หุ้นทอง
กองทุนหุ้นไทยผลตอบแทนโดดเด่น


คนรวยระดับโลก ไม่มีใครที่ไม่ลงทุนใน “ตลาดหุ้น” เพียงแต่สัดส่วนมากน้อยแตกต่างกันไป เพราะการลงทุนในหุ้นเป็นทางเลือกการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าทางเลือกอื่นโดยเปรียบเทียบนั่นเอง


มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอบอกว่า และยิ่งระยะเวลาการลงทุนยิ่งนาน การลงทุนในหุ้น ความผันผวนจะลดลง ในขณะที่ผลตอบแทนเฉลี่ยจะดีขึ้นด้วย และข้อเท็จจริงนี้มีการพิสูจน์มาแล้วทั่วโลกไม่เฉพาะกับ ตลาดหุ้นต่างประเทศ แต่ยังเป็นจริงกับ ตลาดหุ้นไทย ด้วยเช่นกัน

รู้หรือไม่ว่า ผลตอบแทนรวมตลาดหุ้นไทย (SET TRI) ย้อนหลัง 10 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ 7.77% ต่อปี (ที่มา:ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ วันที่ 31 มี.ค. 64) ซึ่งเพียงพอจะทำให้เงินลงทุนของคุณโตเป็น 2 เท่า ในระยะเวลาเพียง 9.27 ปี (ที่มา: กฎของตัวเลข 72 (The Rule of 72)= 72/ 7.77) เท่านั้น แต่ถ้าเอาไปฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับบุคคลธรรมดาเฉลี่ย 5 ธนาคารใหญ่ (ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย, ณ วันที่ 31มี.ค.64)) จะต้องใช้เวลานานถึง 288 ปี เลยทีเดียวซึ่งการลงทุนระยะยาวใน “หุ้น” ไม่ว่าช่วงเวลาใดก็ยังคงเป็นทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าโดยเปรียบเทียบกับทางเลือกอื่นๆ อยู่นั่นเอง

เมื่อพูดถึงการลงทุนใน ตลาดหุ้นไทยผ่าน กองทุนรวมหุ้น นั้น ทราบหรือไม่ว่าได้มีการแบ่งประเภทของ กองทุนรวมตราสารทุนในประเทศ หรือ กองทุนหุ้นไทย ไว้เป็น 3 ประเภท (ที่มา: เอกสารการจัดประเภทกองทุนรวมเพื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานกองทุน โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ณ วันที่ 19 มี.ค.64) ซึ่งจะมีนิยามของแต่ละประเภทที่แตกต่างกันออกไป ทั้ง  3 ประเภท ประกอบด้วย
 

กองทุนหุ้นขนาดกลาง-เล็ก (Equity Small – Mid Cap)

ปัจจุบันมี 25 กอง ตามนิยามของกองทุนคือ เป็นการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหุ้นไทยที่มีมูลค่าตลาด (Market Capitalization) ไม่เกิน 80,000 ล้านบาท โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ไม่ต่ำกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม(NAV) สำหรับ การพิจารณาค่า Market Capitalization จะดูกันที่ ณ วันสิ้นไตรมาสเป็นหลัก

ปกติกลุ่มกองทุนหุ้นขนาดกลาง-เล็ก จะเน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มของ SET50 ซึ่งนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลจาก นโยบายการลงทุน ของแต่ละกองทุนอีกครั้ง เพราะบางกองทุน มีการขยับขยายการลงทุนช่วงแรกเป็น หุ้นขนาดกลาง-เล็ก ลงทุนไป ๆ มา ๆ ขยับกลายเป็น ‘หุ้นใหญ่’ หรือบางกองทุนจะขายบางหุ้นในกองทุนออก แล้วหาหุ้นใหม่ ๆ เข้ามาลงทุนแทน เป็นต้น

ในเชิงสถิติและบุคลิกของหุ้นจะมีความเสี่ยงและโอกาสของผลตอบแทนคาดหวังที่สูงกว่ากลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ ผลตอบแทนเฉลี่ยของกลุ่มย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 7.64% ต่อปี (ที่มา: บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย), ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค. 64) สำหรับนักลงทุนที่ชื่นชอบหุ้นกลาง-เล็ก หวังผลตอบแทนสูง ๆ แต่ไม่ถนัดลงทุนด้วยตัวเอง กลุ่ม กองทุนหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ก็เป็นอีกทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
 

กองทุนหุ้นขนาดใหญ่ (Equity Large Cap)

ปัจจุบันมี 83 กอง เน้นลงทุนในหุ้นใหญ่ที่อยู่ในดัชนี SET50 ผลตอบแทนเฉลี่ยของกลุ่มย้อนหลัง 10 ปี อยู่ที่ 6.08% ต่อปี (ที่มา: บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย), ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค. 64) เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสการลงทุนในหุ้นชั้นนำของประเทศในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เรียกว่า ลงทุนแล้วสบายใจ เป็นหุ้นที่คนส่วนใหญ่รู้จัก และเป็นกลุ่มหุ้นที่มีความมั่นคงสูง ถ้าเอ่ยชื่อมาแล้ว ก็ต้องรู้จักกันแน่นอน

