ศบค.เผยไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม แต่รอผลตรวจ State Quarantine 2 คน ซึ่งกลับจากต่างประเทศ พร้อมไฟเขียวต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯอีก 1 เดือน เป็นสิ้นสุด 30 มิ.ย.63 เตรียมคลายล็อคดาวน์ระยะ 3 มีผล 1 มิ.ย.63
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ป่วยโรคโควิด-19ในวันนี้ (22 พ.ค.63) ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ทำให้ยอดสะสมคงเดิมที่ 3,037 คน แต่รอผลการตรวจเชื้ออย่างเป็นทางการ จาก State Quarantine 2 คน ซึ่งเป็นผู้เดินทางกลับจากอียิปต์ และอินเดีย ส่วนผู้รักษาหายมีเพิ่ม 13 คน สะสม 2,910 คน และไม่มีผู้เสียชีวิต ทำให้ยอดสะสมอยู่ที่ 56 คน มีผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษาอยู่ที่ 71 คน
ทั้งนี้มีผู้ป่วยรายใหม่ใน 2 สัปดาห์ ช่วง 8-21 พ.ค. 63 มีผู้ป่วยรายใหม่ 45 คน แบ่งเป็น ผู้ป่วยที่เป็นคนไทยกลับจากต่างประเทศใน State Quarantine 15 คน ผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยก่อนหน้า 11 คน จากการค้นหาเชิงรุกและชุมชน 6 คน ในศูนย์กักกัน 5 คน ผู้ป่วยที่ไปในสถานที่ชุมชน 5 คน และอาชีพเสี่ยง เช่นพนักงานขายของ 3 คน
ส่วนสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 5,194, 210 คน เสียชีวิต 334,621 คน โดย สหรัฐ รัสเซีย บราซิล มีผู้ติดเชื้อมากสุด ส่วนสวีเดน น่ากังวล เนื่องจากไม่มีการใช้มาตรการล็อคดาวน์ และ New Normal ส่วนในอาเซียน พบผู้ป่วยต่อเนื่อง ทั้ง อินเดีย ปากีสถาน สิงคโปร์ บังคลาเทศ อินโดเซีย ฟิลิปปินส์
ขณะที่สถานการณ์ต่างประเทศ หลังเกาหลีใต้เปิดเรียนวันแรก พบการติดโควิด-19 ทำให้ต้องปิดอีกรอบ
www.ไทยชนะ.com ณ วันที่ 21 พ.ค.63 มีกิจการ/กิจกรรมลงทะเบียนเพิ่มขึ้น เป็น 81,149 ร้าน แต่ถือว่ายังมีการเพิ่มขึ้นไม่มาก ส่วนประชาชนใช้งาน 7,470,609 คน เช็คอิน 14,538639 คร้ง เช็คเอ้าท์ 10,932,694 ครั้้ง ยังมีส่วนต่างถึง 4 ร้าน จึงอยากให้ร่วมมือลงทะเบียนเช็คอิน-เช็คเอ้าท์ให้ครบถ้วน เพื่อให้ระบบสมบูรณ์มากขึ้น
ด้านการผลิตวัคซีน ได้แจ้งว่ามีความสำเร็จในระดับหนึ่ง โดยอยู่ระดับการทดลองในสัตว์ และยังต้องทดลองอีกหลายระดับ จึงต้องระมัดระวังในการสื่อสารเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด หรือความคาดหวัง ดังนั้นจึงขอแจ้งว่าการผลิตวัคซีนของไทยยังอยู่ในระดับการเริ่มต้นเท่านั้น
ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุข รายงานความก้าวหน้าการผลิตวัคซีน ว่า มีผู้ทำวัคซีน 6 เทคโนโลยี โดยอยู่ในระดับเดียวกับวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลก ส่วนระยะเวลาต้องใช้ใกล้เคียงกับประเทศอื่น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ระบุว่าต้องใช้เวลารอคอยอีกอย่างน้อย 1 ปี และจำนวนที่เหมาะสมต้องนำไปผลิตในลักษณะ Mass Production ซึ่งอาจใช้เวลา 1-3 ปี ดังนั้นเรายังต้องอยู่กับโควิด-19 อีกนาน ดังนั้นคนไทยต้องปรับตัวรับชีวิตวิถีใหม่
ศบค.เห็นชอบให้เสนอ ครม.เพื่อขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิฯ อีก 1 มิ.ย.-30 มิ.ย.63 นอกจากนี้ ศบค.เตรียมผ่อนคลายมาตรการระยะ 3 โดยกำหนดไทม์ไลน์ คือ ช่วงวันที่ 23-24 พ.ค.63 เป็นการจัดเตรียมข้อมูลของคณะทำงานผ่อนคลายกิจกรรม/กิจการ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด วันที่ 25-26 พ.ค.63 ประชุมคณะทำงานกลั่นกรองกิจการ/กิจกรรม วันที่ 27 พ.ค.63 ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายระยะ 3 และวันที่ 29 พ.ค.63 เข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่เพื่ออนุมัติ และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.63
ข่าวเด่น