การตลาด
สกู๊ป ''ศูนย์การค้ากลางกรุง'' อุ้มผู้เช่าเร่งพลิกกลยุทธ์ เพิ่มทราฟฟิกกระตุ้นยอด


ธุรกิจศูนย์การค้าถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  เนื่องจากลูกค้าส่วนหนึ่งที่เข้ามาใช้บริการเป็นกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ เมื่อต่างชาติยังไม่สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้  เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในต่างประเทศยังคงน่าเป็นห่วง จึงทำให้ธุรกิจศูนย์การค้าต้องออกมาปรับตัวหันมาเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทยมากขึ้น 

และเพื่อให้กลุ่มลูกค้าคนไทยออกมาจับจ่ายใช้สอย แต่ละศูนย์การค้าจึงต้องออกมาปรับกลยุทธ์ในการทำตลาดไม่ว่าจะเป็นการรีโรเวทศูนย์การค้า  การเพิ่มบริการใหม่ๆ หรือการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย เพื่อเป็นการช่วยเหลือร้านค้าภายในศูนย์การค้า และกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
 
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  หรือ ซีอาร์ซี ออกมาตอกย้ำตัวจริงเรื่อง “ออมนิแชแนล” แห่งวงการรีเทล ประเทศไทย ด้วยการจัดกิจกรรม Central Retail Double Mega Sale เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคและหนุนเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นฟูในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี  ด้วยการเปิดตัวแคมเปญ Central Retail 9.9 Double Mega Sale  ลดราคาสินค้าทั้งหน้าร้านและหน้าเว็บ สูงสุด 90%  กับสินค้าคุณภาพกว่า 1,000,000 รายการ จากกว่า 1,000 ร้านค้าในเครือเซ็นทรัล รีเทล และกลุ่มเซ็นทรัล 
 
 
นายนิโคโล กาลันเต้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการก้าวเข้าสู่ยุคอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มตัว เห็นได้จากการใช้จ่ายทางช่องทางออนไลน์ของผู้บริโภคชาวไทยที่ขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยในส่วนของบริษัทก็มียอดขายผ่านช่องทางออนไลน์เติบโตสูงถึง 350% ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา  ซึ่งหลังจากเปิดตัวแคมเปญ Central Retail 9.9 Double Mega Sale  บริษัทคาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็นที่น่าพอใจ
 
ด้าน ศูนย์การค้าในเครือเกษรพร็อพเพอร์ตี้ ก็ออกมาปรับปรุงบริการพื้นที่ค้าปลีกใน 3 อาคาร ประกอบด้วย เกษรเซ็นเตอร์ เกษรทาวเวอร์ และอัมรินทร์พลาซ่า โดยการเสริมทัพผู้เช่าใน 3 อาคารให้ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น เพื่อตอกย้ำผู้นำเออร์บัน คอมมิวนิตี้ และไลฟ์สไตล์วิลเลจใจกลางกรุงเทพฯ เนื่องจากอาคารทั้ง 3 เป็นจุดหมายหลักสำหรับนักช้อปและพนักงานออฟฟิศ โดยทั้ง 3 อาคารเน้นการผสมผสานแฟชั่นรีเทลแบบมิกซ์ยูส และอาคารสำนักงาน ในรูปแบบเวอร์ติคอล คอมมิวนิตี้
 
 
นายฟ้าฟื้น เต็มบุญเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกษรพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ในส่วนของเกษรวิลเลจ จะมีการเสริมทัพในด้านของสินค้าแฟชั่น โดยมีคลับ 21 กรุ๊ป  เป็นแม่เหล็ก เนื่องจากมีสินค้าอินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์มากกว่า 50 แบรนด์ เปิดให้บริการบนพื้นที่มากกว่า 1,300 ตารางเมตร บริเวณชั้น G ส่วนบริเวณชั้น L เกษรเซ็นเตอร์ จะมี Jetts Black ฟิตเนสแบบลักเซอรี่ เข้ามาเปิดให้บริการบนพื้น 700 ตารางเมตร และมี  AP House by Audemars Piguet แบรนด์นาฬิกาชื่อดังจากสวิตเซอร์แลนด์ มาเปิดให้บริการที่ชั้น 4 ส่วนฝั่งอัมรินทร์พลาซ่า บริษัทได้นำ “จัสโค” ผู้นำให้บริการด้านพื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่นชั้นนำของเอเชีย-แปซิฟิก มาเปิดให้บริการบริเวณ ชั้น 5 บนพื้นที่รวมกว่า 4,500 ตารางเมตร
 
