เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ศูนย์วิจัยธ.ก.ส.คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรเดือนมีนาคม 2562


ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรเดือนมีนาคม ทั้งข้าวเปลือกหอมมะลิ น้ำตาลทรายดิบ ยางพาราแผ่นดิบ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน สุกร มีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้น ส่วน ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กุ้งขาวแวนนาไม มีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง


 
 
 
 
 
 
นายสมเกียรติ กิมาวหา ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรเดือนมีนาคม2562ที่จัดทำโดยศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ว่าราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อยร้อยละ0.18-0.59 อยู่ที่ราคา 15,574-15,638 บาท/ตัน เนื่องจากความต้องการข้าวหอมมะลิยังมีอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้ประกอบการเสนอราคารับซื้อในราคาที่สูง น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์กราคาเฉลี่ยในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.20-1.00 อยู่ที่ราคา13.39-13.50 เซนต์/ปอนด์ (9.23-9.31 บาท/กก.) เพราะการปรับขึ้นของราคาน้ำมันช่วยหนุนราคาน้ำตาลสัญญาล่วงหน้า ทำให้บราซิลนำอ้อยไปผลิตเป็นเอทานอลมากกว่าน้ำตาล ประกอบกับราคาขายน้ำตาลขั้นต่ำภายในประเทศของอินเดียที่สูงขึ้นอาจกระตุ้นให้ผู้ผลิตน้ำตาลของอินเดียเพิ่มกำลังการผลิตน้ำตาลเพื่อขายภายในประเทศมากขึ้นทำให้การส่งออกน้ำตาลทรายลดลง
 
ยางพาราแผ่นดิบราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ3.52-4.56 อยู่ที่ราคา42.64-43.12 บาท/กก. เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลงเพราะเข้าสู่ฤดูยางผลัดใบ เกษตรกรชาวสวนยางหยุดกรีดยางในช่วงนี้เพื่อเป็นการพักต้นยางพาราให้สามารถสร้างการเติบโตในระยะถัดไป มันสำปะหลัง ราคาจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อยร้อยละ 0.46-3.70 อยู่ที่ราคา 2.17-2.25 บาท/กก. เนื่องจากผลผลิตที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวมีคุณภาพดีจากเปอร์เซ็นแป้งสูง ส่งผลให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ในราคาเพิ่มขึ้น
 
ปาล์มน้ำมันราคาจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.39–2.71 อยู่ที่ราคา 2.59-2.65 บาท/กก. เนื่องจากแผนนโยบายภาครัฐในการช่วยพยุงราคาปาล์มน้ำมัน โดยให้โรงสกัดรับซื้อปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรในราคาสูงเพื่อนำมาสกัดเป็นน้ำมันปาล์มสำหรับใช้ผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าและแนวโน้มผลผลิตปาล์มออกสู่ตลาดลดลงจากฤดูกาลมรสุม และ สุกร คาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.46–9.63 อยู่ที่ราคา 67.50 – 70.00 บาท/กก. เนื่องจากความต้องการบริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตามสถานการณ์การระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกรยังคงมีผลต่อการผลิตและราคาสุกร

ด้านสินค้าเกษตรที่จะมีราคาลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น15%ราคาจะลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.58-1.24 อยู่ที่ราคา 7,551-7,602 บาท/ตัน เพราะค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นและผลผลิตข้าว นาปรังของประเทศไทย ประเทศเวียดนามและประเทศกัมพูชากำลังออกสู่ตลาด ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาวราคาจะลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.64-2.35 อยู่ที่ราคา 9,887-10,060 บาท/ตัน เนื่องจากผลผลิตข้าวเหนียวนาปรังกำลังทยอยออกสู่ตลาด ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5%ราคาจะปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ0.50-1.50อยู่ที่ราคา 8.08-8.16 บาท/กก. เนื่องจากผลผลิตข้าวโพดหลังนาทยอยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ความต้องการใช้เพื่อผลิตอาหารสัตว์ทรงตัว ส่งผลให้ราคาที่เกษตรกรขายได้ปรับลดลงและกุ้งขาวแวนนาไมราคาจะลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 1.75 – 4.68 อยู่ที่ราคา 163 – 168 บาท/กก. เนื่องจากแนวโน้มค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นส่งผลให้การส่งออกชะลอตัวลงปริมาณผลผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการบริโภคในประเทศอยู่ ณ ระดับที่ใกล้เคียงกับเดือนก่อน

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 04 มี.ค. 2562 เวลา : 07:54:16
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 11:47 am