ประกัน
แบ่งเงินมาเท่าไรดี...เมื่อคุณสนใจทำประกัน


เมื่อจะทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพกับเงินเก็บก้อนแรก อาจมีข้อสงสัยว่าควรจะแบ่งสัดส่วนการชำระเบี้ยประกันอย่างไรเพื่อไม่ให้กระทบการเงินส่วนอื่นๆ และสามารถชำระเบี้ยประกันได้ครบตลอดระยะเวลาของสัญญา โดยการจัดสรรเงินเพื่อทำประกัน อาจแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มตามลักษณะการได้มาของรายได้ คือ ผู้ที่มีรายได้หลักจากเงินเดือน และผู้ประกอบอาชีพอิสระที่มีรายได้ในแต่ละเดือนไม่แน่นอน

 
โดยกลุ่มที่มีรายได้หลักมาจากเงินเดือน สามารถวางแผนแบ่งเงินมาทำประกันได้ง่าย เพราะมีรายได้สม่ำเสมอและแน่นอน โดยหลักการเบื้องต้น คือ ควรแบ่งเงินประมาณ 10 - 20% ของรายได้ในแต่ละเดือนมาทำประกัน และเพื่อไม่ให้กระทบกับเงินก้อนอื่นๆ

การทำประกันควรคำนึงถึงประโยชน์ของการทำประกัน ผลประโยชน์ทางด้านภาษี วงเงินความคุ้มครองเงินเก็บในอนาคต รวมถึงสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล หากเกิดการเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุไว้ด้วย
 
และเมื่อเงินเดือนหรือรายได้เพิ่มขึ้น หากยังคงรักษาสัดส่วนแบ่งเงินมาทำประกันไว้ได้เป็นอย่างดี ก็สามารถมีเงินเก็บและมีความคุ้มครองทางประกันที่มากขึ้นด้วย เช่น เริ่มทำงานได้เงินเดือนละ 15,000 บาท แบ่งเงินมา 10% ของรายได้ต่อเดือนเพื่อทำประกัน คือ 1,500 บาทต่อเดือน หรือ 18,000 บาทต่อปี ต่อมาเงินเดือนได้ปรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็น 50,000 บาท

ขณะที่สัดส่วนการทำประกันยังคงไว้ที่ 10% ของรายได้ต่อเดือน คือ 5,000 บาทต่อเดือน หรือ 60,000 บาทต่อปี ดังนั้น ด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้น แม้สัดส่วนการทำประกันยังคงที่ แต่เบี้ยประกันที่จ่ายมากขึ้นจะทำให้ได้รับความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
 
สำหรับการจัดสัดส่วนเงินเพื่อทำประกันของผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน ควรเริ่มจากความสามารถในการแบ่งเงินก้อนออกมาในแต่ละปี จากนั้นก็นำมาแบ่งเพื่อทำประกันประมาณ 10 - 20% ของรายได้ รวมถึงควรคำนึงถึงประโยชน์ของประกันเป็นสำคัญ และสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลหากเจ็บป่วยด้วย
 
ทั้งนี้ อาจมีคำถามว่า การวางแผนประกันสำคัญมากน้อยแค่ไหน ไม่ทำได้หรือไม่เพราะระวังตัวเองดีอยู่แล้ว แต่อย่าลืมว่าอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา รวมถึงปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตก่อนวัยอันควร โดยเฉพาะผู้ที่เป็นกำลังหลักในการหาเลี้ยงครอบครัวยิ่งต้องระวังตัวเองมากขึ้น
 
ซึ่งการวางแผนประกันที่ดี จะเป็นการช่วยลดความเสียหายจากความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และปกป้องคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สิน ลดความสูญเสีย ไม่ให้เกิดความเสียหายที่มากจนเกินไป ในบางกรณีผู้ทำประกันยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้อย่างเร่งด่วนจากกรมธรรม์ เพื่อนำมาใช้เวลาจำเป็นได้อีกด้วย ดังนั้น ผู้ทำประกันจะได้รับทั้งสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลและผลประโยชน์จากการทำประกันอย่างเต็มที่

LastUpdate 05/12/2563 17:05:36 โดย : Admin
07-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 7, 2024, 10:15 am