 
ขณะเดียวกัน ศูนย์การค้าเอ็ม ดิสทริค อย่างเอ็มโพเรียม และเอ็มควอเทียร์ ก็ออกมาปรับกลยุทธ์ด้วยการหันมาโฟกัสลูกค้ากลุ่มครอบครัวที่มีเด็กเล็กมากขึ้น  ด้วยการใช้งบ 200 ล้านบาท รีโนเวตพื้นที่ชั้น 2 ของเอ็มควอเทียร์  โดยการย้ายโซนไทยดีไซเนอร์ ไปที่เอ็มโพเรียม และเปิดโซน “เอ็ม จอย” (EM JOY) ซึ่งเป็นโซนรวมสถานศึกษา-เสริมทักษะเด็กขึ้นแทน มีกำหนดเปิดในเดือนต.ค. 2563 นี้ 
 
ขณะเดียวกันก็เตรียมใช้งบอีก 100 ล้านบาท ทำการตลาดร้านตัดผมเด็ก และร้านอาหาร ในช่วงไตรมาส 4 เพื่อสร้างการรับรู้ และกระตุ้นการจับจ่ายให้กับทั้งโซนใหม่และตัวศูนย์คาดว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะสามารถเพิ่มจำนวนลูกค้ากลุ่มครอบครัวที่ปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณ 30% และคาดว่าจะสามารถยืดระยะเวลาให้ลูกค้าอยู่ในศูนย์ให้นานขึ้นเป็นอย่างน้อย 5 ชั่วโมง  จากเดิม 3 ชั่วโมง
 
 
น.ส.อรธิรา ภาคสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม และ ดิ เอ็มควอเทียร์ ในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป กล่าวว่า  บริษัทเตรียมที่จะรีโนเวตศูนย์การค้าเอ็มโพเรียมในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ในแบบสลับปิดพื้นที่บางส่วนจนแล้วเสร็จในปี 2565 ในคอนเซ็ปต์ใหม่ “การช็อปไร้รอยต่อ” เช่น เลิกแบ่งโซนดีพาร์ตเมนต์และพลาซ่า รวมถึงปรับไลน์อัพผู้เช่า และตกแต่งภายในใหม่ให้ทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงโพซิชั่นแหล่งช้อปปิ้งระดับลักเซอรี่เช่นเดิม เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบในการรีโนเวทไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ส่วนความคืบหน้าของดิ เอ็มสเฟียร์ ปัจจุบันก่อสร้างไปได้แล้ว 10% โดยขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างชั้น G ซึ่งเป็นงานก่อสร้างใต้ดินชั้นสุดท้าย และหลังจากนี้ความคืบหน้าจะเร็วขึ้น และสามารถเปิดตัวได้ในต้นปี 2566 ตามแผนงานที่ได้วางไว้
 
นอกจากนี้  ยังมีการจัด 2 แคมเปญใหญ่กระตุ้นยอดขาย ได้แก่ Fashion Of Now มอบความพิเศษให้ลูกค้าที่ช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นชั้นนำ และสินค้าอื่นๆ  พร้อมเอาใจคนรักการรับประทานอาหาร ด้วยแคมเปญ Taste Of Now
 
ปิดท้ายที่ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์, พาราไดซ์ พาร์ค, พาราไดซ์ เพลส, เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 ออกมาเร่งปรับโซนพื้นที่ร้านค้าต่างๆ ภายในศูนย์การค้าในเครือ พร้อมกับดึงผู้เช่าใหม่เข้ามาเสริมทัพ เช่น โรงเรียนกวดวิชา และโคเวิร์กกิ้งสเปซ เพื่อเพิ่มความหลากหลายและกระตุ้นทราฟฟิกให้เพิ่มขึ้น
 
 
นายบันเทิง ตันติวิท ประธานกรรมการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เนื่องจากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของ เอ็มบีเค เป็นต่างชาติ คิดเป็นสัดส่วน 60% ทำให้ร้านค้าเช่าค่อนข้างได้รับผลกระทบ และมีบางส่วนปิดตัวไปกว่า 20% และเพื่อให้ผู้เช่าอยู่ได้บริษัทจึงต้องเพิ่มบริการใหม่  โดยที่ผ่านมาได้มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่เช่าและพื้นที่ส่วนกลางในห้างสรรพสินค้าเอ็ม บี เค บริเวณชั้น 3 และชั้น 4 พื้นที่ประมาณ 6,400 ตารางเมตร และปรับพื้นที่ coworking space ชั้น 6 จำนวน 1,500 ตารางเมตร เป็นโรงเรียนกวดวิชาและร้านค้าใหม่ๆ เพื่อดึงทราฟฟิกเพิ่ม
 
ออกมาปรับตัวกันคึกคักกันแบบนี้ น่าจะช่วยเพิ่มทราฟฟิกและกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นพอสมควร
 

LastUpdate 04/09/2563 13:37:33 โดย : Admin
08-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 8, 2024, 9:43 am