หลังศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ออกมาประกาศคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 3 ให้กับกลุ่มธุรกิจโรงภาพยนตร์ให้สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้แบบ New Normal ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา บรรดาผู้ประกอบการโรงภายนตร์ก็ออกมาขานรับการประกาศดังกล่าวกันอย่างพร้อมเพียง หลังจากปิดให้บริการไปกว่า 2 เดือนตามประกาศการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด -19 ตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา

มาตรการที่บรรดาผู้ประกอบการธุริจโรงภาพยนตร์ประกาศออกมาก็ถือว่ามีความเข้มข้นกันพอสมควร เนื่องจากโรงภาพยนตร์ถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วยการออกมาตรการป้องกันต่างๆ ออกมาถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการขับเคลื่อนธุรกิจในยุคนี้

ในส่วนของ ค่ายเมเจอร์ ซึ่งถือเป็นผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ที่มีจำนวนสาขาและจำนวนโรงภาพยนตร์ที่มากสุดในประเทศไทย ก็ออกมาประกาศมาตรการคุมเข้มด้วยวิถีไลฟ์สไตล์ใหม่ในการชมภาพยนตร์ผ่าน 5 มาตรการหลัก เพื่อให้รู้สึกถึงความปลอดภัยจากการเข้ามาชมภาพยนตร์ในโรงหนังของเครือเมเจอร์

นายนรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจาก ศบค.ประกาศผ่อนคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 3 โดยให้โรงภาพยนตร์กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทมีความพร้อมให้บริการโรงภาพยนตร์ได้ในทันที ด้วยมาตรการ New Normal ขั้นสูงสุด 5 มาตรการหลัก ดังนี้

1. Screening การตรวจคัดกรองลูกค้าทุกคน ด้วยการวัดอุณหภูมิ ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอลล์ก่อนเข้าใช้บริการ

2. Social Distancing การเว้นระยะห่างทางสังคม ตั้งแต่การเข้าแถวรอคิวทุกจุดที่เข้าใช้บริการในระยะห่าง 1 เมตร มีฉากกั้นระหว่างพนักงานและลูกค้าทุกจุดเคาน์เตอร์บริการ ที่สำคัญภายในโรงภาพยนตร์มีการเว้นระยะห่าง นั่ง 2 ที่นั่ง เว้น 2 ที่นั่ง ในแถวเดียวกัน และแถวเว้นแถว โดยจัดนั่งระหว่างแถวแบบสลับฟันปลา พร้อมเพิ่มมาตรการพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับ “Partition Shield” ฉากกั้นระหว่างที่นั่งภายในโรงภาพยนตร์ทุก 4 ที่นั่ง ที่ให้ความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย 

3. Cleaning การทำความสะอาดทุกจุดพื้นที่และภายในโรงภาพยนตร์ก่อนเข้าฉายแต่ละเรื่องทุกรอบ

4. Cashless เลี่ยงการแพร่เชื้อด้วยการลดสัมผัส ด้วยการใช้จ่ายโดยไม่ใช้เงินสด ทั้งการซื้อตั๋วหนัง ป๊อปคอร์นและน้ำ สามารถทานในโรงภาพยนตร์ได้ 

5. Tracking การติดตามและตรวจสอบได้ มีการเช็คอิน-เช็คเอาท์ของลูกค้า เพื่อสะดวกในการติดตาม      

นายนรุตม์ กล่าวว่า การชมภาพยนตร์แบบ New Normal  ทำให้จำนวนที่นั่งลดน้อยลง ลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการควรจองและซื้อตั๋วล่วงหน้าก่อนเข้ามาใช้บริการ  ซึ่งในส่วนของโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์สามารถซื้อและจองได้ผ่าน Application Major Cineplex หรือ Web รวมไปถึงตู้จำหน่ายบัตรอัตโนมัติ E Ticket  ซึ่งในส่วนของภาพรวมอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์นับตั้งแต่ไตรมาส 3 ไปกลับมาฟื้นตัวแน่นอน เพราะมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ตบเท้าทยอยเข้าฉาย

