การศึกษา-สิ่งแวดล้อม-สาธารณสุข
มติ ครม.ปิดสถานที่เสี่ยงทั่วกรุงเทพฯ 14 วัน เริ่ม 18-31 มี.ค.63


ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าที่ประชุม ครม.วันนี้ (17 มี.ค.63) มีมติเข้มข้น ป้องกัน โควิด-19 โดยจะปิดพื้นที่เสี่ยงบางส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล เริ่ม 18-31 มี.ค.63


โดยมีด้านมาตรการป้องกัน “ลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคในสถานที่ต่าง ๆ ที่มีความเสี่ยงสูง”

ให้มีการปิดชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย สำหรับสนามมวย สนามกีฬา สนามม้า ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ผับ สถานบันเทิง สถานบริการ นวดแผนโบราณ โรงมหรสพ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 14 วัน

งดการจัดกิจกรรมรวมคนจำนวนมากที่มีความเสี่ยงสูงต่อการระบาดของโรค เช่น จัดคอนเสิร์ต จัดงานแสดงสินค้าต่างๆ กิจกรรมทางศาสนา วัฒนธรรม และกีฬา โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาให้ความเห็นชอบ

ลดความแออัดในการเดินทางเพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรค

– ยับยั้งการแพร่ระบาดภายในประเทศ เลื่อนวันหยุดสงกรานต์ 13-15 เม.ย. ออกไปก่อน


– ลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อในระบบขนส่งสาธารณะในประเทศ

– งดกิจกรรมที่มีการเคลื่อนย้ายคนข้ามจังหวัดของหน่วยงานที่มีคนจำนวนมาก เช่น ค่ายทหาร เรือนจำ โรงเรียน หรือหากจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายต้องมีมาตรการป้องกันการแพร่ของโรค รวมถึงการจำกัดการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวด้วย

– ให้ทุกหน่วยงานพิจารณามาตรการเหลื่อมเวลาทำงาน และทำงานที่บ้าน และส่งเสริมให้ใช้ระบบอินเตอร์เน็ต เช่น ประชุมทางไกล โดยให้หน่วยราชการทุกหน่วยทำแผนการทำงานจากบ้าน และรายงานผลการปฏิบัติงานต่อศูนย์โควิด-19 ด้วย

มาตรการด้านสาธารณสุข ย้ำว่าปิดการเข้า-ออกประเทศ แต่ไม่มีการปิดเมือง เพื่อป้องกันและสกัดการนำเชื้อเข้าสู่ประเทศไทย จึงมีมาตรการให้ชาวต่างชาติที่เดินทางจากประเทศที่เป็นพื้นที่เขตติดต่ออันตราย 4 ประเทศ +2 เขตปกครองพิเศษต้องดำเนินการดังนี้

– ขาเข้า ต้องมีใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 3 วัน

– ต้องมีประกันสุขภาพ

– ยินยอมใช้แอปพลิเคชั่นติดตามของรัฐ

– มาตรการนี้ใช้กับการเข้าเมืองทุกทาง ทั้งบก น้ำ อากาศ

– ตม.ดูหนังสือเดินทางของชาวต่างชาติด้วยว่า ประเทศก่อนประเทศสุดท้ายคืออะไรบ้าง เป็นเขตติดโรคหรือไม่ แล้วแจ้งกระทรวงมหาดไทย

– มาตรการกักกันของรัฐถูกคุมไว้สังเกตอาการ 14 วัน

สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง (ยังไม่ประกาศเป็นเขตติดต่อโรคอันตรายต้องดำเนินการดังนี้

– ขาเข้าต้องมีใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 3 วัน

– ต้องมีประกันสุขภาพ

– มีที่พำนักที่สามารถติดต่อได้ในประเทศไทย

– ยินยอมใช้แอฟพลิเคชั่นติดตามของรัฐ

– มาตรการนี้ใช้กับการเข้าเมืองทุกทาง ทั้งบก น้ำ อากาศ

– มาตรการกักกักของรัฐถูกคุมไว้สังเกตุอาการ 14 วัน

ห้ามข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจเดินทางไปต่างประเทศ ยกเว้นมีเหตุจำเป็น และเตือนประชาชนให้งดการเดินทางไปในประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่เขตโรคติดต่ออันตราย และพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง

