กลยุทธ์การลงทุน:
คาด SET มีกรอบบนที่เริ่มจำกัดที่แนวต้าน 1353 และ 1357 จุด ตามลำดับ และมีโอกาสกลับมาอ่อนตัว ซึ่งหากต่ำกว่า 1341 จุด จะเป็นสัญญาณลบ และมีแนวรับถัดไปที่ 1334 จุด โดยปัจจัยกดดันคาดมาจาก แรงขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อนการประชุมเพื่อทบทวนข้อตกลงการค้า ซึ่งอาจสร้างความกังวลต่อประเด็นสงครามการค้าให้กลับมาอีกครั้ง กลยุทธ์ การเข้าตลาดในช่วงนี้ ให้ใช้การเก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากตลาดยังมีความผันผวนเปลี่ยนแปลงขึ้นลงเร็ว และแนวโน้มหลักยังคาดอยู่ในทิศทางลง ส่วนพอร์ตลงทุน รอซื้อสะสมบริเวณ 1300 จุด
ล็อคเป้าลงทุน:
- หุ้นที่ได้อานิสงส์พัฒนาการเชิงบวกของวัคซีน คือ หุ้นท่องเที่ยว-โรงแรม สนามบิน น่าจะทำให้ราคาหุ้น outperform ได้ในระยะสั้นๆ แนะนำให้ trading เก็งกำไร เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มธนาคาร
- ยังคงให้ระมัดระวังหุ้นกลุ่มพลังงาน, ปิโตรเคมี, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และแนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มดังกล่าว หากผลการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน ออกมาในโทนลบ
- ส่วนหุ้น Defensive Play ที่มองว่าเป็นหลุมหลบภัย คือ กลุ่มการแพทย์ โรงไฟฟ้า และค้าปลีก และหุ้น Domestic Play ที่อิงกับการลงทุนภาครัฐ เช่น รับเหมาก่อสร้าง-โครงสร้างฐานราก รอซื้อสะสมเมื่ออ่อนตัว
- หุ้นแนะนำประจำวัน BEM คาดผลการดำเนินงาน 2H63 ฟื้นตัวแข็งแกร่ง และมี upside ส่วนเพิ่มจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีม่วงใต้ โดยให้ทยอยซื้อเมื่อราคาย่อตัว
ประเด็นสำคัญ
# DJIA, S&P500 ปรับลดลง แม้ตัวเลขภาคแรงงานดีกว่าคาด
โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ล่าสุดอยู่ที่ 9.63 แสนราย น้อยกว่าคาดที่ 1.1 ล้านราย และเป็นระดับที่ต่ำกว่า 1 ล้านรายนับตั้งแต่ มี.ค. ปัจจัยกดดันยังมาจากการเจรจามาตรการพยุงเศรษฐกิจของสหรัฐของฝั่งส.ส.และส.ว.ยังคงห่างไกลจากข้อตกลงกันได้
# ราคาน้ำมันปรับลงหลัง OPEC และ IEA ลดคาดการณ์อุปสงค์ลง
โดย OPEC คาดว่าอุปสงค์น้ำมันในปีนี้จะลดลง 9.06 จากที่คาดไว้ก่อนหน้าว่าจะลดลง 8.95 ล้านบาร์เรลต่อวัน เช่นเดียวกับ IEA คาดอุปสงค์ปีนี้ลดลง 8.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ผลจากการเดินทางทางอากาศที่ลดลงมาก
# ประเด็นติดตาม: ประชุมข้อตกลงการค้าเฟส 1, รายงานประชุม FOMC
โดยในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) ผู้แทนการค้าของสหรัฐและจีนจะร่วมประชุมเพื่อประเมินผลของข้อตกลงการค้าเฟส 1 ท่ามกลางความตึงเครียดของทั้ง 2 ประเทศ ส่วนสัปดาห์หน้า 19 ส.ค. (หรือเช้ามืด 20 ส.ค. ตามเวลาในไทย) Fed เปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อ 28-29 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีการเปลี่ยนกลยุทธ์ เครื่องมือ และการสื่อสารในระยะยาว รวมทั้งจับตาว่าจะมีการส่งสัญญาณดอกเบี้ยติดลบ หรือ Yield Curve Control หรือไม่
Wealth Strategy
ลงทุนหุ้นกู้คุณภาพ "BJC" บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) อายุคงเหลือ 4 ปี อันดับเครดิตหุ้นกู้ A+
บทวิเคราะห์วันนี้
BDMS – 2Q63: กำไรต่ำกว่าคาด
BEM – 2Q63: กำไรสูงกว่าคาด
BJC – 2Q63: กำไรเป็นไปตามคาด
BTSGIF – 1QFY64: กำไรปกติดีกว่าคาด
ERW – 2Q63: ขาดทุนจำนวนมากตามคาด
IVL – 2Q63: กำไรปกติดีกว่าคาด
MINT – 2Q63: ขาดทุนจำนวนมากตามคาด
MTC – ความสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ลดลง; อัพเกรดเป็น “ซื้อ”
THRE – 2Q63: ดีเกินคาด เพราะ combined ratio ดีกว่าคาด
TU – 2Q63: กำไรดีเกินคาดเพราะอัตรากำไรสูงกว่าคาด
ข่าวเด่น