การตลาด
สกู๊ป ตลาดขนมไหว้พระจันทร์ 'คึก' ผู้ผลิตงัดรสชาติใหม่ชิงเค้ก 900 ล้าน


เริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งสำหรับตลาดขนมไหว้พระจันทร์ หลังจากหลายปีที่ผ่านมาอยู่ในภาวะที่ค่อนข้างซบเซา เนื่องจากอารมณ์ในการจับจ่ายใช้สอยและกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัว แต่สำหรับปีนี้สถานการณ์โดยรวมเริ่มปรับตัวดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจหรือการเมือง  ส่งผลให้ปีนี้ตลาดขนมไหว้พระจันทร์กลับมาเติบโตอีกครั้งที่ประมาณ 3% 

 

  

ทั้งนี้ จากการประเมินของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ภาพรวมตลาดขนมไหว้พระจันทร์ปี 2561 นี้คาดว่าน่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 930 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 เนื่องจากความต้องการซื้อเพื่อกินและเป็นของฝากของผู้บริโภคมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น  

ขณะเดียวกัน หากมองในด้านของมูลค่าต่อชิ้นยังมีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการแต่ละรายมีการออกแบบสินค้ารสชาติใหม่และสร้างบรรจุภัณฑ์ที่แตกต่างไปจากเดิม เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าซื้อขนมไหว้พระจันทร์แล้วทรงคุณค่าและสามารถซื้อเป็นของขวัญของฝากควบคู่ไปกับการซื้อเพื่อการนำไปไหว้ตามประเพณี ซึ่งปัจจุบันถูกตัดทอนให้เหลือเท่าที่จำเป็นตามกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป

นอกจากนี้  จากการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคยังพบว่า การซื้อเพื่อบริโภคและเป็นของฝากมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งกลุ่มผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนชั้นกลางขึ้นไป และปัจจัยที่ทำให้มีพฤติกรรมดังกล่าว คือ การได้รับปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทำให้คนกล้าจับจ่ายมากขึ้น ประกอบกับผู้ผลิตบางรายมีการพัฒนารูปแบบไส้และบรรจุภัณฑ์ที่มีความพิเศษ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีกับผู้ซื้อและผู้รับ ส่งผลให้ราคาจำหน่ายต่อหน่วยปรับเพิ่มขึ้น 

พร้อมกันนี้  หากพิจารณาที่เม็ดเงินในการซื้อขนมไหว้พระจันทร์เพื่อบริโภค ปัจจุบันมีอัตราเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มที่ซื้อไปไหว้เฉลี่ยที่ประมาณ  20%  โดยซื้อไปกินและเป็นของฝากมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 870 บาทต่อคน ขณะที่ซื้อไปไหว้มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 640 บาทต่อคน เนื่องจากปัจจุบันผู้ประกอบการมีการพัฒนาไส้ของขนมไหว้พระจันทร์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น คัสตาร์ด ชาเขียว และแมคคาเดเมีย  เป็นต้น เพื่อจับตลาดคนรุ่นใหม่

อย่างไรก็ดี  แม้ว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่จะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง  แต่ส่วนใหญ่ก็ยังคงตัดสินใจซื้อสินค้าในราคาที่สมเหตุสมผล พิจารณาถึงความคุ้มค่าคุ้มราคาควบคู่กันไป นอกจากนี้  หากพิจารณาภาพในเชิงลึกจะพบอีกว่า 69%  เห็นว่าปัจจัยบวกที่จะทำให้ซื้อขนมไหว้พระจันทร์เพิ่มขึ้น คือ กลยุทธ์ด้านโปรโมชั่นพิเศษ และ  69.2% เห็นว่าปัจจัยลบที่จะกระทบต่อการซื้อขนมไหว้พระจันทร์ที่ลดลง คือ ราคาสินค้ามีการปรับตัวสูงขึ้นมาก  

ดังนั้น การจับตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ จะต้องทำรูปแบบสินค้าที่น่าสนใจ ภายใต้ราคาที่สมเหตุสมผล ยกเว้นคนรุ่นใหม่เฉพาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงมากที่อาจพร้อมจ่าย เพื่อสินค้าที่มีรูปแบบเฉพาะความแปลกใหม่ของขนมไหว้พระจันทร์ จะช่วยดึงกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ไม่ซื้อให้หันกลับมาซื้อ เนื่องจากปัจจุบันยังมีคนจำนวนมากที่ยังไม่เคยซื้อขนมไหว้พระจันทร์ ซึ่งจากผลสำรวจพบว่ามาจากหลายปัจจัย เช่น  ไม่ได้ไหว้ ไม่ชอบทาน และสินค้ามีราคาสูงเกินไป 

ด้วยเหตุนี้  ผู้ประกอบการควรมองหาโอกาสในการดึงผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าวให้หันมาสนใจซื้อขนมไหว้พระจันทร์ โดยผู้ตอบแบบสอบถามในกลุ่มที่ไม่ซื้อขนมไหว้พระจันทร์เห็นว่า ปัจจัยทางด้านความแปลกใหม่ของไส้ที่ไม่มีในตลาดมีความสำคัญเป็นลำดับ 1 ที่จะกระตุ้นให้เกิดการซื้อ คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 41.7%  รองลงมาคือราคาที่คุ้มค่าคิดเป็นสัดส่วน 38.9% และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม คิดเป็นสัดส่วน 16.7%  ซึ่งปัจจัยดังกล่าวสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการสินค้าที่บ่งบอกตัวตน ชอบสิ่งใหม่ๆ แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากเกินไป

 

 

