การตลาด
สกู๊ป ''สยามพิวรรธน์'' ปรับ Mindset ลุยต่อ Co-creation สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน


ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้หลายธุรกิจประสบปัญหาอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน  จากผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้ทุกองค์กรต้องเร่งพัฒนาและยกระดับการดำเนินงาน เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค 

เช่นเดียวกับกลุ่มสยามพิวรรธน์ เจ้าของและผู้บริหาร ศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และพันธมิตรเจ้าของโครงการไอคอนสยาม ที่ยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจที่เอื้อประโยชน์ให้กับคนจำนวนมาก และได้ปลูกฝังเข้าไปอยู่ในโมเดลธุรกิจ เพราะกลุ่มสยามพิวรรธน์เชื่อว่าแนวคิดนี้จะเป็นรูปแบบธุรกิจแห่งอนาคตที่นำไปสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง
 
 
นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า  นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท สยามพิวรรธน์ ในปี 2502 หนึ่งในปณิธานหลักของบริษัทคือ การพัฒนาโครงการให้เป็นรูปแบบธุรกิจ เพื่อส่วนรวมที่สร้างคุณค่าต่อผู้คน ชุมชนสังคมและประเทศชาติ โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้ใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า “ร่วมกันรังสรรค์ (Co-creation) และการสร้างคุณค่าสมประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย (Creating Shared Values)” ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจที่มุ่งเน้นการพัฒนาคนจากภูมิปัญญาไทยและความคิดสร้างสรรค์ส่งต่อประโยชน์ให้กับคนจำนวนมากในสังคมไทยตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในสังคม
 
โครงการที่กลุ่มสยามพิวรรธน์  เริ่มปลูกฝังแนวคิดการส่งต่อประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่ผู้คนเป็นวงกว้าง สร้างความยั่งยืนในทุกมิติ มีการพัฒนาและต่อยอดให้เกิดความสำเร็จร่วมกัน ไม่ใช่เป็นเพียงการทำกิจกรรมเพียงครั้งคราวแล้วจบไป สยามพิวรรธน์ทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน เพื่อที่จะสร้างรูปแบบธุรกิจต่างๆ ของการค้าปลีกที่ได้มีโอกาสใช้ธุรกิจและสถานที่ของสยามพิวรรธน์เป็นเวทีของการนำเสนอสินค้าและบริการในหลากหลายประเภท 
 
 
ในส่วนของโครงการที่กลุ่มสยามพิวรรธน์ ได้เริ่มเข้าไปให้ความช่วยเหลือและพัฒนาผู้ประกอบการรายย่อย ได้แก่  ไอคอนคราฟต์ (ICONCRAFT)  พื้นที่แห่งแรงบันดาลใจและสนับสนุนส่งเสริมผลงานจากช่างฝีมือไทยทั่วประเทศที่ใหญ่ที่สุดด้วยการเนรมิตรบริเวณชั้น 4 และชั้น 5 ไอคอนสยาม คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 2,500 ตร.ม. สร้างเป็นพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจผ่านงานช่างฝีมือไทยทั่วประเทศ เพื่อเชิดชูภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยในมุมมองใหม่ลงบนงานหัตถศิลป์ 
 
หลังจากเปิดตัวโครงการดังกล่าว  กลุ่มสยามพิวรรธน์  ได้ขยายโครงการไอคอนคราฟต์ ไปที่บริเวณบริเวณชั้น 3 สยามดิสคัฟเวอรี่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The creative inspiration platform for Thai craftsmen, to love, enjoy and be proud of modern Thai-ness”
 
โดยได้นำเสนอผลงานของสุดยอดช่างฝีมือไทยจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศกว่า 500 แบรนด์ ผ่านการนำเสนอใน 4 ด้าน คือ
 
1. Take Pride in Creative Craftsmen การบอกเล่าของดีของไทยผ่านความคิดสร้างสรรค์ของดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ ผสมผสานกับองค์ความรู้จากอดีต 
 
2. Support Thai Craft Community (Support & Co-Creation) การสนับสนุนและทำงานร่วมกันกับคอมมูนิตี้คนรักงานคราฟต์ 
 
3. Celebrate Thai Craftsmen Stories (Craft Hero) เชิดชูความคิดสร้างสรรค์ของสุดยอดช่างศิลป์ ผู้อุทิศทั้งชีวิตเพื่อสืบทอดภูมิปัญญาหัตถกรรมท้องถิ่น 
 