ด้าน ค่ายเอสเอฟ ก็มีการความปลอดภัยเข้มข้นขั้นสูงสุดเช่นกันผ่าน 4  มาตรการหลัก เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการมีความมั่นใจในความปลอดภัยเมื่อเข้ามาใช้บริการในโรงภาพยนตร์เครือเอสเอฟ

นายสุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วงที่ปิดให้บริการชั่วคราว บริษัทได้ให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อภายในโรงภาพยนตร์อย่างสม่ำเสมอ ทั้งบริเวณที่นั่งและระบบปรับอากาศภายในโรงภายนตร์ โดยแผนกซ่อมบำรุงของโรงภาพยนตร์ทุกสาขาได้ดำเนินการล้างฟิลเตอร์เครื่องปรับอากาศ (AHU) ทำความสะอาดห้องควบคุมระบบปรับอากาศให้สะอาดและแห้ง เปิดพัดลมระบายอากาศ (Ventilation Exhaust Fan) เพื่อให้อากาศมีการหมุนเวียนและระบายความอับชื้น

สำหรับการกลับมาเปิดให้บริการครั้งนี้ โรงภาพยนตร์ในเครือเอสเอฟ ได้กำหนดมาตรฐานการบริการใหม่ในรูปแบบ New Normal ดังนี้

มาตรการที่ 1. การดูแลความสะอาดและความปลอดภัย บริเวณโรงภาพยนตร์  ด้วยการให้ผู้ใช้บริการทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา และก่อนเข้าใช้บริการต้องลงทะเบียนเมื่อใช้บริการผ่านระบบไทยชนะ หรือลงชื่อและข้อมูลติดต่อทุกครั้ง  เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยก่อนเข้าไปชมภาพยนตร์ ทางเอสเอฟได้มีการกำหนดจุดยืนรอคิว และจุดนั่งรอชมภาพยนตร์ เพื่อรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล  มีการจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ให้บริการทุกจุดอย่างทั่วถึง และมีพนักงานทำความสะอาดทุกจุดสัมผัสด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 30 นาที

มาตรการที่ 2. คือ การจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์ ป๊อบคอร์น และเครื่องดื่ม ด้วยการส่งเสริมการซื้อบัตรชมภาพยนตร์ผ่านทางเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน เพื่อลดการสัมผัส ขณะเดียวกัน ในส่วนของเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติ (Kiosk) บริเวณหน้าโรงภาพยนตร์ จะเปิดให้บริการตู้เว้นตู้ เพื่อเพิ่มระยะห่างระหว่างบุคคล  และรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิต บัตร SF+ และ E-Payment เพื่อลดการสัมผัส กรณีชำระเงินด้วยเงินสดจะต้องใช้ถาดรับและทอนเงิน

มาตรการที่ 3. การดูแลความสะอาดและความปลอดภัยภายในโรงภาพยนตร์  ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิผู้ใช้บริการก่อนเข้าชมภาพยนตร์ ต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดทางเข้าออกที่ชัดเจน กำหนดระยะห่างของการนั่งชมภาพยนตร์ โดยมีการเว้นที่นั่ง และมีแผงกั้นระหว่างที่นั่งชมภาพยนตร์ พร้อมกับดูแลระบบปรับอากาศภายในโรงภาพยนตร์ ทำการอบฆ่าเชื้อด้วยโอโซนหลังปิดให้บริการทุกวัน ควบคู่ไปกับการทำความสะอาดพื้นที่ อุปกรณ์ ทุกจุดสัมผัสด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และเปลี่ยนผ้ารองศีรษะที่เก้าอี้ก่อนรอบฉายทุกครั้ง

และมาตรการที่ 4.  คือ การดูแลพนักงาน โดยพนักงานทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย Face Shield และถุงมือ ตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานก่อนเริ่มงานทุกวัน หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ จะต้องหยุดปฏิบัติงานและพบแพทย์ทันที

นายสุวัฒน์  กล่าวปิดท้ายว่า  หลังจากนี้อุตสาหกรรมภาพยนตร์จะกลับมาเติบโตได้อีกแน่นอน เพราะทุกคนคิดถึงบรรยากาศในโรงหนัง และอยากผ่อนคลายหลังจากที่เจอวิกฤติในช่วงที่ผ่านมา