จากข้อมูลดังกล่าวทำให้ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการที่ทำขนมไหว้พระจันทร์แต่ละรายต่างออกมาพัฒนาสินค้ารสชาติใหม่เข้าทำตลาด  เริ่มจาก แฮร์รอดส์ ประเทศไทย ที่ออกมานำเสนอขนมไหว้พระจันทร์ 5 รสสุดพิเศษ อย่าง ทุเรียนหมอนทอง-ไข่แดง, ชาแฮร์รอดส์แบล็คเคอเรนท์ อินทผลัม-พุทราจีน, คัสตาร์ด-ไข่แดง, ไวท์ทรัฟเฟิลครีมคัสตาร์ดและชาแฮร์รอดส์รอยัลมิลทีโรสบัดส์ โดยทุกรสชาติได้ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพพรีเมียม มาพร้อมกับรสชาติที่สมบูรณ์แบบในแบบเฉพาะของแฮร์รอดส์

นอกจากนี้ ในด้านของบรรจุภัณฑ์ก็มีการดีไซน์ให้เรียบหรู เปรียบเสมือนกล่องจิวเวลรี่ที่เก็บสิ่งล้ำค่า ด้วยการนำซิกเนเจอร์สีทองของแฮร์รอดส์ ผสมผสานเข้ากับลวดลายฉลุในแบบของจีน ให้ความรู้สึกหรูหรา มีระดับ ประกอบไปด้วยลิ้นชักจำนวน 2 ชั้น บรรจุขนมไหว้พระจันทร์จำนวน 8 ชิ้น เหมาะสมกับการส่งมอบให้คนพิเศษในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ พร้อมอวยพรให้ผู้รับมีความโชคดี และความรุ่งเรือง

 

  

ขณะที่ เอสแอนด์พี  ก็ชูความพิเศษของขนมไหว้พระจันทร์ลูกเล็กๆ ขนาด 80 กรัม เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค เพราะรับประทานง่าย  เนื่องจากที่ผ่านมาทำชิ้นใหญ่แล้วบริโภคส่วนหนึ่งรับประทานไม่หมด ซึ่งในส่วนของสินค้าใหม่ดังกล่าวปีนี้มีให้เลือกด้วยกัน  4 รสชาติ คือ หมอนทอง ส้มแมนดาริน คัสตาร์ด และมันม่วง 

..มณีสุดา ศิลาอ่อน  ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เอสแอนด์พี ซินดิเคท จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ในส่วนของขนมไหว้พระจันทร์ลูกใหญ่ 13 รสชาติแบบดั้งเดิมก็มีอยู่ ที่มีรสชาติใหม่ก็เพื่อเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ ให้คนรุ่นใหม่สามารถเลือกได้ตามความชอบและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้ ซึ่งในส่วนของกลยุทธ์การทำตลาดปีนี้บริษัทยังคงเน้นไปที่การนำเสนอการทานขนมไหว้พระจันทร์ให้ได้อรรถรส โดยให้ลองทานคู่กับชาตัวโปรดของท่าน เช่น อู่หลง และเอิร์ลเกรย์ เป็นต้น

นอกจากนี้ เอสแอนด์พี ยังได้มีการจับมือร่วมกับ บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด ทำขนมไหว้พระจันทร์ไส้มะม่วง เพื่อจำหน่ายภายในร้านแฟมิลี่มาร์ทแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ด้วยการชูจุดเด่นไปที่ความแปลกใหม่ เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้า GEN Yด้วยการส่งน้องมะม่วงเป็นสื่อกลาง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Fly Me To The Moon”

นางจิรนันท์ ผู้พัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือของแฟมิลี่มาร์ทและเอสแอนด์พี ในครั้งนี้เป็นการผนึกจุดแข็งของคู่ค้าเพื่อนำเสนอสินค้าที่สร้างความโดดเด่น ทั้งรสชาติและรูปแบบเพื่อเป็นการกระตุ้นบรรยากาศการจับจ่ายในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ให้คึกคักมากขึ้น ซึ่งในปีนี้บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันยอดขายขนมไหว้พระจันทร์ให้มีอัตราการเติบโตจากปีที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 171% 

ด้านผู้ประกอบการในธุรกิจโรงแรมปีนี้ก็ออกมาขอชิงเม็ดเงินสะพัดในตลาดขนมไหว้พระจันทร์กันอย่างคึกคักเช่นกัน เริ่มจากโรงแรมแชงกรีลา นอกจากมีอาหารจีนแท้หรือติ่มซำที่มีรสชาติแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ในปีนี้ยังมีการพัฒนาขนมไหว้พระจันทร์เข้ามาทำตลาดถึง 18 ไส้บรรจุในกล่องสวยงาม เช่นเดียวกับโรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ ที่นอกจากจะมีห้องอาหารจีนสุดหรูที่มีชื่อเสียงเรื่องอาหารจีนที่อร่อยมากแล้วในปีนี้ห้องอาหารหลิวก็มีขนมไหว้พระจันทร์มาให้เลือกซื้อเหมือนกัน ซึ่งจุดเด่นของปีนี้ คือ ขนมไหว้พระจันทร์ไส้ธัญพืชด้วย ขณะที่โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ แมนโฮ ก็ขอส่งขนมไหว้พระจันทร์รสชาตินุ่มลิ้นที่มาพร้อมไส้ยอดนิยมอย่างไส้ถั่วไข่เค็ม ที่มาพร้อมแพ็คเกจที่เป็นเอกลักษณ์ในรูปแบบโคมไฟจีนสีแดงบ่งบอกถึงเทศกาลของจีน มาเป็นจุดขายในเทศกาลขนมไหว้พระจันทร์ในปีนี้


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 14 ก.ย. 2561 เวลา : 21:20:53
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 12:40 am