แบงก์-นอนแบงก์
EXIM BANK ชี้ SMEs ต้องเร่งใช้เทคโนโลยีดิจิทัล Transform ธุรกิจ พร้อมให้บริการครบวงจร 'ซ่อม' 'สร้าง' 'เสริม' อุตสาหกรรมและผู้ประกอบการไทยรับมือโลก Next Normal


EXIM BANK พร้อมให้บริการครบวงจรสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs เร่งปรับโฉมธุรกิจรับมือโลก Next Normal โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลปรับปรุงกระบวนการผลิต การค้า และการขนส่ง รวมทั้งการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว


 
ดร.ดามพ์ สุคนธทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานกรรมการกำหนดกลยุทธ์และนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวเปิดงานสัมมนาออนไลน์ “Transformation ทางรอด SMEs” เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ว่า “Transformation” เทียบเคียงได้กับคำว่า “การแปลงร่าง” ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉมจนจำร่างเดิมไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการแปลงร่างของรูปแบบธุรกิจ กระบวนการหรือวิธีการทำธุรกิจ
 
 
โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเสริมกระบวนการทำงานร่วมกับแรงงาน ช่วยให้การทำงานสะดวกรวดเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น แข่งขันได้มากขึ้น ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ทำให้สภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจ สภาวะเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น จึงถึงเวลาที่ทุกภาคส่วนจะช่วยกันสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs สามารถเข้าถึงเงินทุนและโอกาสที่จะ Transform องค์กรโดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุค New Normal และ Next Normal ในระยะถัดไปได้มากขึ้น
 

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs ต้องตั้งอยู่บนความไม่ประมาทและวางแผนธุรกิจอย่างรอบคอบ โดยคาดการณ์ผลประกอบการทั้งในทางบวกและทางลบ มองให้รอบด้านว่าธุรกิจที่ดำเนินอยู่สามารถปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นทิศทางของธุรกิจที่ดำเนินอยู่ คู่แข่ง และผู้บริโภค มีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตในระยะสั้นหรือระยะยาวอย่างไร ยอมให้ธุรกิจที่ไม่มีอนาคต “ตาย” “แปลงร่าง” และ “เกิดใหม่” เพี่อก้าวต่อไปสู่โอกาสใหม่ ๆ ที่ตอบสนองตลาดได้ดีกว่า ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้เป็นเครื่องมือในการประเมินองค์กร ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงการขนส่งและส่งมอบสินค้าถึงคู่ค้าหรือผู้บริโภคได้สำเร็จ
 

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ในไตรมาส 3 ปี 2564 ธุรกิจ SMEs ปิดกิจการ 3,819 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 14,749 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม และร้านอาหาร ที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวลงของการบริโภคจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนให้ทุกภาคธุรกิจต้องเผชิญกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันจากเทคโนโลยีดิจิทัลซึ่งอาจกลายเป็นภัยเงียบที่ทำให้ธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักจนต้องปิดกิจการในที่สุด หากเจ้าของกิจการมิได้เตรียมแผนรองรับหรือปรับตัวได้ทัน
 

ดร.รักษ์ กล่าวว่า ขณะที่การค้าออนไลน์ของโลกและหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น หลายธุรกิจโดยเฉพาะ SMEs ได้ปรับตัวมาขายสินค้าออนไลน์มากขึ้น เป็นความหวังของการฟื้นภาคส่งออกและเศรษฐกิจโดยรวม EXIM BANK มองเห็นทิศทางดังกล่าว จึงเร่งเดินหน้าภารกิจสนับสนุนการซ่อมและสร้างอุตสาหกรรมใหม่และขยายช่องทางหรือแพลตฟอร์มการค้าใหม่ภายใต้นโยบาย Dual-track Policy เพื่อแก้ปัญหาการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยในระยะสั้นและระยะยาวคู่ขนานกันไป โดย EXIM BANK ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และรูปแบบการดำเนินธุรกิจ อยู่เคียงข้างลูกค้าและพันธมิตร
 
 
ในฐานะ “ธนาคารเพื่อการพัฒนา” ควบคู่กับการเป็น “ศูนย์บริการครบวงจรเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศให้แก่ SMEs” ตั้งแต่การ “ซ่อม” “สร้าง” “เสริม” เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับภาคธุรกิจ เสริมสร้างการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม ส่งเสริมการจ้างงาน กระตุ้นการลงทุนและการใช้จ่ายเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนในสังคม ซึ่งจะเชื่อมโยงสู่โลกดิจิทัลมากขึ้น บริการของ EXIM BANK อาทิ แพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ EXIM Thailand Pavilion และบริการ EXIM Biz Transformation Loan อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 2% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 100 ล้านบาทต่อราย ผ่อนชำระนานสูงสุด 7 ปี เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยลงทุนเพิ่มเพื่อยกระดับประสิทธิภาพและกระบวนการผลิต ขยายกำลังการผลิต รวมทั้งปรับปรุงระบบซอฟต์แวร์ดิจิทัล และบริการอื่น ๆ ทั้งด้านการเงินและไม่ใช่การเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศให้แก่ลูกค้าและผู้ประกอบการ กระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 โดยเร็ว
 

ในงานสัมมนานี้ EXIM BANK จับมือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมพันธมิตรและผู้ประกอบการต้นแบบ ร่วมนำเสนอแนวทางและแบ่งปันประสบการณ์จริง เพื่อสร้างทางรอดให้ธุรกิจ SMEs ได้แก่ ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ depa นายสมคิด จิรานันตรัตน์ อดีตประธาน บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) นายที่รัก บุญปรีชา กูรูและ Influencer ด้านไอทีจากแบไต๋ไฮเทค และ ภญ.ภาคินี จิวัฒนไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซองเดอร์ ไทยออร์กานิคฟูด จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกอาหารสุขภาพออร์แกนิค
 

“EXIM BANK พร้อมสนับสนุนให้เกิดธุรกิจใหม่และ Transform ธุรกิจที่ดำรงอยู่ให้สามารถก้าวผ่านปัญหาอุปสรรคและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในกระบวนการทำงานเพื่อยกระดับศักยภาพในการแข่งขัน เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ สร้างยอดขายหรือรายได้เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของผู้บริโภคในยุค New Normal และ Next Normal ได้อย่างมีเสน่ห์และมีศิลปะ กล่าวคือ มีความคล่องตัว ยืดหยุ่น และปรับตัวได้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม” ดร.รักษ์กล่าว

LastUpdate 04/11/2564 11:18:11 โดย : Admin
03-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 3, 2024, 4:06 pm