คาด SET การฟื้นตัวจำกัดบริเวณกรอบบนที่เป็นแนวต้าน 1610-1620 จุด โดยตลาดยังขาดปัจจัยหนุน ขณะที่ยังเผชิญปัจจัยกดดันหลักจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด เพื่อสกัดเงินเฟ้อ และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ด้านแนวรับอยู่ที่ 1590 และ 1580 จุด ตามลำดับ ซึ่งในภาพรวมยังมีความเสี่ยงต่อการหลุด 1580 จุด โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1560 จุด
ประเด็นสำคัญ
• เกิดเหตุระเบิดโรงกลั่นน้ำมัน S-Oil โรงกลั่นที่ใหญ่อันดับ 3 ในเกาหลีใต้ และอันดับ 6 ของโลก ทำให้การกลั่นชะงักชั่วคราว เป็นปัจจัยหนุนหุ้นโรงกลั่น
• อินโดนีเซียยกเลิกค าสั่งห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มแล้วมีผล 23 พ.ค.เป็นปัจจัยกดดันต่อหุ้นน้ำมันปาล์ม
• ประชุม ศบค. ชุดใหญ่วันนี้ พิจารณาผ่อนคลายมาตรการ ปรับพื้นที่โซนสีจากเหลืองเป็นเขียวและฟ้ามากขึ้น และจะปรับมาตรการเดินทางเข้าออกปท.ได้สะดวกขึ้น และพิจารณาเปิดสถานบันเทิง
กลยุทธ์การลงทุน
แม้ช่วงสั้น SET มีโอกาสรีบาวด์หลังปรับตัวลงแรงในช่วงก่อนหน้านี้แล้ว แต่ Upside ยังจำกัดหลังไร้ปัจจัยหนุนใหม่ และยังมีความเสี่ยงภายนอกอยู่ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นคุณภาพที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ
ล็อคเป้าลงทุน
Core Portfolio : คงน้ำหนักพอร์ตไว้ที่ 50% แนะนำรอจังหวะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวในหุ้นที่ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มโตดี และ/หรือ มีผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายนอกอย่าง KBANK AMATA LH GULF ADVANC
Weekly Portfolio : เก็งกำไร 25% ใน 1) หุ้นที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดี หลังราคาปรับลงแรง เลือก ADVANC BLA KBANK RATCH TU โดยคาดมีผลตอบแทน 4-6% ใน 1 สัปดาห์หลังตลาดผ่านจุดต่ำสุด 2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์การกลับมาเปิดภาคเรียนปกติ (On site) ในไทยตั้งแต่ 17 พ.ค. เลือก BEM CPALL OSP และ 3) หุ้นส่งออกที่ได้อานิสงส์บาทอ่อน และสหรัฐมีแผนลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพื่อสกัดเงินเฟ้อ เลือก DELTA PSL RCL
Daily Focus
BCP ได้ Sentiment บวกจากโรงกลั่น S-Oil ในเกาหลีใต้ระเบิด ซึ่งคาดน่าจะผลักดัน Spread น้ำมันเบนซินกับดีเซลในเอเชียขึ้น ขณะที่ 2Q65 กำไรยังแข็งแกร่งจากการฟื้นตัวของ market GRM
MINT มอง 2Q65 ผลประกอบการแข็งแกร่งขึ้นทั้ง YoY และ QoQ โดยกลับมามีกำไร เนื่องจากยุโรปกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว โดยอัตราเข้าพักในยุโรปเพิ่มขึ้นสู่ 63% ในเดือน เม.ย. เทียบกับ 52% ในเดือน มี.ค.
ข่าวเด่น