แม้ว่าจะเป็นศูนย์การค้าน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการเพียงแค่ 4 เดือนแต่ “สามย่านมิตรทาวน์“ ก็ถือว่าเป็นศูนย์การค้าที่หลายคนจับตามองมากเลยทีเดียว เนื่องจาก “สามย่านมิตรทาวน์” เป็นหนึ่งในศูนย์การค้าในเครือของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ซึ่งที่ผ่านมาการทำธุรกิจศูนย์การค้าไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ จึงทำให้ “สามย่านมิตรทาวน์” เป็นที่จับตามองว่าจะเดินรอยตามศูนย์การค้าในเครืออื่นๆหรือไม่
ตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา “สามย่านมิตรทาวน์” ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เนื่องจากในแต่ละวันมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ยที่ประมาณ 70,000-80,000 คนต่อวัน สูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30,000 – 36,000 คนต่อวันเท่านั้น เหตุผลที่ทำให้ “สามย่านมิตรทาวน์”ประสบความสำเร็จตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมาหลักๆ น่าจะมาจากการเป็นศูนย์การค้ามีทำเลที่ดีอยู่ใกล้ทางด่วน ทำเลติดถนนใหญ่ 2 เส้นทาง คือ ถนนพญาไท และพระราม 4 นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสามย่านเชื่อมต่อในการเดินทาง แถมยังอยู่ใกล้แหล่งชุมชน สถาบันการศึกษาและอาคารสำนักงาน จึงทำให้ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์มีลูกค้าหลั่งใหลเข้าไปใช้บริการอย่างต่อเนื่องทุกเพศทุกวัย
นอกจากนี้การที่ “สามย่านมิตรทาวน์”วางโพซิชั่นนิ่งของตัวเองเป็นศูนย์การค้าที่ดำเนินธุรกิจภายใต้คอนเซ็ปต์ “คลังแห่งอาหารและการเรียนรู้” รวบรวมร้านอาหารแบรนด์ดังทั้งที่เคยมีอยู่และแบรนด์น้องใหม่เข้ามาเปิดให้บริการอย่างหลากหลาย เช่นเดียวกับการนำซูเปอร์มาร์เก็ต สินค้าไลฟ์สไตล์ ของแต่งบ้าน สถานที่ออกกำลังกาย และสถาบันการเรียนการสอนในรูปแบบต่างๆมาเปิดให้บริการ รวมไปถึงการนำโรงหนังอินดี้และการมีศูนย์ประชุมและนิทรรศการเข้ามาเสริมความครบวงกร จึงทำให้มีลูกค้าหลากหลายรูปแบบ ทุกเพศทุกวัยเดินทางเข้ามาใช้บริการและเพื่อมัดใจลูกค้าเก่าให้ยังคงเดินทางเข้ามาใช้บริการ ควบคู่ไปกับการดึงความสนใจกลุ่มลูกค้าใหม่ให้เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้า ล่าสุด “สามย่านมิตรทาวน์” ได้ออกมาประกาศกยุทธ์ปี 2563 ว่าจะใช้ 3 กลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ
.jpg)
น.ส.ธีรนันท์ กรศรีทิพา รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาธุรกิจรีเทล บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ กล่าวว่าหลังจากเปิดให้บริการ“สามย่านมิตรทาวน์” โครงการมิกซ์ยูส มูลค่า 9,000 ล้านบาท ในช่วงเดือนกันยายน 2562 ที่ผ่านมาลูกค้าให้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี โดยในแต่ละวันมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 70,000 – 80,000 ต่อวัน และเพิ่มเป็น 100,000 คนต่อวัน ในช่วงที่มีการจัดอีเวนต์พิเศษ เห็นได้ชัดจากการจัดงานลานนมสามย่านในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ความสำเร็จที่ได้รับดังกล่าว ทำให้ “สามย่านมิตรทาวน์”ต้องเร่งรักษาฐานลูกค้าเก่าควบคู่ไปกับขยายฐานลูกค้าใหม่ ด้วยการออกมาประกาศแผนการทำตลาดในปี 2020 ผ่าน 3 กลยุทธ์ดังนี้ 1.ขนทัพร้านค้าเปิดให้บริการที่นี่ที่เดียว (One and Only) โดยการมุ่งเน้นไปที่ร้านค้าสายฟู้ด และโนวเลดจ์ เพื่อตอกย้ำคอนเซ็ปต์ของศูนย์การค้า คือ “คลังแห่งอาหารและการเรียนรู้” ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการนำร้านอาหารแบรนด์ดังจากต่างประเทศเข้ามาเปิดให้บริการเป็นสาขาแรกหลายแบรนด์ด้วยกัน เช่น ร้านทิม ฮอร์ตัน (Tim Hortons) เชนร้านกาแฟแบรนด์ดังจากแคนาดา ร้านดินส์ (Din’s) ร้านอาหารนีโอไต้หวัน ร้านเม่ย เว้ย หว่าน (Mei Wei Wan) ต้นตำรับก๋วยเตี๋ยวเนื้อไต้หวัน ร้านสไปซี่ เฮ้าส์ (Spicy House) ร้านอาหารรัสเซียสูตรต้นตำหรับจากสิงคโปร์ และร้านโคกิดา (Gogida) ต้นตำรับปิ้งย่างจากเกาหลี เป็นต้น