ถือเป็นกลุ่มหุ้นที่ขึ้นเป็นผู้นำของแต่ละอุตสาหกรรม ในแง่การเติบโตอาจไม่เท่าหุ้นกลาง-เล็ก แต่ต้องไม่ลืมว่า นี่ก็เป็นหุ้นเป้าหมายของ นักลงทุนต่างชาติ เช่นกัน ถ้าเงินลงทุนต่างชาติมีความผันผวน ก็จะกระทบกับหุ้นขนาดใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้ามองยาว ๆ ลงทุนไปไม่มีเสียหาย เพราะเป็นหุ้นชั้นนำของประเทศทั้งนั้น
 

กองทุนหุ้นทั่วไป (Equity General)

ปัจจุบันมี 342 กอง ถือเป็นกลุ่มกองทุนหุ้นไทยที่ บลจ.มีการนำเสนอออกมามากที่สุดเพราะมีความยืดหยุ่นของนโยบายการลงทุนสูง สามารถลงทุนหุ้นได้ทุกประเภท ทุกขนาด ทุกตลาด ไม่มีข้อจำกัด ทำให้มีโอกาสในการเลือกหุ้นที่หลากหลาย ผลตอบแทนของกลุ่มเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี อยู่ที่ 5.95% ต่อปี (ที่มา: บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค.64)

นอกจากที่กล่าวมาแล้ว กองทุนรวมหุ้นไทยยังมีกลุ่ม กองทุนดัชนี SET 50 ที่เป็น กองทุนรวมดัชนี (Index Fund) หรือ กองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund: ETF) ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้อัตราผลตอบแทนของกองทุนใกล้เคียงกับอัตราผลตอบแทนของดัชนี SET50 มากที่สุด เน้นบริหารแบบเชิงรับ (Passive Management) ที่สร้างผลตอบแทนเกาะไปกับดัชนีเทียบวัด เป็นกองทุนประเภทหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่ เนื่องจากเข้าใจง่ายและค่าธรรมเนียมต่ำ

รวมทั้งกลุ่ม กองทุนรวมหมวดอุตสาหกรรม (Sector Fund)ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่มุ่งลงทุนเฉพาะเจาะจงในหมวดอุตสาหกรรมเพียงบางหมวด โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า  80% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน ซึ่งจะลงทุนเฉพาะกลุ่มธุรกิจใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น เช่น กลุ่มพลังงาน, กลุ่มสุขภาพ, กลุ่มธนาคาร หรือ กลุ่มสื่อสาร เป็นต้น ซึ่งกองทุนประเภทนี้ที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทยก็มีเช่นเดียวกัน

กองทุนอุตสาหกรรมนี้ จะมีระดับความเสี่ยงที่สูงกว่า กองทุนหุ้น ปกติ เพราะมีการลงทุนกระจุกตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งเพียงอุตสาหกรรมเดียวเป็นสัดส่วนสูงมากนั่นเอง จึงเหมาะกับนักลงทุนที่มีความเข้าใจการลงทุนในหุ้นดีและสามารถรับความเสี่ยงได้สูงจากข้อมูลกองทุนหุ้นไทยทั้ง 3 ประเภท รวมถึงกองทุนดัชนี SET 50 และกองทุน Sector Fund เราจะเห็นว่ากองทุนหุ้นไทยจริง ๆ แล้วมีอยู่หลากหลายให้เลือกลงทุน และมีวัตถุประสงค์การลงทุนที่แตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่นักลงทุนคาดหวังจากการลงทุนใน กองทุนรวม ไม่ต่างจากไปลงทุนด้วยตัวเอง คือเรื่องของ ผลตอบแทน ซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวมนั้นจะส่งถึงมือผู้ลงทุนใน 2 รูปแบบเท่านั้น กองทุนหุ้นไทย ก็เช่นเดียวกัน ได้แก่

กำไรจากการขายหน่วย (Capital Gain) นั่นคือ ผลกำไรที่เกิดจากการขายหน่วยลงทุนในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อหน่วยลงทุนมา โดยกำไรที่ได้ในส่วนนี้ ไม่เสียภาษี แต่ประการใด

เงินปันผล โดยกองทุนที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลจะนำผลตอบแทนจากการลงทุนมาจ่ายคืนผู้ลงทุนในรูปของ เงินปันผล ซึ่งกองทุนประเภทนี้จะเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสดออกมาใช้ระหว่างลงทุน แต่อย่าลืมว่าเงินปันผลจะต้อง ‘เสียภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย 10% ด้วยนะ

ดังนั้น การเลือกกองทุน ปันผล หรือ ไม่ปันผล นั้น ขึ้นกับความต้องการกระแสเงินสดของแต่ละบุคคล บางคนอาจจะรอเงินก้อนโตปลายทางของการลงทุน ในขณะที่บางคนอาจจะอยากได้กระแสเงินสดระหว่างทางที่ลงทุนเพื่อความอุ่นใจ แต่ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนรูปแบบไหน กองทุนหุ้นไทย ก็ช่วยตอบโจทย์ให้นักลงทุนได้ทั้งสองแบบ

การลงทุนใน กองทุนหุ้นไทย นอกจากจะมีให้เลือกหลากหลายประเภท ยังเป็นการกระจายความเสี่ยงและช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับพอร์ตการลงทุนด้วย วันนี้คุณมี กองทุนหุ้นไทย ในพอร์ตบ้างหรือยัง
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 02 มิ.ย. 2564 เวลา : 16:14:31
28-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 28, 2024, 12:51 am