แนะนำให้คนไทยที่พำนักอาศัยในต่างประเทศชะลอการเดินทางกลับประเทศไทย จนกว่าสถานการณ์การระบาดของโรคในประเทศไทยจะดีขึ้น

ให้ “ปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้น” เช่น สถานที่ซึ่งผู้คนมาร่วมเป็นกิจวัตร เพื่อทำกิจกรรมร่วมกันอาจแพร่เชื้อได้ง่าย

แม้จะป้องกันแล้ว และยังมีทางเลือกอื่นทดแทนการชุมนุม ได้แก่ มหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ สถาบันกวดวิชา และทุกสถาบัน ให้ปิดชั่วคราว ตั้งแต่วันพุธที่ 18 มีนาคม 2563 เป็นระยะวลา 2 สัปดาห์ และให้สถานศึกษาดำเนินการป้องกันโรคตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ดำเนินการป้องกันโรคตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ให้พัฒนาระบบและกลไกการกักกันผู้ที่เป็นหรือผู้ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่ออันตราย ณ ที่พำนัก ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558

ให้มีการกำหนดให้ชาวต่างประเทศ รวมทั้งคนไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ให้มีการใช้แอปพลิเคชั่น ติดตามตัวจัดหาและเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์ อุปกรณ์ เครื่องมือที่จำเป็น ในปริมาณที่เพียงพอสำหรับรับมือระยะ 3 ได้แก่ สถานพยาบาล เตียง หมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัคร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือ และชุดป้องกันโรค

แนะนำให้คนไทยที่พำนักอาศัยในต่างประเทศชะลอการเดินทางกลับประเทศไทย จนกว่าสถานการณ์การระบาดของโรคในประเทศจะดีขึ้น

มาตรการด้านเวชภัณฑ์ป้องกัน “เร่งผลิตในประเทศและจัดหาจากต่างประเทศให้เพียงพอกับความต้องการ”

– เร่งผลิตหน้ากากอนามัย หน้ากากอนามัยผ้า เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการป้องกัน

– เจลแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปใช้หน้ากากผ้า เมื่อเดินทางเข้าสถานที่ชุมนุม/ชุมชน และเร่งผลิตหน้ากากผ้าให้เพียงพอ

– นำหน้ากากอนามัยของกลางที่ยึดได้ส่งศูนย์ฯ เพื่อกระจายต่อไป

– สำรวจความต้องการของเวชภัณฑ์ที่จำเป็น อาทิ ชุดป้องกันสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ (PPE) หน้ากาก N95 ละอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็น และประสานกับต่างประเทศ

– ในการจัดหาเพิ่มเติมให้เพียงพอ เช่น จะมีการตรวจสอบการขาย Online การกักตุน และการระบายของสินค้า

มาตรการ ด้านข้อมูล การสื่อสารข้อมูลต่าง ๆ ของรัฐบาลมาจาก 2 แหล่ง ได้แก่

– กระทรวงสาธารณสุข เป็นการแถลงฉพาะด้านข้อมูลทางการแพทย์ การสาธารณสุข

– ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 เป็นการแถลงภาพรวมในทุกด้านที่เกี่ยวข้อง

มาตรการด้านต่างประเทศ การจัดตั้งทีมงานเพื่อดูแลคนไทยในต่างประเทศ

-ให้ กต.ใช้ประโยชน์จาก TEAM THAILAND ในต่างประเทศ เพื่อเป็นทีมเฉพาะกิจ (Team Thailand COVID-19) ดูแลคนไทยในต่างประเทศ โดยมีท่านทูตเป็นหัวหน้าทีม

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 มี.ค. 2563 เวลา : 16:14:26
27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 10:49 am