การตลาด
สกู๊ป ก้าวใหม่ "เพอร์ร่า" ปั้นแบรนด์สู่สายแฟชั่น ต่อยอดธุรกิจน้ำแร่


ยังคงแข่งขันกันอย่างดุเดือดสำหรับตลาดน้ำดื่ม เนื่องจากปัจจุบันมีผู้เล่นในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันแบรนด์สินค้าต่างๆ ก็เริ่มผลิตน้ำดื่มที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง เลยทำให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในตลาดยังคงต้องใช้โปรโมชั่นลดราคาสินค้า เป็นกลยุทธ์หลักในทำตลาด เพื่อชิงยอดขายจากคู่แข่งมาเป็นของตัวเอง


จากปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการตลาดน้ำดื่ม ต้องหันมาปรับกลยุทธ์ ด้วยการหาลูกเล่นใหม่ๆ มาใช้กับสินค้า เพื่อสร้างสีสันและดึงความสนใจผู้บริโภค  และการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างลวดลายบนบรรจุภัณฑ์สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด เพื่อให้ลูกค้าได้เก็บสะสมขวดน้ำดื่มที่ผลิตออกมาแบบลิมิเต็ดเอดิชั่น หาซื้อที่ไหนไม่ได้

เช่นเดียวกับ บริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่ล่าสุดออกมาใช้งบ 40 ล้านบาท ทำการตลาดในรูปแบบ  corroborate ร่วมกับแบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK นำสัญลักษณ์ของแบรนด์มาพิมพ์ลายลงบนขวดน้ำแร่เพอร์ร่า เพื่อให้ลูกค้าของน้ำแร่เพอร์ร่าและแฟนคลับของแบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK  ได้ซื้อน้ำแร่เพอร์ร่าสะสม ขณะเดียวกันยังถือเป็นการพาแบรนด์น้ำแร่เพอร์ร่าก้าวสู่ตลาดแฟชั่น เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด

สำหรับสัญลักษณ์ของแบนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK  ที่น้ำแร่เพอร์ร่าได้นำมาใช้พิมพ์ลงบรรจุภัณฑ์ครั้งนี้มีอยู่ด้วยกัน 3 ดีไซน์  ประกอบด้วย การถ่ายทอดความคิดและทัศนคติที่มีต่อโลกที่เป็นอิสระจากข้อจำกัดผ่านการผสมผสานสัญลักษณ์ S นกยูง และบทกวี ด้วย Limited Collection Autumn/Winter 2019  โดยในส่วนของขนาดสินค้าที่นำมาทำกิจกรรมการตลาดในครั้งนี้จะอยู่ที่ขนาด 600 มิลลิลิตร วางจำหน่ายตั้งแต่ตุลาคมต่อเนื่องไปจนถึงเดือนธันวาคม 2562 จำนวน6 ล้านขวด ลูกค้าที่สนใจสามารถหาซื้อเป็นของสะสมได้ที่เซเว่นอีเลฟเว่น ,แฟมิลี่มาร์ท, มินิบิ๊กซี และเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส

 
 
 
นายธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด ธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ บริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำแร่เพอร์ร่า (Purra) ในเครือสิงห์  กล่าวว่า  หลังจากบริษัทได้เปิดตัวน้ำแร่เพอร์ร่าเข้ามาในตลาดน้ำแร่เป็นรายที่ 4 ของประเทศไทยเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา  น้ำแร่เพอร์ร่าก็มียอดขายเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ 6 ปีที่ผ่านมา เพอร์ร่า สามารถก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดน้ำแน่ได้สำเร็จ   

ก่อนหน้านี้ สิงห์ คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมมือกับไทยดีไซเนอร์มาแล้วหลายแบรนด์ และประสบความสำเร็จต่อเนื่อง เช่น ขวดรุ่นลิมิเต็ดจากแบรนด์ต่างๆ เช่น Disaya, Issue, Asava, Valtanika, Poem และอื่นๆ รวมถึงการออกแบบโดยภาสินี คงเดชะกุล ที่เคยคอลลาบอเรตกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Louis Vuitton , Rimowa มาแล้ว เป็นต้น

นายธิติพร กล่าวต่อว่า เพอร์ร่า ถือเป็นน้ำแร่แบรนด์เดียวในตลาดเมืองไทยที่นำเอาเรื่องของฟังชันนัลและอีโมชันนัลเบเนฟิตมาทำตลาดควบคู่กันไป เนื่องจากว่าฐานลูกค้าที่ดื่มเพอร์ร่าเป็นผู้หญิงมากกว่า 70% และเป็นผู้ชายประมาณ 30% ซึ่งกลุ่มลูกค้าหญิงนี้เลือกดื่มน้ำแร่ เพราะต้องการประโยชน์จากน้ำแร่และดีต่อสุขภาพ ขณะเดียวกัน ก็มีความสนใจเรื่องแฟชั่นด้วย ดังนั้น บริษัทจึงเอาเรื่องแฟชั่นเข้ามาทำตลาดในส่วนของอีโมชันนัล ด้วยการร่วมมือกับไทยดีไซเนอร์ออกแบบงานสร้างสรรค์ด้านแฟชั่น เพื่อพิมพ์ลงบนบรรจุภัณฑ์ของเพอร์ร่า

