ยังคงต้องปรับตัวกันต่อไปสำหรับภาคธุรกิจในประเทศไทย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด-19 ทั่วโลกยังคงน่าเป็นห่วง เพราะในแต่ละวันมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 2 แสนคน ที่ระบาดหนักก็เห็นจะเป็นสหรัฐอเมริกา บราซิล และอินเดีย
แม้ว่าสถานการณ์ภายในประเทศของไทยในขณะนี้จะยังไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิดขึ้น แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บวกกับสถานการณ์ในประเทศยังน่าเป็นห่วง ส่งผลให้ภาคธุรกิจและกลุ่มแรงงานมีการปรับตัว เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ โดยเฉพาะการรับมือเรื่องปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้เกิดรูปแบบการทำงานวิถีใหม่ในรูปแบบ New Normal
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้ “แมนพาวเวอร์กรุ๊ป” ในฐานะที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญตลาดแรงงานเชิงนวัตกรรมชั้นนำระดับโลก มีความสนใจที่จะทำการสำรวจตลาดแรงงาน ด้วยการสุ่มกลุ่มตัวอย่างประมาณ 1,246 คน จากแรงงานในหลายอาชีพว่ามีกลุ่มอาชีพในสายงานใดที่คนทำงานต้องการทำท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 นับเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของแรงงานในยุคที่เรียกได้ว่า “การหยุดชะงักทางธุรกิจ” หรือ “Business Disruption”
หลังจากทำการสำรวจเสร็จสิ้น “แมนพาวเวอร์กรุ๊ป” พบว่า มีกลุ่มอาชีพที่ขยายตัวและเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างเห็นได้ชัดมีอยู่ด้วยกัน 10 กลุ่มอาชีพ ประกอบด้วย
กลุ่มอาชีพที่ 1 กลุ่มอาชีพอิสระต่างๆ คิดเป็นอัตราการเติบโต 12.76% เพราะจากวิกฤตที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา คนทำงานประจำหันมาให้ความสนใจทำงานเสริมกันมากขึ้น เพื่อหารายได้เพิ่มเติมจากช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ เห็นได้จากตลอดระยะเวลากว่า 4 เดือนที่ผ่านมา หลายองค์กรมีการปรับรูปแบบการทำงานเป็น Work from Home ทำให้มีการจัดสรรเวลาจากการทำงานประจำมาทำงานที่เป็นอาชีพอิสระกันมาขึ้น โดยการนำทักษะความรู้ที่ตัวเองมีมาต่อยอดสร้างเป็นรายได้ควบคู่ไปกับรายได้ประจำ ขณะเดียวกันผู้ประกอบอาชีพอิสระก็มีการหางานอิสระระยะสั้นประเภทต่างๆ เพื่อหารายได้เพิ่มเติม
กลุ่มอาชีพที่ 2 ที่มีการขยายตัวอย่างเห็นได้ชัด คือ กลุ่มอาชีพด้านโลจิสติกส์, ซัพพลายเชนส์ และการขนส่งเดลิเวอรี่ มีอัตราการเติบโตคิดเป็น 10.32% เพราะจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ที่เกิดขึ้น ทำให้คนไทยหันไปช้อปปิ้งผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้กลุ่มอาชีพด้านโลจิสติกส์, ซัพพลายเชนส์ และการขนส่งเดลิเวอรี่ มีการเติบโตสอดคล้องไปกับการซื้อสินค้าออนไลน์ หรืออี-คอมเมิร์ซ ภายหลังภาครัฐมีการประกาศล็อคดาวน์ควบคุมการออกจากบ้าน และการเปิดให้บริการของบรรดาห้างร้านต่างๆ
กลุ่มอาชีพที่ 3 คือ กลุ่มอาชีพงานที่ใช้ภาษาต่างประเทศ คิดเป็นอัตราการเติบโตที่ 10.29% โดยเฉพาะภาษาที่ 2 และ 3 อย่างเช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น นับเป็นโอกาสกับอาชีพนี้ที่จะนำความรู้มาใช้ในการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ ซึ่งนอกจากจะทำงานประจำแล้วยังสามารถต่อยอดรายได้เสริมได้อีกด้วย
