พฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีการเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงให้ทันไม่เว้นแต่ “ธุรกิจฟู้ดรีเทล” ที่เน้นจำหน่ายสินค้าประเภทของกินของใช้ เพราะถ้าสินค้าไม่โดน โปรโมชั่นไม่ใช่ บริการไม่เป็นที่ประทับใจ ผู้บริโภคก็อาจจะเปลี่ยนไปหันไปใช้บริการของค่ายคู่แข่งได้
ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการในธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตจึงต้องมีการปรับกลยุทธ์ในการทำการตลาดอยู่ตลอดเวลา เพื่อมัดใจลูกค้าเก่า ควบคู่ไปกับการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆให้เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือท็อปส์ ที่มีการปรับกลยุทธ์ร้านค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคแต่ละพื้นที่เข้าไปทำการตลาด ส่งผลให้ปัจจุบัน บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด มีธุรกิจค้าปลีกในเครือหลากหลายแบรนด์ เช่น เซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์ ฟู้ดสโตร์ระดับเวิลด์คลาส , ท็อปส์ มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต ของครอบครัวและคนรุ่นใหม่ ,ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์ คุ้ม ครบ เพื่อคุณ ด้วยสินค้าคุณภาพดี , ซูเปอร์คุ้ม ครบครันของสินค้านานาชนิด , ท็อปส์ เดลี่ มินิซูเปอร์มาร์เก็ต “ครบครัน คุ้มทุกวัน” และท็อปส์ พลาซ่า ศูนย์การค้าในเครือท็อปส์
ล่าสุดได้มีการพลิกโฉม “ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาเวสต์เกต” เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ด้วยการยกระดับการช้อปปิ้งในรูปแบบไลฟ์สไตล์พรีเมี่ยมซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ สนุกกับการใช้เวลาในการช้อปปิ้งได้มากขึ้น โดยท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาเวสต์เกต จะเป็นไลฟ์สไตล์พรีเมี่ยมซูเปอร์มาร์เก็ต ต้นแบบในปี 2020 ที่ครบครันด้วยสินค้าและบริการ ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย
นางสุจิตา เพ็งอุ่น กรรมการผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า โฉมใหม่ของ “ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาเวสต์เกต” จะประกอบไปด้วย 6 โซนสินค้าใหม่ ซึ่งเป็นแม็กแน็ตสำคัญที่จะดึงดูดลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองและกำลังซื้อของลูกค้าในโซนกรุงเทพฯตะวันตก ซึ่งสอดรับกับแผนการขยายลูกค้าในพื้นที่เป้าหมายครอบคลุม 8 จังหวัด ตั้งแต่กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี, อยุธยา, นครปฐม, สุพรรณบุรี ขยายไปถึงราชบุรี และกาญจนบุรี เนื่องจากศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่าเวสต์เกต ถือเป็นเดสติเนชั่นอันดับหนึ่งของโซนกรุงเทพฯ ตะวันตก
สำหรับโฉมใหม่ของ ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาเวสต์เกต นั้นจะครบครันด้วยสินค้าจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 40,000 รายการ พร้อม 6 โซนใหม่แม็กเน็ตสำคัญ ได้แก่
Baker’s Oven ร้านเบเกอรี่แบบ Shop in Shop โทนสีขาวสะอาดตาสไตล์โมเดิร์นพร้อมที่นั่งให้ลูกค้าได้เพลินเพลินกับเบเกอรี่ อบ สดใหม่ สไตล์เอเชี่ยนและยุโรป และเครื่องดื่มจาก Coffee ARIGATO
Healthiful โซนจำหน่ายสินค้าและอาหารเพื่อสุขภาพครบวงจร
โซนบิวตี้ไลฟ์สไตล์ ของกลุ่มสินค้าความงาม และ Personal care
โซนนั่งรับประทานอาหารปรุงสดใหม่ โดยเชฟมืออาชีพกว่า 100 เมนู ในราคาเริ่มต้น 49 บาท
