กรอบทองคำในสัปดาห์นี้ 1,740-1,800 ดอลล์
ตัวเลขติดเชื้อโควิดในไทยยังสูงกดดันหุ้น Sideway Down
ราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 13 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่ 1,777 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทองคำรีบาวด์ขึ้นจากการปรับตัวลงในสัปดาห์ก่อน โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลงสู่ 1.36%
นอกจากนี้ประธานเฟดยังไม่วิตกเกี่ยวกังภาวะเงินเฟ้อทำให้ยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาอันใกล้ โดยเฟดจะรอให้มีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อก่อนการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยทองคำปรับตัวลงสวนทางเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นหลังจากเฟดส่งสัญญาณว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ จากความผันผวนของราคาทองคำฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประมาณกรอบทองคำในสัปดาห์นี้ 1,740-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยแนะนำให้รอซื้อเมื่ออ่อนตัวกลับมาที่แนวรับ 1,740-1750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากราคาปรับตัวลงตอบรับข่าวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2566 ไปแล้ว โดยแนะนำให้เล่นฝั่ง Short เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดและการลดวงเงิน QE ยังคงเป็นปัจจัยกดดันในระยะกลาง
ด้านบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 มิ.ย.) ดัชนีสามารถรีบาวด์ได้ในช่วงเช้าประมาณ +10 จุด หลังจากนั้นดัชนีย่อตัวลงมาในช่วงบ่าย ปรับตัวลงต่ำสุดประมาณ -8 จุด จากประเด็นความกังวลการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อต่อวันอยู่ที่ระดับสูงถึง 3-4 พันราย
ส่งผลให้โรงพยาบาลมีจำนวนเตียง และห้องICU ที่ไม่เพียงพอ จึงทำให้นักลงทุนในตลาดมีความกังวลว่านายกจะสั่งล็อคดาวน์กทม. หรือไม่ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,582.67 จุด -3.05 จุด -0.19% มูลค่าการซื้อขาย 68,181 ล้าน
ฝ่ายวิจัยบล.โกลเบล็ก คาดดัชนีสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับตัวในลักษณะ Sideway Down โดยมีแรงกดดันจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง ขณะที่ผู้ว่าฯ กทม. ยอมรับ ไม่สามารถควบคุมการระบาดของโควิดได้ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,550-1,600 จุด
ส่วนหุ้นที่น่าจับตามอง สัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น BDMS ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 23.70 บาท ไต่ระดับขึ้นต่อเนื่อง พร้อม Volume เข้า 2 วันติด และ MACD เพิ่งส่งสัญญาณ Bullish หนุน หาก คาดราคามีโอกาสขึ้นต่อโดยมีแนวต้านที่ 24.20-24.70 บาท ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 23.30 บาท และจุด cut loss อยู่ที่ 23.10 บาท
และหุ้น OCEAN ราครปิดล่าสุดอยู่ที่ 1.80 บาท ยืนระยะเหนือเส้น EMA ทุกระดับ พร้อม Volume เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และ Slow Sto.+MACD มีค่าสัญญาณบวก หากผ่านต้านแรก 2.00 บาท จะมีต้านถัดไปที่ 2.20 บาท แนวรับอยูที่ 1.76 บาท และจุด cut loss 1.70 บาท
.jpeg)
ข่าวเด่น