เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ราคาทองคำกรอบการซื้อขาย 1,775-1,860 ดอลล์ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,600-1,650 จุด


สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำรีบาวด์ขึ้นทดสอบ 1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ราคาทองคำแกว่งตัวบริเวณ 1,790-1,840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% ในการประชุม FOMC กลางเดือนมิถุนายน สอดคล้องการทำ QT หรือลดขนาดงบดุลที่จะเริ่มดึงสภาพคล่องในช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้กว่า  4.75 หมื่นล้านดอลลาร์ ความกังวลดังกล่าวสะท้อนผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐที่ยังทรงจัวระดับสูงระดับ 2.80-3.00%


สอดคล้องกับดัชนีดอลลาร์ที่ปรับขึ้นแตะระดับ 104.40 ดอลลาร์แข็งค่ากดดันราคาทองคำ ต่อมาช่วงปลายสัปดาห์มีประกาศตัวเลขดัชนีภาคการผลิตสาขาฟิลาเดเฟียที่ออกมาต่ำสุดในรอบ 2 ปีระดับ 2.6% และดัชนีดอลลาร์อ่อนตัวลงสู่ 102.65 ดอลลาร์ ราคาทองคำจึงปรับตัวขึ้นสู่ 1,849 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ SPDR สัปดาห์นี้กลับลำเข้าซื้อ 0.29 ตัน

ส่วนสัปดาห์นี้จับตาเงินเฟ้อส่วนบุคคลหรือ Core PCE ของเดือนเมษายนและรายงานการประชุม FOMC ครั้งที่ผ่านมาว่าจะมีมุมเชิงลบเพิ่มเติมหรือไม่ อีกทั้งมุมมองของเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ซึ่งสนับสนุนให้พาวเวลเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ระดับ 0.5% แต่หากมาพิจารณาแนวโน้มเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมอาจเร่งตัวสูงกว่าเดือนเมษายน เนื่องจากราคาน้ำดิบที่ทรงตัวเหนือกว่าระดับ 105 เหรียญต่อบาร์เรล และสูงกว่าเดือนเมษายน

ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่า เฟดจะมีแนวโน้มเร่งใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อไป สะท้อนผ่านทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและดัชนีดอลลาร์ที่ทรงตัวระดับสูง กรอบการซื้อขาย 1,775-1,860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถเบรคเหนือแนวต้านที่ 1,860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คำแนะนำทยอยเทขายทำกำไร

สำหรับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 พ.ค.) ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากลุ่มธนาคาร กลุ่มอสังหาฯ และกลุ่มรับเหมา โดยการรีบาวด์ขึ้นเป็นแรงซื้อตามตลาดในภูมิภาค โดยยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากดัชนีเงินเฟ้อที่ทรงตัวในระดับสูง ทำให้เฟดเตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,622.95 จุด +16.97 จุด +1.06% มูลค่าการซื้อขาย 66,204 ล้านบาท

ฝ่ายวิจัยคาดดัชนีสัปดาห์นี้ยังแกว่งผันผวนในลักษณะ Sideway Down โดยนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่การ Rebound ของราคาน้ำมันดิบ WTI ยังหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,600-1,650 จุด

ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น CK ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 20.30 บาท ดีดตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกระดับ โดยมี Volume เข้าสามวันติด และ Slow Sto. ส่งสัญญาณบวกหนุน หากผ่านต้านแรกที่ 21.00 บาท ลุ้นทดสอบต้านถัดไปที่ 21.70 บาท โดยมีแนวรับอยู่ที่ 20.10 บาท มีจุด cut loss อยู่ที่ 20.00 บาท

และหุ้น BANPU มีราคาปิดล่าสุด 12.20 บาท ทำแท่งเทียนเขียวยาว พร้อม Volume เข้าสองวันติด และ Slow Sto. เพิ่งพลิกตัวส่งสัญญาณบวก หากผ่านต้านที่ 12.80 บาท จะมีต้านถัดไปที่ 13.50 บาท มีแนวรับอยู่ที่ 11.90 บาท และมีจุด cut loss อยู่ที่ 11.60 บาท

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 23 พ.ค. 2565 เวลา : 10:08:35
30-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 30, 2024, 2:42 pm