ตลอดระยะเวลา 2 ทศวรรษที่ผ่านมา “โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง”ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ส่งมอบความสุข ความบันเทิง และความอบอุ่นเป็นกันเองให้กับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จากความสำเร็จที่ได้รับดังกล่าวทำให้โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ยังคงเดินหน้าพัฒนาคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อครองความเป็นหนึ่งในธุรกิจไมโครบริวเวอรี่และการเป็นผู้นำในใจของผู้บริโภค
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในก้าวของทศวรรษที่3นี้ นอกจากจะพัฒนาการบริการของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้นแล้ว ทางทีมผู้บริหารยังมีแผนที่จะพัฒนาธุรกิจไมโครบริวเวอรี่แบรนด์น้องใหม่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ เนื่องจากยังมีช่องว่างให้เข้ามาทำตลาดได้อีกมาก โดยเฉพาะจังหวัดหัวเมืองใหญ่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
นายสุพจน์ ธีระวัฒนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงเบียร์เยอรมัน ตะวันแดง จำกัด ผู้บริหารธุรกิจไมโครบริวเวอรี่ภายใต้ชื่อ “โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง” กล่าวว่า หลังจากบริษัทได้ทำการปลุกกระแสตลาดไมโครบริวเวอรี่ ในประเทศไทยตั้งแต่ 20 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจไมโครบริวเวอรี่ก็มีการขยายตัวในทิศทางที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากผู้เล่นหน้าใหม่ที่เกิดขึ้น รวมไปถึงจำนวนลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ตบเท้าเข้ามาใช้บริการภายในโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจของบริษัทมีอัตราการเติบโตและเป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ
จากความสำเร็จที่ได้รับและความแข็งแกร่งของแบรนด์โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงที่สั่งสมมาตลอดระยะเวลา 20 ปี ล่าสุดทางทีมผู้บริหารได้ทำการต่อยอดธุรกิจ ด้วยการเปิดตัวธุรกิจไมโครบริวเวอรี่แบรนด์น้องใหม่ภายใต้ชื่อ “เดอะ เยอรมันตะวันแดง” เข้ามาทำตลาด โดยภายในระยะเวลา 3 ปีนับจากนี้ บริษัทโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง จำกัด มีแผนที่จะขยายร้าน“เดอะ เยอรมันตะวันแดง”หรือโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงในสเกลเล็กให้ได้ไม่ต่ำกว่า 5 สาขา
นายสุพจน์ กล่าวต่อว่า เพื่อให้ร้าน เดอะ เยอรมันตะวันแดง ทำการตลาดได้คล่องตัวมากขึ้น บริษัทจะใช้ที่ดินในการเปิดร้าน เดอะ เยอรมันตะวันแดงเพียง 1-2 ไร่เท่านั้น ลดลงจากการเปิดโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงกว่า 3 เท่าตัว เนื่องจากโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงเป็นร้านสเกลขนาดใหญ่ ทำให้ต้องใช้พื้นที่ในการขยายสาขาไม่ต่ำกว่า 7 ไร่ ซึ่งจากการใช้พื้นที่ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ จึงทำให้ตลอดระยะเวลาของการทำธุรกิจไมโครบริวเวอรี่ 20 ปีที่ผ่านมาขยายสาขาใหม่ค่อนข้างยาก
ปัจจุบันโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการเพียง 3 แห่งเท่านั้น คือ สาขาพระราม 3 สาขาถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา อาจณรงค์ และสาขาแจ้งวัฒนะ โดยแต่ละสาขาใช้ระยะเวลาในการเปิดให้บริการห่างกันเกือบ 10 ปี และแต่ละครั้งที่ลงทุนสาขาใหม่จะมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 50%
อุปสรรคที่เกิดขึ้นดังกล่าวจึงทำให้บริษัท โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง จำกัด ตัดสินใจที่จะเปิดตัวแบรนด์น้องใหม่เข้ามาทำตลาด เพื่อลดต้นทุนในการขยายสาขาใหม่และทำให้เกิดความคล่องตัวในการทำธุรกิจ ซึ่งร้าน เดอะ เยอรมัน
ตะวันแดงน่าจะตอบโจทย์การแก้ปัญหาของการทำธุรกิจในช่วงที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี เนื่องจากใช้งบลงทุนลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12-15 ล้านบาท ภายในร้านสาขารองรับจำนวนลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการได้ประมาณ 120 ที่นั่ง
