หลังจากผู้ประกอบการในตลาดต่างออกมาโหมเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่เข้าทำตลาดกันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2561 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ามีแนวโน้มการขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้นและเพื่อให้ยอดขายกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3ของทุกปี ซึ่งถือเป็นช่วงโลว์ซีซันของหลายกลุ่มสินค้า ทำให้ผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องหันมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับตัวแทนจำหน่ายต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้ยอดขายโดยรวมมีอัตราการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
หนึ่งในตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ของกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและไอทีที่ออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างคึกคักในช่วงกลางปีนี้ คือ เพาเวอร์มอลล์ด้วยการขนงบลงทุนสูงถึง 120 ล้านบาท จัดงาน“เพาเวอร์ มอลล์ อิเลคโทรนิก้า โชว์เคส” (POWER MALL ELECTRONICA SHOWCASE) ขนสินค้ากว่า 200 แบรนด์ดังมาลดราคาพิเศษสูงสุด 50%
นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่าภาพรวมตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่ดีขึ้น ซึ่งในส่วนของเพาเวอร์มอลล์เองก็มียอดขายเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้นเช่นกัน เพราะได้รับแรงหนุนจากการวาง Directionที่ทำมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 3- 4 ปีที่ผ่านมาที่หันไปให้ความสำคัญกับการทำตลาดตามเทรนด์ เน้นบริการที่ดีทั้งก่อนและหลังการขาย
นอกจากนี้การที่เดอะมอลล์มี POWER MALL MEGA STORE กระจายครอบคลุมอยู่ทั่วกรุงเทพฯทำให้ลูกค้ามีทางเลือกในการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นจากการมีจำนวนแบรนด์ที่มากขึ้นและการมีสินค้ารุ่นใหม่ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยในด้านของการบริการดังกล่าวถือว่าเป็นการตอบโจทย์ความต้องการชีวิตของคนเมืองได้เป็นอย่างดี
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เพาเวอร์มอลล์ ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเป็นตัวแทนในการจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและกลุ่มสินค้าไอที คือ การให้ความสำคัญกับการสร้าง CUSTOMER EXPERIENCE ด้วยการให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ตรงจากการเลือกซื้อสินค้าในพื้นที่สโตร์ พร้อมกับแนะนำดีๆจากพนักงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งบริการดังกล่าวถือเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าในเพาเวอร์ได้ง่ายขึ้น
สำหรับการจัดงาน“เพาเวอร์ มอลล์ อิเลคโทรนิก้า โชว์เคส”ในครั้งนี้จะจัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “THE CAPITAL OF INNOVATION” เพื่อตอกย้ำความเป็นยุคดิจิทัลและการ Destinationของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านทุกชนิด สินค้าอิเลคทรอนิคส์ สมาร์ทโฟน กล้องดิจิตอล สินค้าไอทีและเกมส์ ผ่านการสร้างสรรค์ประสบการณ์พิเศษให้กับลูกค้า โดยงานดังกล่าวจะจัดขึ้นพร้อมกันที่ POWER MALL ทุกสาขาในกรุงเทพฯ
ในส่วนของสินค้าไฮไลท์ที่เพาเวอร์มอลล์ภูมิใจนำเสนอในปีนี้ประกอบไปด้วยสินค้า 4 กลุ่มหลัก คือ 1.กลุ่มสินค้า Smart Technology & Digital Solution ซึ่งในปีนี้จะมีการนำทคโนโลยี AI ที่มีบทบาทอย่างยิ่งในกลุ่ม Smart Phone มาจัดแสดงและจำหน่าย โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับกล้องถ่ายภาพที่เข้ามาช่วยในการปรับแต่งภาพ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องแต่งภาพเพิ่มเติมและสามารถปรับสีสันของภาพได้ตามสถานการณ์