และ โซนจำหน่ายสินค้าเพื่อคนรักสัตว์ ด้วยสินค้าที่ครบครัน 2,000 รายการ เป็นต้น
ส่วนแผนการขยายสาขาใหม่ในปีนี้ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีประมาณ 248 สาขา แบ่งเป็น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ 10 สาขา ,ท็อปส์มาร์เก็ต ประมาณ 117 สาขา,ท็อปส์ซูเปอร์สโตร์และท็อปส์พลาซ่า ประมาณ 9 สาขา,ท็อปส์เดลี่ ประมาณ 108 สาขา และอื่นๆ อีกประมาณ 4 สาขา
ด้านบิ๊กซีซูเปอร์มาร์เก็ต ก็เดินหน้าขยายธุรกิจในรูปแบบซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะในส่วนของแบรนด์ บิ๊กซี ฟู้ดเพลส เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี หลังจากเปิดให้บริการไปแล้ว 4 สาขา โดยล่าสุดได้มีการใช้งบ 200 ล้านบาท เปิดสาขาท่าอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทยและพร้อมมุ่งมั่นเคียงข้างสังคมไทย ผ่านการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เปิด บิ๊กซี ฟู้ดเพลส สาขาท่าอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งถือเป็นการขยายสาขาลำดับที่ 4 เพื่อช่วยสนับสนุนให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจังหวัดนนทบุรี
จุดเด่นของบิ๊กซี ฟู้ดเพลส สาขาท่าอิฐ คือ การมีสินค้าคุณภาพคุ้มค่าคุ้มราค 15,000 รายการ นำมาจำหน่าย ควบคู่ไปกับการนำร้านค้าชั้นนำมาให้ลูกค้าได้เลือกช้อปปิ้ง นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่จอดรถยนต์และจักรยานยนต์ จำนวน 424 คัน อำนวยความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้า
นายอัศวิน กล่าวต่อว่า ไฮไลต์สุดพิเศษที่จะพบใน บิ๊กซี ฟู้ดเพลส สาขาท่าอิฐ คือ โซนบริการอาหารพร้อมรับประทานในคอนเซ็ปต์ Grab & Go ที่สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมถึงมุมนำเสนออาหารเพื่อสุขภาพ ผักออร์แกนิกหลากหลายเมนู รองรับเทรนด์การใส่ใจสุขภาพของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ตลอดจนโซนเบเกอรี่ระดับพรีเมียมสไตล์ฝรั่งเศส สดใหม่ ที่มีหลากหลายเมนูให้เลือกสรร และร้านกาแฟออร์แกนิก WAWEE เป็นต้น
ในส่วนของแผนการขยายสาขา ก่อนหน้านี้ทางทีมผู้บริหารของบิ๊กซี ได้ออกมาเปิดเผยว่าจะขยายเพิ่มเป็นในส่วนของไฮเปอร์มาร์เกตประมาณ 5-7 สาขา, บิ๊กซีมาร์เก็ต ประมาณ 2 สาขา และมินิบิ๊กซีอีก 300-400 สาขา ส่วนฟอร์แมตอื่นๆอยู่ระหว่างการวางแผน
ด้านเดอะมอลล์ ก็เดินหน้าขยายสาขา "กูร์เมต์ มาร์เก็ต" อย่างต่อเนื่องเช่นกันหลังยกระดับ "โฮม เฟรช มาร์ท" เป็นกูร์เมต์ มาร์เก็ต ซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับกลางให้เป็นพรีเมี่ยม เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบคนเมือง ด้วยการชูจุดเด่นด้านสินค้าเพื่อสุขภาพ และเน้นการจำหน่ายอาหารสดที่มีสัดส่วนถึง 40% อาหารแห้งอีก 40% อีก 20% เป็นสินค้าของใช้ทั่วไป โดยในปีนี้มีแผนที่จะเปิดกูร์เมต์เพิ่มอีก 1-2 แห่ง จากปัจจุบันมีสาขารวม 15 สาขา
ปัจจุบันตลาด “ฟู้ดรีเทล” มีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านบาทโดยช่องทางในการขับเคลื่อนสินค้าสู่ผู้บริโภคแบ่งเป็น 2 ช่องทางคือเทรดดิชั่นนอลเทรดและโมเดิร์นเทรด โดยในส่วนของซุปเปอร์มาร์เก็ต มีการขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่องคือ 5% ในปี 2560 เพิ่มเป็น 6.5% ในปี 2561 และ 6 -7% ในปี 2562 ส่วนในปี 2563 นี้จะเติบโตเท่าไหร่นั้นคงต้องรอลุ้น เพราะปีนี้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ไปแบบเต็มๆ
ข่าวเด่น