แนะเล่นฝั่ง Long หลังเทคนิค-ถ้อยแถลงประธานเฟดหนุน
ด้านดัชนีหุ้นสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัวผันผวน
ราคาทองคำโลกในเดือนกรกฎาคมปรับตัวขึ้น 19 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่ 1,827 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากดัชนี CPI สหรัฐที่พุ่งขึ้น 5.4% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.0%
อีกทั้งนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณต่อไป โดยการที่เฟดจะลดวงเงิน QE จากระดับ 120,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนนั้น จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้
ส่วนประเด็นเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในระยะนี้เกิดจากปัจจัยชั่วคราว จากการที่รัฐต่างๆ ทำการเปิดเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ก่อนที่จะปรับตัวลงเมื่อสถานการณ์ต่างๆ กลับสู่ภาวะปกติ
ทั้งนี้ ราคาทองคำเริ่มมีสัญญาณรีบาวด์ทางเทคนิคจากการสร้างรูปแบบกลับตัว U Shape โดยฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินกรอบทองคำในสัปดาห์นี้ที่ 1,800-1,860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยแนะนำให้เล่นฝั่ง Long หลังปัจจัยทางเทคนิคและถ้อยแถลงของประธานเฟดหนุน
ในระยะกลางทองคำถูกกดดันจากคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดวงเงิน QE ลง 20,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนในการประชุมเฟดเดือน ส.ค. หรือ ก.ย.
ส่วนบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเมื่อศุกร์ที่ผ่านมา (16 ก.ค.) ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบ +,- ประมาณ 5 จุด เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่ในการขับเคลื่อนดัชนี โดยศบค. มีการประชุมว่าอาจทำการยกระดับมาตรการล็อคดาวน์ที่เข้มข้นขึ้น จากที่ได้บังคับใช้ไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังอยู่ในระดับสูง โดยดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,574.37 จุด +2.36 จุด +0.15% มูลค่าการซื้อขาย 79,327 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก คาดดัชนีสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัวผันผวน โดยนักลงทุนยังจับจาประเด็นการเจรจาการนำเข้าวัคซีนจากทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างใกล้ชิด ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในประเทศยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงกดดันตลาด คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,540-1,590 จุด
ส่วน 2 หลักทรัพย์ ที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น SOLAR ราคาปิดล่าสุดอยู่มี่ 1.69 บาท กลับไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกระดับ พร้อมปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และ MACD+Slow Sto. ส่งสัญญาณบวก คาดมีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ 1.90-2.04 บาท มีแนวรับที่ 1.62 บาท และจุด cut loss อยู่ที่ 1.60 บาท
และอีกหนึ่งหลักทรัพย์ ได้แก่ หุ้น BCH ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 25.25 บาท ราคาอยู่ในทิศทางกรอบขาขึ้น โดยมี Volume สะสมต่อเนื่อง และ MACD เพิ่งพลิกตัวส่งสัญญาณ Bullish sกผ่านต้านแรกที่ 27.00 บาท จะมีต้านถัดไปที่ 30.00 บาท โดยมีแนวรับอยู่ที่ 24.70 บาท และมีจุด cut loss ที่ 24.50 บาท
ข่าวเด่น