พร้อมกันนี้ยังจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ด้วยการนำเทคโนโลยีการเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายแห่งอนาคต 5G ที่จะทำให้โลกก้าวเข้าไปสู่ยุคของ IoTs (Internet of Things) ได้เพียงปลายนิ้ว ซึ่งทั้งหมดนี้ลูกค้าสามารถสัมผัสได้ที่Flagship Mobile Brand ทั้ง Samsung, Huawei,Oppo และ Vivo เป็นต้น
2.กลุ่มสินค้าLifestyle Applianceในปีนี้จะเน้นการนำเสนอสินค้าเทคโนโลยีรักสุขภาพ(Healthy Life)ด้วยระบบการควบคุมความสะอาดของอากาศภายในบ้านโดยเครื่องฟอกอากาศที่เชื่อมต่อเครือข่าย WIFI ทำให้ควบคุมได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งในงานนี้เป็นครั้งแรกในประเทศไทยกับเครื่องฟอกอากาศ ELECTROLUXที่จะนำสุดยอดเทคโนโลยี ระบบ Pure Sense ปรับค่าการฟอกอากาศอัตโนมัติมาจำหน่ายภายในงาน
ไฮไลท์กลุ่มที่ 3 คือสินค้าในกลุ่มทีวีจอขนาดใหญ่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเตรียมพร้อมการเชื่อมต่อเพื่อก้าวไปสู่การใช้ชีวิตแห่งโลกอนาคตมาพร้อมกับความคมชัดระดับ8K ยกระดับภาพและเสียงในการรับชมให้กับลูกค้า โดยภายในงานลูกค้าจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยี TV สุดล้ำจากแบรนด์ระดับโลก เช่น SAMSUNG, LG, SONY, PANASONIC และ SHARP เป็นต้น
สำหรับไฮไลท์ของงานในสินค้ากลุ่มนี้ คือSAMSUNG QLED TVReal 8K Resolution ความคมชัดด้วยความละเอียดระดับ 8K (33ล้าน Pixel)ที่มาพร้อมกับขนาด98 นิ้ว, ทีวี LG OLED TVขนาด 77 นิ้วกับเทคโนโลยี AI ใช้งานง่ายด้วยเมจิกรีโมท รองรับการสั่งงานด้วยเสียงและเต็มอรรถรสกับภาพและเสียงกับ SKYWORTH 4K ANDROID 8.0ขนาด 100 นิ้ว
สินค้าไฮไลท์กลุ่มสุดท้ายที่นำเสนอ คือกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ซึ่งปีนี้ยังคงให้ความสำคัญกับสินค้าในกลุ่มประหยัดพลังงาน (Energy Saving),สินค้าที่มีดีไซน์และฟังก์ชั่นครบครัน(New Product & Design),รวมถึงสินค้าInnovative เพื่อชีวิตที่สะดวกสบายและทันสมัย ด้วย ตู้เย็น SAMSUNG ตู้เย็นอัจฉริยะ Family Hub 2.0หน้าจอ LED ทัชสกรีนขนาด 21.5 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อWi-Fi และ Bluetooth, รวมทั้งสินค้ารุ่นใหม่ที่เพิ่มความฟังชั่นในเรื่องการประหยัดพลังงาน เช่น เครื่องปรับอากาศ MITSUBISHI เย็นเร็วทันใจ FAST COOLING เทคโนโลยีความเย็นเร็วภายในปุ่มเดียวและเครื่องซักผ้า TOSHIBA กับ New Real Inverter พร้อมโปรแกรมซักด่วน เพียง12 นาที เป็นต้น
นอกจากจะมีความหลากหลายในด้านของสินค้าที่นำมาจำหน่ายแล้ว"เพาเวร์มอลล์"ยังจะมอบข้อเสนอสุดคุ้มให้กับลูกค้า เช่น ซื้อสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าไอทีลดสูงสุด50%พร้อมรับสิทธิผ่อนสินค้า 0% นาน10เดือนทุกชิ้น และรับฟรีคูปองส่วนลดเงินสดสูงสุด 20,000 บาท แต่ถ้าใครเป็นสมาชิก M CARDจะได้รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด15% พร้อมรับคูปองส่วนลดเงินสดรวม 1,300 บาท
ส่วนลูกค้าที่ซื้อสินค้าในแผนก The Living และ Watch Galleria ก็จะได้รับคูปองส่วนลดเงินสด 1,000บาท ให้มาช้อปปิ้งต่อที่แผนกเพาเวอร์มอลล์ นอกจากนี้ยังจะมีการจัดรายการ 1Day Special (วันเดย์ สเปเชี่ยล) ช้อปสินค้าในราคาต่ำกว่าทุนลดสูงสุด 50% กว่า 25 รายการ เฉพาะวันแรกและวันเดียวภายในงานตั้งแต่เวลา 12.00น.เป็นต้นไป เฉพาะที่สาขาพารากอนและเอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์ สโตร์ ซึ่งหลังจากจบงานดังกล่าว เพาเวอร์มอลล์ คาดการณ์ว่าจะมียอดขายเติบโตจากปกติไม่ต่ำกว่า15%
.jpg)
.jpg)
ข่าวเด่น