ศบค.เผยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 8 คน สะสม 3,000 คน ไม่มีเสียชีวิต  พร้อมเดินหน้าค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกใน 6 กลุ่มเสี่ยง  ขณะที่ไทยเร่งพัฒนาวัคซีนหวังเป็น 1 ในประเทศอาเซียนได้ใช้ก่อน

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ป่วยโรคโควิด-19ในวันนี้ (8 พ.ค.) พบผู้ป่วยเพิ่ม 8 คน สะสม 3,000 คน หายป่วยแล้วเพิ่ม 12 คน สะสม 2,784 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 55 คน

สำหรับผู้ป่วยใหม่ 3 คน พบจากการค้นหาเชิงรุกและค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชน ส่วนอีก 5 ราย เป็นต่างด้าว อายุระหว่าง 19-30 ปี เป็นผู้ป่วยที่อยู่ในศูนย์กักกัน ตรวจคนเข้าเมือง อ.สะเดา จ.สงขลา

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า นิยามผู้สงสัยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค เริ่มตั้งแต่ 1 พ.ค. นี้สำหรับประชาชนทั่วไป โดยอาการและอาการแสดง เช่น ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหรือหายใจลำบาก ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ ไม่ได้กลิ่น

รวมถึงมีอาการร่วมกับ การมีประวัติในช่วง 14 วันก่อนเริ่มป่วย อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น มีประวัติเดินทางไปยัง หรือมาจาก หรืออยู่อาศัยในพื้นที่เกิดโรคติดเชื้อไวรัส ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยว สถานที่แออัด หรือติดต่อกับคนจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังรวมถึงกลุ่มไปในสถานที่ชุมนุม หรือ สถานที่ที่มีการรวมกลุ่มคน เช่น ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า สถานพยาบาล หรือ ขนส่งสาธารณะ สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อ และแพทย์สงสัยว่าติดเชื้อไวรัสดังกล่าว โดยกลุ่มที่มีอาการเข้าเกณฑ์ดังกล่าว จะได้รับการตรวจผลฟรี

ขณะที่สถานการณ์ของโลกรวม 208 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ พบผู้ติดเชื้อ 3,916,338 คน อาการหนัก 48,958 คน หายแล้ว 1,342,460 คน และเสียชีวิต 270,711 คน โดย 5 อันดับแรก คือ สหรัฐ สเปน อิตาลี สหราชอาณาจักร (UK) และฝรั่งเศส สำหรับประเทศไทยอยู่อันดับ 64 ทรงตัวจากวานนี้

ด้านกลุ่มประเทศอาเซียน 5 อันดับแรก คือ อินเดีย 56,351 คน ปากีสถาน 24,644 คน สิงคโปร์ 20,939 คน ญี่ปุ่น 15,477 คน และอินโดนีเซีย 12,776 คน ขณะที่ไทยอยู่อันดับที่ 10 สะสม 3,000 คน

ส่วนประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ โดยนักวิจัยจากห้องปฏิบัติการแห่งชาติ ลอส อลาโมส หนึ่งในห้องปฏิบัติการวิจัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก สังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐ ระบุว่า ไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ที่อุบัติขึ้นในเมืองอู่ฮั่น ของจีน เมื่อกว่า 4 เดือน ได้มีการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ ที่ติดต่อได้ไวขึ้น และกำลังระบาดหนักในสหรัฐเวลานี้

ขณะเดียวกัน นักวิจัยอยู่ระหว่างติดตามไวรัสสายพันธุ์ใหม่ จะอ่อนกำลังลงเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นในช่วงฤดูร้อน เหมือนกับไวรัสโคโรนาที่ทำให้เกิดโรคหวัดตามฤดูกาลหรือไม่ หรือจะกลายพันธุ์ต่อไป ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะทำให้เกิดข้อจำกัดเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนต้านไวรัสที่ทั่วโลกกำลังเร่งพัฒนากันอยู่

“เราในฐานะประเทศก้าวหน้าทางการแพทย์ ทางสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) อยู่ระหว่างรวบรวม 5 โครงการ ในการพัฒนาวัคซีนในประเทศไทย โดยมีความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน และหากร่วมกันได้ในอาเซียน เราเองจะเป็น 1 ในประเทศอาเซียน ที่จะได้ใช้วัคซีนเป็นประเทศแรกๆ เช่นกัน”นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว

ด้านข้อเสนอถอนจีน และ เกาหลีใต้ ออกจากรายชื่อประเทศกลุ่มเสี่ยง โรคติดต่อร้ายแรงกรณีโควิด-19 จะต้องให้คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อพิจารณาต่อไป 

ส่วนการขยายการค้นหาผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงไม่ใช่แค่ 2 กลุ่ม แต่มี 6 กลุ่ม คือกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มผู้กักกัน  ผู้ขับรถสาธารณะ พนักงานส่งของ-ส่งไปรษณีย์  แรงงานต่างด้าว อาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานสถานบันเทิง   กลุ่มนี้มีประมาณ 85,000 คน ที่ต้องจัดการรูปแบบการตรวจและเข้าถึงคนกลุ่มนี้ ะ เพื่อให้มีการยืนยันและมั่นใจการตรวจสอบและป้องกันการแพร่ระบาด