ศบค.เผยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีก 1 คน รวมสะสม 2,988 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม และอยู่ระหว่างรอผลตรวจรอบ 3 ที่ยะลาอีก 40 คน พร้อมเร่งหาแนวทางในการวางมาตรฐานการดูแล หลังพบข้อมูลผู้ติดเชื้อช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจากศูนย์กักกันมากสุด

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในวันนี้ (5 พ.ค.63) พบผู้ป่วยเพิ่ม 1 คน สะสม 2,988 คน หายป่วยแล้วเพิ่ม 7 คน สะสม 2,747 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 54 คน

สำหรับผู้ป่วยใหม่ที่พบ 1 คน เป็นชายไทยอายุ 45 ปี ผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อเมื่อ 4 พ.ค.63 ผู้ป่วยมีประวัติเดินทางไปศาสนสถานและศาสนพิธีในต่างประเทศ มีการสัมผัสในครอบครัวชุมชน อยู่ระหว่างค้นหาว่าสาเหตุการติดเชื้อ ส่วน 40 คน ที่ยะลา จะมีการตรวจเพิ่ม

วันนี้ที่รายงาน 1 คน ทิ้งค้างว่า 40 คนที่จะตรวจเพิ่ม เหตุเกิดชายแดนใต้จะต้องเก็บตัวอย่าง และทบทวนกระบวนการทั้งหมาย ดังนั้นจึงยังต่อรอผลการตรวจ โดยในบ่ายวันนี้กระทรวงสาธารณสุขจะหารือและมีแนวทางร่วมกัน จะเป็นอย่างไร รวมถึงให้เห็นถึงมาตรฐานของการดูแลด้วย”นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว

ทั้งนี้จำนวนผู้ป่วยยืนยันในช่วง 2 สัปดาห์ล่าสุด จำแนกตามปัจจัยเสี่ยง พบว่า เป็นผู้ป่วยจากศูนย์กักกันมากสุด จำนวน 60 คน ผู้ป่วยสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ 49 คน การค้นหาเชิงรุก 31 คน

กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ รายงานผลสำรวจอนไลน์ เรื่อง การปฏิบัติตามมาตรการ อยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ ช่วงเดือนเม.ย. 63 โดยสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 99,865 ราย เป็นเพศหญิง 71.6% ชาย 28.4% พบว่า กลุ่มตัวอย่าง 99.8% เข้าใจว่าควรทำมาตรการ อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ อย่างไร และ 93.8% คิดว่ามาตรการอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ช่วยลดการระบาดของโรคได้ ส่วนสถานที่ที่ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่ายังไม่ควรเปิด 3 อันดับแรก คือ สนามมวย สนามกีฬา สนามแข่งขัน สนามม้า 90.5% รองลงมาเป็นผับ สถานบริการ สถานที่แสดงมหรสพ สถานประกอบการอาบอบนวด 89.9% และ ศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนประถม มัธยม 64.6%

ส่วนสถานการณ์ของโลกรวม 208 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ พบผู้ติดเชื้อ 3,645,539 คน อาการหนัก 49,637 คน หายแล้ว 1,194,476 คน และเสียชีวิต 252,396 คน โดย 5 อันดับแรก คือ สหรัฐ สเปน อิตาลี สหราชอาณาจักร (UK) และฝรั่งเศส สำหรับประเทศไทยขณะนี้อยู่อันดับ 61 จากวานนี้อยู่อันดับที่ 60

สำหรับการนำคนไทยที่ตกค้างกลับไทยนั้น ในช่วงวันที่ 6-31 พ.ค. นี้ มีแผนนำคนไทยเดินทางกลับประเทศอีกประมาณ 7,000 คนทั้งจากปากีสถาน เมียนมา เยอรมนี แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์ ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ เวียดนาม ไต้หวัน สหรัฐ เป็นต้น