“นายกรัฐมนตรีย้ำให้ฝากบอกประชาชนให้อยู่บ้าน ดังนั้นอยากให้ช่วงนี้คนไทยอยู่บ้านก่อนที่เราจะบังคับ”โฆษกประจำสำนักนายกฯกล่าว
โดยเมื่อวานนี้ (20 มี.ค.63) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการประชุมร่วมระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กับกลุ่มคณะแพทย์เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา ในการขอความร่วมมือประชาชน โดยเฉพาะ กทม.และปริมณฑล งดเดินทางออกโดยให้อยู่บ้าน ตามแผน#อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งแนวทางนี้นายกรัฐมนตรียอมรับข้อเสนอแล้ว
“ตอนนี้ขอความร่วมมือประชาชนก่อนให้อยู่บ้าน...#อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ...และหลังจากนั้นจะมีการประเมินว่าจะต้องทำอย่างไร หากไม่ได้รับความร่วมมือ จะต้องมีการยกระดับหรือไม่ อาจมีหลายทางเลือก เช่น สมมุติหากบอกห้ามออกจากบ้านเลย 24 ชั่วโมง กี่วัน มันก็แรงเหมือนกัน แล้วหลังจากผ่านไปจะคุมเชื้อได้จริงหรือไม่ ต้องมีการประเมิน หรือจะเป็นทางเลือกว่าไม่ให้ออกจากบ้านเกินกี่โมงแล้วห้ามออก หรือออกไปได้แค่ไปซื้อของ ทุกอย่างต้องไปประเมินตรงไหนกระทบมากที่สุด”โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ
อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนและมีการวางแผน ไม่ใช่อยู่ๆประกาศล็อกดาวน์ทันที โดยที่ประชาชนไม่ได้เตรียมตัว และไม่ได้มีระบบต่างๆ รองรับ เช่น การลำเลียงส่งของให้กับประชาชน อีกทั้งสิ่งที่นายกฯเป็นห่วงที่สุด คือ คนหาเช้ากินค่ำ ยังต้องออกไปทำมาหากิน ต้องช่วยเหลือคนเหล่านี้ ซึ่งหลังมีการพูดคุยวานนี้ทำให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นระหว่างรัฐบาลและคณะแพทย์ในการดำเนินมาตรการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีอาจมีการเชิญภาคธุรกิจ เอกชน มาร่วมพูดคุยเพื่อรับฟังผลกระทบจากมาตรการในการขอความร่วมมือและการให้ความช่วยเหลือเยียวยา เพราะมาตรการที่ออกมามีผลถึงลูกจ้าง หากภาคธุรกิจอยู่ไม่ได้ ลูกจ้างก็อยู่ไม่ได้ นายกฯเป็นห่วงอย่างมาก ให้ช่วยเหลือคนหาเช้ากินค่ำ หลายอย่างคิดว่าทำได้ง่าย แต่ต้องคำนึงถึงคนเหล่านี้ด้วย
ข่าวเด่น