จากแผนการดำเนินงานดังกล่าวน้ำแร่เพอร์ร่าคาดหวังว่าในปี 2562 นี้ จะสามารถทำยอดขายรวมได้ประมาณ 1,100 ล้านบาท หรือมีปริมาณ 85 ล้านลิตร และมีส่วนแบ่งตลาดรวมอยู่ 23% เพิ่มจากปีที่แล้ว (2561) ที่มีส่วนแบ่งตลาดเพียง 17% ที่ยอดขายรวมปริมาณ 65 ล้านลิตร ส่วนปีหน้า (2563) เพอร์ร่าตั้งเป้าหมายรายได้รวมประมาณ 1,700 ล้านบาท เติบโต 32% หรือในเชิงปริมาณ 112 ล้านลิตร พร้อมเป้าหมายการเติบโตที่มากถึง 32%

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สิงห์ คอร์ปอเรชั่น พยายามปรับกลยุทธ์การทำตลาด เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มต่างๆ ให้ได้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ทำการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายและช่องทางกระจายสินค้า เพื่อสร้างความแข็งแรงให้แบรนด์สามารถเป็นผู้นำได้ในทุกมิติ โดยเฉพาะในแบรนด์น้ำดื่มสิงห์  ซึ่งปัจจุบันมีความแข็งแรงเป็นอย่างมากในกลุ่มเป้าหมายผู้ใหญ่ หรือคนที่อายุมากกว่า 35 ปี
 

 
 
จากช่องว่างที่ยังไม่มีความแข็งแกร่งในด้านของตลาดเด็ก สิงห์ คอร์ปอเรชั่น จึงเล็งเห็นกาสทำการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายเด็กมากขึ้น เพราะเด็กในวันนี้คือ ลูกค้าผู้ใหญ่ในวันหน้า ด้วยเหตุนี้ สิงห์ คอร์ปอเรชั่น จึงเลือกนำคาแลคเตอร์การ์ตูนโพนี มาใส่ลงในบรรจุภัณฑ์น้ำดื่มสิงห์ ในแพกเกจ 330 มิลลิลิตร จำนวน 4 ลาย เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังเด็กโตมากขึ้น รวมทั้งการตอบรับต่อแบรนด์ที่มากขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น จากเดิมเน้นกลยุทธ์การสื่อสารที่เข้าถึงผ่าน Influencer และ? Music Marketing  เป็นหลัก
 

 
 
 
ขณะที่คู่แข่งอย่าง "น้ำดื่มสปริงเคิล" ได้ออกมาร่วมสร้างสีสันให้กับตลาดน้ำดื่ม และสร้างความจงรักภักดีให้กับแบรนด์  โดยเล็งเห็นโอกาสเปิดตัวคอลเล็กชัน Unlimited Inspiration ที่บรรจุภัณฑ์ของน้ำดิ่มสปริงเคิลมีสีสันแปลกตา ด้วยลายภาพยนตร์ Star Wars เพื่อต้อนรับการมาถึงของ Star Wars: The Rise of Skywalker ภาคใหม่ที่จะเข้าฉายเดือนธ.ค. นี้

ลายที่มีความโดดเด่นมากที่สุดต้องยกให้ขวดสีขาวฝาฟ้าที่มีตัวละคร R2-D2 อยู่บนขวด  นอกจากนี้ ยังมีขวดสีเขียวตุ่นๆ ที่มีตัวละคร โบบา เฟตต์ (Boba Fett) ขวดสีแดงฉานของ ดาร์ธ มอล (Darth Maul) และที่ขาดไม่ได้เลยคือมหาวายร้าย ดาร์ธ เวเดอร์ (Darth Vader) มาในขวดสีดำสนิทชี้ชวนให้เข้าสู่ดาร์กไซด์ รวมไปถึงขวดสีขาวอีกสองลายทั้ง สตอร์มทรูปเปอร์ (Stormtrooper) และ โคลน ทรูปเปอร์ (Clone Trooper)

สำหรับภาพรวมตลาดน้ำดื่มในสิ้นปี 2562 นี้ คาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 46,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ  45,300 ล้านบาท ส่วนภาพรวมตลาดน้ำแร่ในประเทศไทยรอบเดือนส.ค. 2561 -ส.ค. 2562  มีมูลค่ารวมประมาณ 4,800 ล้านบาท โดยปัจจุบันตลาดรวมน้ำแร่มีสินค้าเข้าทำตลาดอยู่ด้วยกัน  4 แบรนด์หลัก คือ ที่แข่งขันกันอยู่ในตลาด คือ 1. มิเนเร่ มีส่วนแบ่งการตลาด 26.5%, 2. เพอร์ร่า มีส่วนส่วนแบ่งการตลาด 22.8%, 3.ออร่า มีส่วนแบ่งการตลาด 16.9% และ 4. มองต์เฟลอ มีส่วนแบ่งการตลาด 16.2%

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 26 ต.ค. 2562 เวลา : 16:17:12
04-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 4, 2024, 3:34 pm