การศึกษา-สิ่งแวดล้อม-สาธารณสุข
ผลสำรวจเรื่อง "ผู้ว่าฯ กทม. แบบไหนที่ถูกใจคนกรุง"


 

คนกรุงส่วนใหญ่ร้อยละ 76.1 ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 2565 ในวันที่ 22 พ.ค.โดยเกณฑ์ที่ใช้ในการตัดสินใจเลือกผู้ว่าฯ กทม. ส่วนใหญ่ร้อยละ 70.6 เลือกจากผู้ที่มีความรู้ความสามารถ รองลงมาร้อยละ 54.4 เลือกจากนโยบายของผู้สมัคร โดยเรื่องที่อยากให้ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่มาแก้ปัญหามากที่สุดคือ อยากให้ลดค่าครองชีพ แก้ปัญหาปากท้อง ส่วนใหญ่ร้อยละ 86.3 ตั้งใจว่าจะไปเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในวันที่ 22 พ.ค. 2565 นี้แน่นอน ส่วนใหญ่ร้อยละ 52.5 ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร รอดูการหาเสียงอาทิตย์สุดท้าย ขณะที่ร้อยละ 47.5 มีคนที่คิดจะเลือกในใจแน่นอนแล้ว

 
กรุงเทพโพลล์โดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ผู้ว่าฯ กทม. แบบไหนที่ถูกใจคนกรุง” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในกรุงเทพมหานคร พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 76.1 ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 2565 ในวันที่ 22 พ.ค. ส่วนร้อยละ 23.4 ทราบแต่ยังไม่รู้ว่าเลือกวันไหน ขณะที่ร้อยละ 0.5 ไม่ทราบ

เมื่อถามถึงเกณฑ์ที่ใช้ในการตัดสินใจเลือกผู้ว่าฯ กทม. พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 70.6 เลือกจากผู้ที่มีความรู้ความสามารถ รองลงมาร้อยละ 54.4 เลือกจากนโยบายของผู้สมัคร ร้อยละ 18.7 เลือกผู้สมัครอิสระไม่สังกัดพรรค และร้อยละ 12.7 เลือกจากผู้ที่มีชื่อเสียง ผู้ที่รู้จัก

เมื่อถามว่าเรื่องที่อยากให้ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่มาแก้ปัญหาหรือทำอะไรให้กับคนกรุงเทพฯ พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 71.3 อยากให้ลดค่าครองชีพ แก้ปัญหาปากท้อง รองลงมาคือ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ คิดเป็นร้อยละ 49.6 และ แก้ปัญหาการจราจรใน กทม. คิดเป็นร้อยละ 45.4

เมื่อถามว่า “ตั้งใจจะไปเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 พ.ค. 2565 นี้หรือไม่” พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 86.3 ตั้งใจว่าจะไปแน่นอน ส่วนร้อยละ 12.0 ยังไม่แน่ใจ และร้อยละ 1.7 ตั้งใจว่าจะไม่ไป

สุดท้ายเมื่อถามว่า “ตัดสินใจอย่างไรกับการเลือกผู้ว่าฯ กทม. ที่จะถึงนี้” พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 52.5

ยังไม่ตัดสินใจรอดูการหาเสียงอาทิตย์สุดท้าย ขณะที่ร้อยละ 47.5 มีคนที่คิดจะเลือกในใจแน่นอนแล้ว

โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1.การรับทราบถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 2565

ทราบว่ามีการเลือกตั้งในวันที่ 22 พ.ค. ร้อยละ 76.1

ทราบแต่ยังไม่รู้ว่าเลือกวันไหน ร้อยละ 23.4

ไม่ทราบ ร้อยละ 0.5

2. เกณฑ์ที่ใช้ในการตัดสินใจเลือกผู้ว่าฯ กทม.

(ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)

เลือกจากผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ร้อยละ 70.6

เลือกจากนโยบายของผู้สมัคร ร้อยละ 54.4

เลือกผู้สมัครอิสระไม่สังกัดพรรค ร้อยละ 18.7

เลือกจากผู้ที่มีชื่อเสียง ผู้ที่รู้จัก ร้อยละ 12.7

เลือกผู้สมัครจากพรรคการเมืองเป็นหลัก ร้อยละ 10.2

เลือกผู้ที่คาดว่าจะมีคะแนนนำ ร้อยละ 3.7

อื่นๆ อาทิเช่น เลือกตามคนในครอบครัว เลือกคนมีประวัติผลงานเด่นชัด ร้อยละ 4.7

3. เรื่องที่อยากให้ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่มาแก้ปัญหาหรือทำอะไรให้กับคนกรุงเทพฯ

(ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
 
ลดค่าครองชีพ แก้ปัญหาปากท้อง ร้อยละ 71.3

สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ร้อยละ 49.6

แก้ปัญหาการจราจรใน กทม. ร้อยละ 45.4

แก้ปัญหาความสะอาดของถนน ตลาด แม่น้ำ คูคลอง ร้อยละ 43.1

ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ร้อยละ 34.7

เพิ่มพื้นที่สีเขียว สวนสาธารณะ ลานกีฬา ร้อยละ 25.7

อื่นๆ ระบุ ปัญหาทุจริต แก้น้ำท่วม ร้อยละ 5.2

4. ข้อคำถาม “ท่านตั้งใจจะไปเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 พ.ค. 2565 นี้หรือไม่”
 
ตั้งใจว่าจะไปแน่นอน ร้อยละ 86.3

ยังไม่แน่ใจ ร้อยละ 12.0

ตั้งใจว่าจะไม่ไป ร้อยละ 1.7

5. ข้อคำถาม “ท่านตัดสินใจอย่างไรกับการเลือกผู้ว่าฯ กทม. ที่จะถึงนี้”

ยังไม่ตัดสินใจรอดูการหาเสียงอาทิตย์สุดท้าย ร้อยละ 52.5

มีคนที่คิดจะเลือกในใจแน่นอนแล้ว ร้อยละ 47.5

กรุงเทพโพลล์ โทร. 02-407-3888 ต่อ 2897,2898 E-mail: bangkokpoll@bu.ac.th Website: http://bangkokpoll.bu.ac.th Twitter: http://twitter.com/bangkok_poll

 
รายละเอียดการสำรวจ

วัตถุประสงค์การสำรวจ

1) เพื่อสะท้อนการรับทราบว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

2) เพื่อต้องการทราบถึงเกณฑ์ที่ใช้ในการตัดสินใจเลือกผู้ว่าฯ กทม.

3) เพื่อสะท้อนถึงเรื่องที่อยากให้ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่มาแก้ปัญหาหรือทำอะไรให้กับคนกรุงเทพฯ

4) เพื่อสะท้อนถึงความตั้งใจจะไปเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 พ.ค. 2565 นี้

ประชากรที่สนใจศึกษา

การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากกลุ่มแรงงานในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป จำนวน 8 เขต จากทั้งหมด 50 เขต แบ่งเป็นเขตชั้นใน ชั้นกลาง และชั้นนอก ได้แก่ คลองเตย ดอนเมือง บางกะปิ บางนา บึงกุ่ม วังทองหลาง หลักสี่และห้วยขวาง ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) จากนั้นใช้วิธีเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์แบบพบตัว ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้นจำนวน 400 คน

ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)

การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ± 5 ที่ระดับความเชื่อมั่น 95

วิธีการรวบรวมข้อมูล

ใช้การสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว (face to face interview) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 28 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2565

วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 7 พฤษภาคม 2565

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 07 พ.ค. 2565 เวลา : 19:32:32
08-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 8, 2024, 10:02 am