samline”  เพื่ออัพเดทข่าวสาร กิจกรรมใหม่ๆ และโปรโมชั่นดีๆ อีกด้วย 

สำหรับ ”โครงการคลินิกแก้หนี้” ตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ต้องการช่วยเหลือประชาชนในการแก้ไขปัญหาหนี้สินส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันและมีหนี้ค้างชำระอยู่กับสถาบันการเงินหลายแห่งให้มีโอกาสแก้ปัญหาภาระหนี้สินที่มีกับเจ้าหนี้หลายรายอย่างครบวงจรและเป็นมาตรฐานเดียวกัน ได้มีการปรับหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการตั้งแต่ วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นมานั้น  SAM  ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางทำหน้าที่แทนเจ้าหนี้ที่เข้าร่วมโครงการทุกรายในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ได้ปรับกระบวนการพิจารณาอนุมัติให้สะดวกยิ่งขึ้น โดยเปิดบริการพิเศษในวันเสาร์เพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกให้ผู้สมัครตามเกณฑ์ใหม่สามารถเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ได้มากยิ่งขึ้น   เริ่มครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม และครั้งที่ 2 ในเดือนสิงหาคม 2561 ณ สำนักงานคลินิกแก้หนี้ ชั้น 12 อาคารเล้าเป้งง้วน ถ.วิภาวดีรังสิต  เขตจตุจักร  กรุงเทพฯ รวมทั้งได้จัดอบรมความรู้ทางการเงินและการบริหารจัดการหนี้ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการทุกรายและผู้ที่สนใจ เพื่อสร้างวินัยทางการเงินและปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายและการออม ซึ่งการจัดอบรมความรู้นี้ SAM วางแผนดำเนินการอย่างต่อเนื่องในฐานะที่เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของรัฐที่สนับสนุนนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนของประเทศอย่างยั่งยืน