ตลาดยังเผชิญปัจจัยกดดันหลัก คือ กังวลเร่งขึ้นดอกเบี้ย เพื่อชะลอเงินเฟ้อในระดับสูง และเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ภาพรวมยังมี downside แต่ในระยะสั้นมีโอกาสรีบาวด์ได้บ้าง โดยให้ติดตามแนวรับที่ 1574 จุด หรือมากกว่านั้นที่ 1562 จุด เพื่อลุ้นรีบาวด์ ด้านแนวต้านอยู่ที่ 1597 และ 1611 จุดตามลำดับ เป็นกรอบบนที่ถูกจำกัด
ประเด็นสำคัญ
เซี่ยงไฮ้ทยอยคลายล็อกดาวน์ บางธุรกิจกลับมาดำเนินการตั้งแต่วานนี้ และจะยุติล็อกดาวน์ทั้งหมดในวันที่ 1 มิ.ย.นี้
ก.คลังเสนอ ครม.ขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตดีเซลลง 3 บ./ลิตร ที่จะสิ้นสุด 20 พ.ค.ในการประชุมวันนี้
สภาพัฒน์ฯ รายงาน GDP 1Q65 วันนี้ คาด+1.7%YoY จาก 4Q64 ที่ +1.9%YoY จับตามุมมอง ศก.ไทยและโอกาสปรับ GDP ปีนี้
กลยุทธ์การลงทุน
แม้ช่วงสั้น SET มีโอกาสรีบาวด์หลังปรับตัวลงแรงในช่วงก่อนหน้านี้แล้ว แต่ Upside ยังจำกัดหลังไร้ปัจจัยหนุนใหม่ และยังมีความเสี่ยงภายนอกอยู่ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นคุณภาพที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ
ล็อคเป้าลงทุน
Core Portfolio : คงน้้ำหนักพอร์ตไว้ที่ 50% แนะนำรอจังหวะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวในหุ้นที่ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มโตดี และ/หรือ มีผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายนอกอย่าง KBANK AMATA LH GULF ADVANC
Weekly Portfolio : เก็งกำไร 25% ใน 1) หุ้นที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดี หลังราคาปรับลงแรง เลือก ADVANC BLA KBANK RATCH TU โดยคาดมีผลตอบแทน 4-6% ใน 1 สัปดาห์หลังตลาดผ่านจุดต่ำสุด 2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์การกลับมาเปิดภาคเรียนปกติ (On site) ในไทยเริ่ม 17 พ.ค. นี้ เลือก BEM CPALL OSP และ 3) หุ้นส่งออกที่ได้อานิสงส์บาทอ่อน และสหรัฐมีแผนลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพื่อสกัดเงินเฟ้อ เลือก DELTA PSL RCL
Daily Focus
CPF หลัง 1Q65 กำไรดีเกินคาด และมอง 2Q65 กำไรจะดีขึ้น QoQ จากราคาเนื้อสัตว์บกที่ดีขึ้นใน 2Q65TD (ไทย เวียดนาม และจีน) และการกลับมาของแรงงานในโรงงานไก่เนื้อในประเทศ แต่จะลดลง YoY จากฐานสูงของปีก่อนในจีนและเวียดนาม
ERW หลัง 1Q65 กำไรดีเกินคาด และ 2Q65 กำไรปกติจะดีขึ้น YoY หลังจากไทยกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง แต่อ่อนตัวลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล
ข่าวเด่น