นายสุพจน์ กล่าวอีกว่าแผนการทำตลาดร้านเดอะ เยอรมันตะวันแดง บริษัทวางจุดขายไว้ที่การทำอาหารกรุงเทพฯ ให้คนท้องถิ่นรับประทาน โดยสาขาแรกที่บริษัทจะเข้าไปปักหมุดเปิดให้บริการ เพื่อเป็นสาขาต้นแบบ คือ สาขาอ่างศิลา จ.ชลบุรี ในส่วนของสาขานี้บริษัทได้เตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 35 ล้านบาท ภายในร้านสามารถรองรับจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการประมาณ 250 ที่นั่ง
นอกจากนี้ในด้านของราคาอาหารและเครื่องดื่ม ยังมีการวางโครงสร้างราคาต่ำกว่าโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงประมาณ 20% โดยมีเมนูไฮไลท์ในแบบฉบับเดียวกัน ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการสาขาแรกไปบริษัท โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง จำกัด จะมองหาทำเลในจังหวัดขนาดใหญ่ มีจำนวนประชากรสูงเพื่อทำการขยายสาขาต่อไป
นายสุพจน์ กล่าวต่อว่าบริษัทจะไม่เน้นการขยายสาขาร้านเดอะ เยอรมันตะวันแดงในจังหวัดท่องเที่ยว เพราะต้องการเจาะลูกค้าท้องถิ่นชาวไทย เพราะร้านอาหารกับคนไทยเป็นสิ่งคู่กัน นอกจากนี้พฤติกรรมของคนไทยในปัจจุบันยังมีแนวโน้มรับประทานอาหารนอกบ้านเพิ่มขึ้นหลังเมืองมีการขยายตัว ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้เกิดวิถีสังคมเมือง (Urbanization) ที่ขยายวงกว้างและเป็นโอกาสให้บริษัทเข้าไปทำธุรกิจ
ส่วนแผนการทำธุรกิจโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงในปีนี้ ยังไม่มีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มเติมเพราะยังไม่มีจังหวะที่ใช่ แต่อย่างไรก็ดีบริษัท โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง จำกัด ยังคงมองหาทำเลที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะทำเลด้านทิศตะวันออก อย่างย่านถนนศรีนครินทร์เนื่องจากเป็นประตูสู่ภาคตะวันออกและเป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษที่มีอัตราการเติบโตสูง และเป็นย่านที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่ดี
อย่างไรก็ดีแม้ว่าปีนี้จะไม่มีสาขาใหม่ของโรเบียร์เยอรมันตะวันแดงเกิดขึ้น แต่นายสุพจน์ก็ยังตั้งเป้าธุรกิจโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงในสิ้นปี 2562 นี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%หรือมีรายได้ประมาณ 900 ล้านบาท และในสิ้นปี 2563 หลังจากมีแบรนด์ร้านเดอะ เยอรมันตะวันแดง เข้ามาเสริมทัพคาดว่าจะมีรายได้ทะลุเกิน 1,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน โดยสาขาที่สร้างรายได้มากที่สุด คือ สาขาพระราม 3 คิดเป็นอัตราส่วน 38% ตามด้วยสาขาเลียบทางด่วนรามอินทรา อาจณรงค์ 36% และสาขาแจ้งวัฒนะ 26%
นายสุพจน์ กล่าวปิดท้ายว่ากุญแจความสำเร็จของการทำธุรกิจไมโครบริวเวอรี่ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา คือ การยึด 4 ยุทธศาสตร์หลักในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ เบียร์ อาหาร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์และบริการ ซึ่งในส่วนของ”เบียร์” นอกเหนือจากเบียร์ 3 รสชาติหลัก คือ ลาเกอร์ ดุงเกล และไวเซ่นแล้ว ปัจจุบันได้มีการเพิ่มเบียร์อีก 2 รสชาติเข้ามาเสริมทัพ คือ โรเซ่ (Rose’) และ ฮอปส์บอมบ์ (Hops Bomb)
ขณะที่“อาหาร”ก็ได้จัดให้มีแผนกพัฒนาผลิตภัณฑ์ PD (Produce Development) เพื่อสร้างสรรค์เมนูอาหารไทยใหม่ทุก 3 เดือน ภายใต้โจทย์ของความอร่อยนำเสนอในรูปแบบทันสมัยพร้อม “ครัวกลาง” เป็นศูนย์กลางในการสั่งซื้อ และผลิตน้ำซอส น้ำจิ้มต่างๆ เพื่อคงมาตรฐานของรสชาติ ส่วน“เอ็นเตอร์เทนเม้นท์”ก็มีการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาเพิ่ม และปิดท้ายที่ “บริการ” มีการจัดฝึกอบรมพนักงานอยู่เสมอ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกเป็นกันเองและอบอุ่นเมื่อเข้ามาใช้บริการ
ข่าวเด่น