กลุ่มอาชีพที่ 4 อาชีพขายสินค้าออนไลน์ จากวิกฤตที่เกิดขึ้นคงปฏิเสธไม่ได้ว่าอาชีพค้าขายออนไลน์ หรืออี-คอมเมิร์ซ นับเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับอานิสงค์จากสถานการณ์นี้ นอกจากนี้ ยังมีช่องทางที่หลากหลายให้สามารถเลือกซื้อสินค้าไม่ว่าจะโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ค (Facebook) อินสตาแกรม (IG) และไลน์ (LINE) รวมทั้งแอปพลิเคชันในกลุ่ม E-Market Place ต่างๆ ถือว่าเป็นช่องทางในการซื้อสินค้าโดยไม่ต้องไปถึงร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้า แนวโน้มที่ดีดังกล่าวทำให้กลุ่มอาชีพนี้มีอัตราการเติบโตที่ 9.61%
กลุ่มอาชีพที่ 5 คือ กลุ่มงานที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์คนอยู่บ้าน คิดเป็น 8.82% โดยเฉพาะกลุ่มงานบริการที่บ้าน (Service at home) เนื่องจากในช่วงที่คนทำงานอยู่ที่บ้าน นอกจากทำงานแล้วทำให้มีความต้องการบริการต่างๆ ที่บ้านเพิ่มมากขึ้น อาทิ งานซ่อมแซมบ้าน งานบริการตัดผม งานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการออกกำลังกาย สัตว์เลี้ยง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
กลุ่มอาชีพที่ 6 คือ กลุ่มงานในการให้บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ คิดเป็น 7.35% โดยรูปแบบการทำงานมีทั้งทางโทรศัพท์ และการตอบทางช่องทางแชท ทำให้การให้บริการและตอบคำถามลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งกลุ่มที่ใช้งานมากสุดในช่วงนี้ก็คือ ช่องทางร้านค้าออนไลน์
กลุ่มอาชีพอันดับที่ 7 เป็นงานกลุ่มสุขภาพและยา คิดเป็น 5.88% ซึ่งรวมถึงกลุ่มงานทางการแพทย์ หมอ พยาบาล นักกายภาพบำบัด และงานด้านการดูแลผู้สูงอายุ ที่สอดรับกับทิศทางของสังคมสูงอายุที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบันด้วย
กลุ่มอาชีพที่ 8 กลุ่มอาชีพงานสอนในรูปแบบอี-เลิร์นนิ่ง (E-Learning) คิดเป็น 5.63% ปัจจุบันมีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสอดคล้องกับวิถีการดำเนินชีวิตปกติใหม่ (New Normal) เพราะทำให้สะดวกและสามารถเสริมทักษะความรู้ได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยการเรียนการสอนผ่านอุปกรณ์ไอทีและแพลตฟอร์มต่างๆ ได้หลากหลายอีกด้วย
กลุ่มอาชีพที่ 9 คือ งานด้านไอที (Information Technology) คิดเป็น 4.41% อาชีพนี้ถือเป็นกลุ่มที่มีความต้องการสูง เนื่องจากต้องใช้ทักษะเฉพาะทาง กลุ่มนักพัฒนาแอปพลิเคชั่น งานทางด้านดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์ กลุ่มงานทางด้านเน็ตเวิร์คและงานไอทีซัพพอร์ต
ปิดท้ายกันที่กลุ่มอาชีพที่ 10 คือ กลุ่มงานด้านการตลาดทั้งออนไลน์ออฟไลน์ คิดเป็น 4.39% กลุ่มอาชีพนี้ คือ เป็นส่วนงานที่ต้องใช้ทักษะ และใช้ความรู้ความเข้าใจในการสื่อสารทางการตลาด โดยเฉพาะการสื่อสารในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ที่เกิดขึ้น เนื่องจากต้องสื่อสารข่าวสารต่างๆ ที่ออกมาด้วยความเข้าใจด้วยวิธีการต่างๆ
จากผลการวิจัยและผลสำรวจดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่าหลายกลุ่มอาชีพสามารถนำมาพัฒนาและต่อยอดเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักได้ เพียงแต่ต้องดึงศักยภาพของตัวเองออกมา
ข่าวเด่น