การศึกษา-สิ่งแวดล้อม-สาธารณสุข
รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 7 ธ.ค. มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 305 ราย เป็นติดเชื้อในประเทศ 193 คน ตาย 1 คน


ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 305 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 193 คน ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าว 109 คน เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 คน พร้อมออกประกาศยกระดับความเข้มข้นการใช้มาตรการทั้งการป้องกันโรค การควบคุมพื้นที่ และปราบปราบผู้กระทบผิดทั้งการลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าวและบ่อนพนัน


นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ? (ศบค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในวันนี้ (7 ม.ค.64 ) พบผู้ป่วยรายใหม่ 305 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ193 คน ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าว (จากการคัดกรองเชิงรุก) 109 คน และผู้เดินทางจากต่างประเทศ 16 คน และเสียชีวิตเพิ่ม 1 คน

ส่งผลให้ผู้ป่วยยืนยันสะสม 9,636 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 7,551 คน ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าว 2,684 คน จากผู้เดินทางจากต่างประเทศ 2,085 คน และสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 1,550 คน มีผู้ป่วยหายเพิ่ม 103 คน รวมหายป่วยแล้ว 4,521 คน เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน รวมเสียชีวิต 67 คน

ทั้งนี้ได้มีการออกข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 17 เพื่อยกระดับความเข้มข้นในการใช้มาตรการต่างๆ ประกอบด้วย

1.ยกระดับการบังคับใช้มาตรการป้องกันโรค โดยรักษาระยะห่าง สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย ล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิ ใช้แอป "หมอชนะ" ควบคู่ "ไทยชนะ" เพื่อการตรวจสอบและติดตาม

2. ยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุดที่จำเป็นเข้มงวด ทั้ง 28 จังหวัด แต่ 5 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จะต้องมีการตรวจสอบและควบคุมการใช้เส้นทางคมนาคมในการเดินทางเข้าออก ให้ตั้งจุดตรวจหรือจุดสกัดคัดกรองการเดินทางเข้าออกพื้นที่อย่างเข้มข้น และผู้อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดต้องใช้แอป "หมอชนะ" ส่วนบุคคลที่จะเดินทางเข้าออกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ต้องแสดงเหตผลจำเป็นควบคู่เอกสารรับรองจากเจ้าหน้าที่

3. ปราบปราบผู้กระทำผิดอันเป็นเหตุให้เกิดการระบาดของโรค ให้ดำเนินการปราบปราบและลงโทษบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอกขนย้ายแรงงานต่างประเทศ รวมทั้งการปล่อยปละละเลย ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ เอื้ออำนวย สมรู้ร่วมคิดให้เปิดบ่อนพนันในพื้นที่ๆ ซึ่งเป็นต้นตอของการระบาดของโคแบบกลุ่มก้อนซึ่งส่งผลกกระทบรุนแรง

โดยสั่งการและกำชับเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตรวจสอบเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการลงโทษตามขั้นตอนของกฎหมาย รวมทั้งตั้งคณะกรรมการเพื่อกำกับดูแลการดำเนินการและเสนอมาตรการป้องกันมิให้เกิดการณ์ดังกล่าวอีกต่อไป

ทั้งนี้รัฐบาลสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชน หากพบเห็นการกระทำหรือปล่อยปละละเลย ละเว้นการกระทำซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายส่งผลต่อการแพร่ระบาดรุนแรง ให้แจ้งเบาะแสมาที่สำนักนายกรัฐมนตรีผ่าน ศบค.ได้

"อาจเป็นมาตรการที่เพิ่มความยุ่งยากมากขึ้น แต่ถือเป็นความจำเป็น ส่วนธุรกิจไหนสามารถให้ WFH ได้ ขอความร่วมมือ เพื่อช่วยลดการเดินทาง ลดการพบปะ เพื่อลดการแพร่กระจายโรค"

สำหรับแอป "ไทยชนะ" ถือเป็นความจำเป็น เพื่อการสอบสวนโรค ติดตามไทม์ไลน์ ดังนั้นปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อทางการยังสามารถรักษาให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ในระยะถัดไป หากประชาชนไม่มีการใช้แอป "ไทยชนะ" หรือ "หมอชนะ" อาจจะยกระดับมาตรการเรื่องนี้ต่อไป

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 07 ม.ค. 2564 เวลา : 12:48:08
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 5:43 pm