หนึ่งในมาตรการของรัฐที่บรรเทาความเดือดร้อนและนับว่าถูกใจประชาชนมากที่สุด โดยเฉพาะในภาวะที่ต้อง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” โดยต้องทำงานที่บ้าน "Work From Home" ทำให้ค่าใช้จ่ายในการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมาก
โดยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่า (โควิด-19)
ทั้งนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี “นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์” ระบุว่า ครม.มีมติเห็นชอบ มาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 เพิ่มเติม ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ โดยกำหนดนโยบายมาตรการค่าไฟฟ้าฟรีกับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์ ประเภทที่ 1.1 ของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และประเภทที่ 1.1.1 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จาก 50 หน่วย/เดือน เป็น 90 หน่วย/เดือน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจในหลายส่วนทั้งภาคครัวเรือน ธุรกิจ และอุตสาหกรรม โดยคาดว่า จะมีประชาชนจำนวนมากย้ายถิ่นฐานกลับไปยังภูมิลำเนา รวมถึงการทำงานภายในที่พักอาศัย (Work From Home) ทำให้การใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ใช้ไฟฟ้าที่เดิมเคยได้รับสิทธิค่าไฟฟ้าฟรี จำนวน 50 หน่วยไม่ต้องชำระค่าไฟฟ้า จะไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว เป็นผลให้มีภาระต้องชำระค่าไฟฟ้า ซึ่งในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มดังกล่าวอาจไม่สามารถชำระค่าไฟฟ้าได้
มาตรการดังกล่าวจะเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าเป็นวงเงินประมาณ 9,375 ล้านบาท ได้แก่
1.ค่าไฟฟ้าฟรีระยะเวลา 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย.63) ซึ่งมีประชาชนได้รับประโยชน์รวม 3,029 ล้านบาท (กฟน. 74 ล้านบาท กฟภ. 2,955 ล้านบาท) จำนวน 6.435 ล้านราย (กฟน. 205,272 ราย กฟภ. 6.23 ล้านราย)
2.ขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้า 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย.63) ซึ่งมีประชาชนได้รับประโยชน์รวม 6,346 ล้านบาท (กฟน. 301 ล้านบาท กฟภ. 6,045 ล้านบาท) จำนวน 4.265 ล้านราย (กฟน. 165,567 ราย กฟภ. 4.1 ล้านราย)
ข่าวเด่น