เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
กรุงศรีมองเงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.15-31.45บาท/ดอลล์


กรุงศรีมองเงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.15-31.45 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จับตาทิศทางกระแสเงินทุน


กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน)มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มซื้อขายในกรอบ 31.15-31.45 ต่อดอลลาร์เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 31.33 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังเงินบาททำสถิติแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า5 ปี ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นมูลค่า1.03หมื่นล้านบาท แต่ขายพันธบัตร 7.1 พันล้านบาท ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่าความชัดเจนที่ว่าสหรัฐฯจะเลื่อนเวลาการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนออกไปจากวันที่1มีนาคมช่วยลดความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางกระแสเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่รวมถึงไทยได้ในระยะนี้ ส่วนจุดสนใจหลักจะอยู่ที่การแถลงแนวโน้มเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสของประธานเฟดหลังรายงานการประชุมเฟดวันที่ 29-30 มกราคม ส่งสัญญาณว่าเฟดมีแผนที่จะหยุดปรับลดขนาดงบดุลในอนาคตอันใกล้ แต่เฟดยังคงหารือกันในประเด็นที่ว่าจุดยืนในการใช้"ความอดทน"ต่อนโยบายดอกเบี้ยจะดำเนินต่อไปนานเพียงใด แม้ผู้กำหนดนโยบายบางรายเห็นว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นสิ่งจำเป็นก็ต่อเมื่อเงินเฟ้อสูงเกินคาด แต่บางรายมีความเห็นว่าหากเศรษฐกิจเป็นไปตามคาด การปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ยังคงเหมาะสม

สำหรับปัจจัยในประเทศ กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยการส่งออกของไทยเดือนมกราคมปรับลดลง 5.65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่3 ส่วนยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 13.99% ทำให้ไทยขาดดุลการค้าสูงถึง 4.03 พันล้านดอลลาร์ โดยสินค้าที่ส่งออกลดลงได้แก่ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ทองคำและรถยนต์ ขณะที่การส่งออกไปจีนติดลบ 16.7% แต่ส่งออกไปสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 8.3%
 
ส่วนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนมกราคมอยู่ที่ 3.72 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.91%จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเติบโต10.29% ขณะที่รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัว 2.39% ในภาวะเช่นนี้เรายังคงจับตาภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงผลกระทบต่อตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์ไม่ย่ำแย่ไปกว่าที่ประเมินไว้ เราคาดว่ามีโอกาสที่ทางการจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 2.00% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เพื่อดูแลความเสี่ยงด้านเสถียรภาพต่อไป

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 25 ก.พ. 2562 เวลา : 15:05:04
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 2:35 pm