ประกัน
ทิพยประกันภัยและศูนย์คุณธรรมพาคณะครูทั่วประเทศออกเดินทางตามรอยพระราชา ณ แห่งเรียนรู้มีชีวิต จ.บุรีรัมย์


ทิพยประกันภัยและศูนย์คุณธรรม พาคณะครูทั่วประเทศออกเดินทางตามรอยพระราชา ศึกษาศาสตร์พระราชา ณ แห่งเรียนรู้มีชีวิต จังหวัดบุรีรัมย์

 


 
ทิพยประกันภัย ร่วมกับศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)และมูลนิธิธรรมดี นำคณะครูจากสถาบันการศึกษาต่างๆทั่วประเทศ เรียนรู้การเกษตรแบบยั่งยืนควบคู่การอนุรักษ์ธรรมชาติในกิจกรรม“ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ท่องป่าไร่นาสวนผสมมหาชีวาลัยอีสาน สู่อุทยานการเรียนรู้” ณ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 9 เส้นทาง 81 แหล่งเรียนรู้มีชีวิตตามรอยพ่อ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการร่วมกันสานต่อพระราชปณิธาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา “ศาสตร์พระราชา”พร้อมร่วมกันสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้และปลูกฝังคุณธรรม 4 ประการ พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสาให้กับเยาวชนต่อไป
 

 
นายแพทย์จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ประธานกรรมการ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน)กล่าวว่า“การเดินทางตามรอยพ่อ ศึกษาคุณธรรมศาสตร์พระราชา ณ แห่งเรียนรู้มีชีวิต จังหวัดบุรีรัมย์ ในครั้งนี้ เป็นการตามรอยพระราชา เรียนรู้พิพิธภัณฑ์มีชีวิต ณ มหาชีวาลัยอีสานและศูนย์การเรียนรู้พ่อคำเดื่อง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสองเส้นทางศึกษาการเรียนรู้ ในเส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างจากหนังสือโครงการตามรอยพระราชาที่คัดสรรเป็นจำนวน 9 เส้นทาง 81 แหล่งการเรียนรู้ เพื่อให้คณะครูอาจารย์ ลงพื้นที่เรียนรู้ศึกษาศาสตร์พระราชา พร้อมทำกิจกรรมเสริมทักษะเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาให้ทุกท่านได้สัมผัส เรียนรู้ เข้าใจและเข้าถึงคุณธรรม 4.0 คือ พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา นอกจากนั้นยังมีส่วนในการปลูกจิตสำนึกคนไทยให้มีความศรัทธา ความจงรักภักดี สำนึกรู้ในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ท่านพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยทุกคน จนก่อเกิดเป็น “ศาสตร์พระราชา” ที่ชาวบ้านนำมาปฏิบัติตามจนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น”

 
นางวิชชุดา ไตรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า“ทิพยประกันภัยมีความมุ่งมั่นในการสืบสานศาสตร์พระราชาผ่านการจัดกิจกรรม ‘ตามรอยพระราชา’ อย่างต่อเนื่องในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนตลอด 70 ปีที่ทรงครองราชย์ และสอดคล้องกับปณิธานของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรม ควบคู่ไปกับการมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการส่งเสริมความเจริญอย่างยั่งยืนของสังคมไทยในทุกมิติ ที่สำคัญ ในเดือนตุลาคม ยังเป็นเดือนที่เราจะได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของพระมหากษัตริย์ไทยอีก 2 พระองค์คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในคราวเดียวกันด้วย”

 
กิจกรรมครั้งนี้พาคณะครูเดินทางสู่ “มหาชีวาลัยอีสาน” อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสถาบันภูมิปัญญาท้องถิ่นอีสาน ฟังการบรรยายจากปราชญ์ชาวบ้าน “แม่ฉวี ปรัชญพฤทธิ์” ผู้สานต่ออุดมการณ์ของครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ ปราชญ์ชาวบ้านนักทดลองด้านการเกษตรแห่งอีสานใต้ ผู้นำศาสตร์พระราชามาปรับใช้ในการปลูกป่าแบบไร่นาสวนผสมบนพื้นที่ 400 ไร่ และส่งต่อความรู้สู่ชุมชนด้วยวิถีพอเพียงมายาวนานกว่า 40 ปี มหาชีวาลัยอีสานของครูบาสุทธินันท์นอกจากจะมีแปลงเกษตรประณีตแล้ว ยังมีแปลงสมุนไพร สวนป่ายูคาลิปตัส โรงเผาถ่าน บ่อเลี้ยงปลา โรงเรือนเลี้ยงวัว เลี้ยงนกกระจอกเทศ เลี้ยงไก่ ไปจนถึงเลี้ยงปลวก เพื่อต่อยอดไปสู่การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร
 
 

 
คณะครูยังได้รับประสบการณ์ใหม่จากการร่วมฐานกิจกรรม อย่างการเดินเล่นท่องป่าไร่นาสวนผสม เรียนรู้การแบ่งพื้นที่สำหรับปลูกป่า ปลูกพืชที่หลากหลาย ทั้งไม้ผล ไม้ติดแผ่นดิน ไม้เศรษฐกิจ เลี้ยงสัตว์ ทำนา รวมทั้งพื้นที่สำหรับบ่อปลา แหล่งน้ำและพื้นที่สำหรับพักอาศัยอย่างเหมาะสมและทำน้ำมะสัง ซึ่งเป็นพืชท้องถิ่นที่มีสรรพคุณหลายอย่าง เช่น บำรุงร่างกาย แก้ท้องเดิน ท้องอืดท้องเฟ้อ สมานแผล แก้ไข้ อีกทั้งนำมาใช้ได้หลายส่วนทั้งใบ ราก ผลอ่อน แก่น

จากนั้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ไปเยี่ยมชมและทำกิจกรรมที่ “ศูนย์การเรียนรู้บ้านพ่อคำเดื่อง” อำเภอดงแคน อาณาจักรสีเขียวพื้นที่ 200 ไร่ ที่พ่อคำเดื่อง ภาษี ปราชญ์ชาวบ้าน ได้นำศาสตร์พระราชามาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตและทำเกษตรกรรมอย่างได้ผล โดยยึดแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจนสามารถปลดหนี้ได้ และประสบความสำเร็จในวิถีเกษตรกรรมแบบธรรมชาติ ไม่ใช้ยาปราบศัตรูพืชหรือสารเคมีใดๆ อีกทั้งได้ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้กับเกษตรกรที่สนใจอย่างต่อเนื่องในแบบ “ชาวบ้านสอนชาวบ้าน”

 
ปิดท้ายด้วยการเดินทางสู่ “อุทยานไม้ดอก เพ ลา เพลิน” อำเภอคูเมือง แหล่งพักผ่อนและเรียนรู้ทางธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบแห่งเดียวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา พระอรรคชายาเธอผู้มีหน้าที่ควบคุมดูแลห้องพระเครื่องต้น ของเสวยคาวหวาน อีกทั้งทรงเป็นผู้ก่อตั้งโรงเลี้ยงเด็กแห่งแรกในประเทศไทย ทั้งนี้คณะครูได้ทำกิจกรรมพับดอกบัวและถวายเป็นราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระบรมชน

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 04 พ.ย. 2562 เวลา : 11:12:54
06-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 6, 2024, 7:08 pm