เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.ทิสโก้วิเคราะห์ ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์-พักฐาน รอปัจจัยชี้นำใหม่, วันนี้จับตาตัวเลข PMI


สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +12.33 จุด อานิสงส์น้ำมัน-โภคภัณฑ์ขึ้น, จีนกระตุ้นศก. SET แกว่งตัวแดนบวกในกรอบ 1623-35 ยกกรอบแกว่งขึ้น 2 วันติด อานิสงส์ราคาน้ำมัน-สินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น หลังเงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่า และจีนกระตุ้นศก. (ลดดบ. LPR 5 ปีลงเป็น 4.45% และเตรียมคลายล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้) ต่างชาติซื้อสุทธิ 2.09 พันลบ. 2 วันติด และ Long S50 Futures ต่อเนื่อง 25,850 สัญญา 6 วันติด n


ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์-พักฐาน รอปัจจัยชี้นำใหม่, วันนี้จับตาตัวเลข PMI หุ้นโลกเมื่อวาน (23 พ.ค.) ปรับตัวขึ้นมากกว่า 1% ทั้งหุ้นยุโรปและหุ้นสหรัฐฯ ขานรับข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมันเพิ่มขึ้นเกินคาด และขานรับข่าวว่าปธน.ไบเดนส่งสัญญาณจะทบทวนมาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนในสมัยอดีตปธน.ทรัมป์ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดทรงตัว +1 เซนต์ ปิดที่ 110.29 $/bbl คาดหวังความต้องการใช้น้ำมันของสหรัฐฯ ในช่วงฤดูร้อนจะเพิ่มขึ้นจากการออกเดินทางท่องเที่ยว มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์-พักฐานหลังตลาดปรับขึ้นแรง 2 วันติด แต่วอลุ่มเทรดค่อนข้างน้อย อาจทำให้เกิดความผันผวนได้ง่ายเมื่อมีแรงขายทำกำไรระยะสั้น คาดว่านลท.จะระมัดระวังการลงทุนมากขึ้นเมื่อเข้าใกล้จะเปิดเผยรายงานประชุม FED ครั้งก่อนในวันพรุ่งนี้ และตัวเลข PCE สหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ขณะที่วันนี้แนะนำติดตามตัวเลข PMI เบื้องต้นของภาคผลิตและภาคบริการของปท.หลักของโลก โดยรวมตลาดคาดจะชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า แนวรับ 1620-25 แนวต้าน 1645-50 อนึ่ง ASAP, BYD, BYD-W6 ติดมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 2 ตั้งแต่ 24 พ.ค. – 13 มิ.ย.

กลยุทธ์การลงทุน : รีบาวด์เป็นจังหวะขายปรับพอร์ต เก็งกำไรต้องเข้า-ออกไว แนะหาจังหวะขายปรับพอร์ต-ล็อกกำไรในช่วง SET รีบาวด์มาที่โซน 1530-50 ถือเงินสดเพิ่มบางส่วน มองแนวโน้มหุ้น 1-2 เดือนข้างหน้ายังผันผวนสูง เก็งกำไรระยะสั้นต้องเข้า-ออกไว / พอร์ตลงทุน หาจังหวะสะสมช่วงอ่อนตัว

ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick TIPH – ค่าเบี้ยประกันรับที่เติบโตมากกว่าอุตฯ ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็น 11.4% ใน 1Q22 จาก 11.0% ในปี 2021 และ 9.8% ใน 9M21 ขณะที่อัตราส่วนการจ่ายค่าสินไหมทดแทน (Loss Ratio) ดีขึ้นจาก 79.6% ใน 4Q21 มาอยู่ที่ 68.7% ใน 1Q22 หลักๆ มาจากจำนวนการเคลม COVID-19 และความรุนแรงของโรคลดลง, บ.คาด Loss Ratio จะลดลงกลับมาสู่ระดับปกติในครึ่งปีหลัง, กำไรปีนี้คาดจะเติบโต 23% สูงกว่าช่วงก่อนระบาด COVID-19 และเติบโตต่อเนื่อง +15% ในปีหน้า, เป้าพื้นฐาน 72 บ. / หุ้นที่งบดีกว่าคาด ตลาดมีโอกาสปรับประมาณการกำไรขึ้น AP, BANPU, BCH, BDMS, IVL, MEGA, OR, PR9, TTA / หุ้น Re-opening ที่ราคายังปรับขึ้นช้า - ค้าปลีก CPALL, MAKRO, OR / นิคมฯ AMATA, WHA / อื่นๆ BEM, BTS, TFFIF / หุ้นได้ประโยชน์บาทอ่อน – CPF, GFPT, HANA, MEGA, SAPPE, SMPC / หุ้นประเมินเบื้องต้นมีโอกาสเข้า SET50 - BJC, JMT, JMART ออก – COM7, RATCH, STGT / หุ้น Defensive Value ที่สามารถลงทุนได้ทั้งระยะสั้น-กลาง – ADVANC, DCC, BDMS, EGCO / หุ้นสู้เงินเฟ้อสูง-ได้ประโยชน์ดบ.ขาขึ้น-ปลอดภัยจากสงครามยูเครน-รัสเซีย – ADVANC, BDMS, BEM, DOHOME, EGCO, BBL, KBANK, BLA, TVO / ผลการทบทวนดัชนี MSCI มีผล ณ ราคาปิด 31 พ.ค. Global Standard เข้า JMT ออก STGT / Small Cap เข้า ASK, BYD, DITTO, FORTH, KEX, PSG, SABUY, STGT, STARK, VIBHA ออก EASTW, JMT

หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ (Stock Focus) BANPU, CPALL / หุ้นเด่น พ.ค. (Smart Tactics) BEM, CENTEL, GFPT, JMT, MEGA, STANLY 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 24 พ.ค. 2565 เวลา : 12:07:50
30-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 30, 2024, 7:31 am