และ 4. Inspired by creative craft product & activity ส่งต่อแรงบันดาลใจจากยอดฝีมือช่างคราฟต์ไทยด้วย กิจกรรมเวิร์คช้อป และงานอินสตอลเลชั่น (Installation) ที่ให้ทุกคนได้เป็นส่วนหนึ่งของงานคราฟต์ และทำงานคราฟต์ด้วยตนเอง
 
 
โครงการต่อมาที่กลุ่มสยามพิวรรธน์  ได้เริ่มดำเนินการ คือ Ecotopia  อีโค่คอมมูนิตี้ตอบรับวิถีชีวิตยุคใหม่ (New Normal) ด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างความสมดุลด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน  ด้วยการเนรมิตโครงการ Ecotopia เมืองแห่งคนรักษ์โลก “เราสร้างโลกให้ดีขึ้นได้ด้วยกัน” บนชั้น 3 สยามดิสคัฟเวอรี่ ให้กลายเป็น อีโค่คอมมูนิตี้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย  สถานที่ที่จะทำให้ทุกคนเริ่มเปลี่ยนแปลงตนเองและสร้างปรากฏการณ์รักษ์โลกไปด้วยกันบนใจกลางเมือง ตอบรับไลฟ์สไตล์ Sustainable Living ในทุกมิติ 
 
อีกหนึ่งโครงการที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี คือ สุขสยาม เวทีสร้างโอกาสในการดำเนินธุรกิจและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการท้องถิ่นสู่ความยั่งยืน หลังจากกลุ่มสยามพิวรรธน์ เนรมิตร “เมืองสุขสยาม” เป็นเมืองค้าปลีกรูปแบบใหม่ ณ ชั้น G ไอคอนสยาม ภายใต้แนวคิด ‘Co-Creation’ หรือการร่วมรังสรรค์ และ Creating Shared Values หรือการสร้างคุณค่าสมประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย 
 
 
การเปิดตัวโครงการดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกของวงการค้าปลีกที่สามารถรวบรวมผู้ประกอบการท้องถิ่น และช่างฝีมือกว่า 3,000 ราย จากทุกจังหวัดทั่วประเทศมานำเสนอสุดยอดผลิตภัณฑ์ไทย จนเกิดเป็นกลไกของระบบนิเวศทางการค้า (commercial ecosystem) ที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน  
 
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของกลุ่มสยามพิวรรธน์ นับจากนี้  ยังคงเดินหน้าทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือผู้เช่า  หลังจากที่ผ่านมาได้ให้การช่วยเหลือไปบ้างแล้วในด้านของการลดค่าเช่าตามอัตราส่วนที่ผู้เช่าได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19
 
นางชฎาทิพ กล่าวว่า คนทั่วไปมองว่าศูนย์การค้าใจกลางเมืองกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ต่างชาติ แต่สำหรับศูนย์การค้าในเครือของสยามพิวรรธน์ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นแบบนั้น  เราไม่ได้เน้นจับกลุ่มนักท่องเที่ยว แต่โฟกัสไปที่ลูกค้าไทยมาตลอด เพราะเป็นกลุ่มที่ยั่งยืนและสามารถกลับมาใช้บริการได้เรื่อยๆ  เมื่อศูนย์การค้ากลับมาเปิดให้บริการตามปกติ เราก็ต้องหาวิธีดึงลูกค้าคนไทยให้กลับมาจับจ่ายใช้สอย
 
“พูดแบบไม่อายเลยว่า ทุกอย่างต้องคิดแบบกลับหัวกลับหาง ที่ผ่านมาเราทำงานเพื่อให้คนมาเดินศูนย์ฯเยอะๆ แต่ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว เพราะห้ามไม่ให้มีการโปรโมทต่างๆ ทำให้เราต้อง Reset ตัวเองและปรับ Mindset ใหม่ เพราะกลยุทธ์ที่เคยทำใช้ไม่ได้แล้ว ต้องมีการเรียนรู้ใหม่ ก็เหมือนกับการใช้คำว่า New Normal ที่แป๋มขอใช้คำว่า Now Normal ก่อน เพราะมันยังไม่ลงตัว เนื่องจากตอนนี้คนยังมีความกลัวหลงเหลืออยู่ และยังต้องปรับตัวให้เข้ากับอะไรอีกเยอะ” นางชฎาทิพ กล่าว
 

LastUpdate 29/08/2563 12:28:16 โดย :
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 6:33 pm