นอกจากนี้ยังจะมีการนำ เค สตรีท (K-StrEAT) ศูนย์รวมอาหารเปิดประสบการณ์และวัฒนธรรมเกาหลีแท้ๆ เข้ามาเปิดให้บริการภายในศูนย์การค้าในเดือนเม.ย. นี้ ซึ่งนอกจากจะมีร้านอาหารแบรนด์น้องใหม่เข้ามาเปิดให้บริการแล้ว ยังมีร้านอาหารคอนเซ็ปต์ใหม่รวมไปถึงการนำสถาบันส่งเสริมการเรียนรู้อย่าง แองกริซ (Angkriz) โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษโดยครูลูกกอล์ฟ โรงเรียนสอนภาษาเกาหลี แซฮุน (Zaehoon Korean Language School) โรงภาพยนตร์เฮ้าส์สามย่าน (House Samyan) ร้านมีเดียม แอนด์ มอร์ (Medium and More) ศูนย์รวมงานอาร์ตแอนด์คราฟท์ และเวิร์คช็อป และ ร้านแอพรอน วอล์ค (Apron walk) ศูนย์รวมวัตถุดิบ และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำอาหารครบวงจร เข้ามาเปิดให้บริการอีกด้วย
กลยุทธ์ที่ 2 ที่จะนำมาใช้ คือการปั้นซิกเนเจอร์อีเวนต์ (Signature Event) เพื่อตอกย้ำแบรนด์ดิ้งศูนย์การค้าขวัญใจทุกเพศ ทุกวัย หลังประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีกับ “ลานนมสามย่าน” จนเป็นกระแสในโลกออนไลน์และเป็น Talk of the Town นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Happy New Me ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ด้วยการเป็นคนที่ดีขึ้นให้กับตัวเอง ในปี 2020
สำหรับอีเวนต์ซิกเนเจอร์ที่ศูนย์การค้าได้จัดขึ้นในปี 2020 เป็นงานแรกในช่วงกลางเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา คือการจัดงาน “สามย่านมิตรทาวน์ ไชนีส นิวเยียร์ 2020” ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ มากมายและหนึ่งในไฮไลต์ของงานที่ได้จัดขึ้น คือ การแสดง “งิ้วเปลี่ยนหน้า” เพื่อสร้างเอกลักษณ์ที่แตกต่างไปจากงานตรุษจีนของศูนย์การค้าอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการนำการแสดงงิ้วโบราณมาแสดงกลางศูนย์ฯ ซึ่งก็สร้างความสนใจให้กับคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากปัจจุบันการแสดงงิ้วหาชมได้ยากขึ้นและในวันวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้ “สามย่านมิตรทาวน์” ก็จะมีการจัดงานวาเลนไทน์ภายใต้ธีม “งานวาเลนไทน์คนโสด”
กลยุทธ์ที่ 3ที่จะนำมาใช้เพื่อเพิ่มทราฟฟิกให้กับศูนย์การค้า คือการผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำ (Mitr Partnership) เข้ามาร่วมทำกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งที่ผ่านมา “สามย่านมิตรทาวน์” ก็ได้ชิมลางผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์ทำกิจกรรมการตลาดในรูปแบบต่างๆไปบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการจัดงาน เปิดตัวเทคโนโลยี 5G ของเอไอเอส มาให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด หรือการจัดงาน การีน่า Free Fire Pro League การแข่งขันลีกสำหรับมืออาชีพครั้งแรกของเกม Free Fire ที่จะเฟ้นหาสุดยอดฝีมือของประเทศไทย เป็นต้น
น.ส.ธีรนันท์ กล่าวต่อว่าแผนการทำตลาดในปีนี้บริษัทได้เตรียมงบประมาณไว้ที่ 200 ล้านบาท เพื่อใช้ทำกิจกรรมการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ซึ่งในส่วนของลูกค้าต่างชาติ ปัจจุบันเริ่มมีเข้ามาใช้บริการบ้างแล้ว โดยประเทศที่เข้ามาใช้บริการมากที่สุด คือ จีน ซึ่งจากปัญหาโรคระบาดที่เกิดขึ้น บริษัทเชื่อว่าจะเป็นปัญหาในช่วงระยะสั้นๆเท่านั้น อย่างไรก็ดีบริษัทก็ได้มีการวางมาตรการป้องกันโรคระบาดเป็นอย่างดี เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจเมื่อเดินทางเข้ามาใช้บริการ ซึ่งหลังจากเดินหน้าทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องเชื่อว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นตรงตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน
ข่าวเด่น