การศึกษา-สิ่งแวดล้อม-สาธารณสุข
เตรียมวางแผนให้คุณได้ กับความท้าทายของ IVF/ICSI ตอบทุกโจทย์ผู้มีบุตรยาก


การแต่งงานคือการหาใครสักคนมาเติมเต็มชีวิตคู่ และหากจะให้ชีวิตครอบครัวสมบูรณ์ยิ่งขึ้นนั้น คือ การมีบุตร แต่น่าเสียดายที่หลายครอบครัวต้องประสบปัญหาภาวะมีบุตรยาก เป็นที่น่ายินดีที่ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ที่สามารถช่วยแก้ปัญหา ภาวะมีบุตรยากให้หลายครอบครัว ได้แก่ IVF หรือ ICSI

 

 
นพ.พูลศักดิ์ ไวความดี ผู้อำนวยการคลินิกรักษาผู้มีบุตรยากและส่งเสริมสุขภาพสตรี (Fertility and Women Wellness Clinic) แพทย์ผู้ชำนาญการด้านการเจริญพันธุ์ BDMS Wellness Clinic กล่าวว่า อายุเป็นปัจจัยสำคัญของภาวะมีบุตรยาก เพราะวัยเจริญพันธุ์ที่ไข่ของผู้หญิงมีคุณภาพดีที่สุดอยู่ในช่วงระหว่างอายุ 20-35 ปี แต่ส่วนใหญ่คู่สมรสที่มาปรึกษาและพร้อมมีครอบครัวมักจะเลยวัยเจริญพันธุ์ไปแล้ว ดังนั้นเมื่ออายุมากขึ้น โอกาสในการมีบุตรก็ลดลงตามไปด้วย และอาจเกิดภาวะการมีบุตรยาก (Infertility)

ในคู่สมรสที่พยายามมีบุตรด้วยวิธีธรรมชาติ เกินกว่า 1 ปี หรือฝ่ายหญิงอายุ 35 ปีขึ้นไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุโดยเริ่มจากการสืบประวัติ ได้แก่ ความถี่ของการมีเพศสัมพันธ์ ปัญหาประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ ปวดประจำเดือน โรคประจำตัว การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ รวมทั้ง lifestyle ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพกายใจและการเจริญพันธุ์ เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มสุรา ความเครียด และปัจจัยเสี่ยงต่อการมีบุตรอื่น ๆ
 

 
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ทันสมัยเข้ามาช่วยแก้ปัญหาสำหรับภาวะมีบุตรยากในคู่สมรส ได้แก่

1.การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF – In Vitro Fertilization) เป็นการนำเซลล์ไข่และตัวอสุจิออกมาผสมกันภายนอก เพื่อช่วยให้เกิดการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อน พัฒนาไปถึงระยะที่สมบูรณ์พร้อมฝังตัว แล้วนำตัวอ่อนย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูกเพื่อฝังตัวและเจริญเติบโตจนตั้งครรภ์ต่อไป ส่วนใหญ่วิธีนี้จะเหมาะกับคนที่มีลูกยากที่มีปัญหาจากฝ่ายหญิง เช่น มีปัญหาท่อนำไข่อุดตัน มีพังผืดในอุ้งเชิงกราน เป็นต้น

2.การทำอิ๊กซี่ (ICSI - Intracytoplasmic Sperm Injection) เป็นนวัตกรรมเพิ่มเติมจาก IVF ที่ช่วยในการปฏิสนธิ โดยใช้วิธีฉีดตัวอสุจิเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง มักใช้ในคู่สมรสที่สามีมีอสุจิผิดปกติหรืออสุจิไม่แข็งแรง หรือเคยทำหมัน หรือในคู่สมรสที่เคยประสบปัญหาความล้มเหลวจากการปฏิสนธิของไข่และตัวอสุจิในการทำเด็กหลอดแก้วมาก่อน ปัจจุบัน ICSI เป็นวิธีที่นิยมแพร่หลายมากที่สุด วิธีนี้มีขั้นตอนคล้ายการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) แตกต่างกันที่การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) นั้นอสุจิหลายตัวถูกนำไปผสมกับเซลล์ไข่ในจานเพาะเลี้ยง รอจนอสุจิว่ายเข้าไปเจาะผสมกับเซลล์ไข่เองตามธรรมชาติ แต่ ICSI จะคัดเชื้ออสุจิที่แข็งแรงสมบูรณ์เพียงตัวเดียว และใช้เข็มแก้วที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็ก ๆ เจาะเปลือกไข่ และ ฉีดตัวเชื้อเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง ทั้งนี้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าด้าน DNA ทำให้ทั้งการทำ IVF หรือ ICSI ทำให้เราสามารถตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อนแต่ละตัว และทราบได้ว่าตัวอ่อนตัวไหนมีความแข็งแรงสมบูรณ์พร้อม จึงจะย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูกฝ่ายหญิง เป็นการเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ ลดโอกาสแท้งบุตร และเพิ่มความมั่นใจว่าทารกที่จะเกิดมานั้นมีพันธุกรรมปกติ เหมาะสำหรับคู่สมรสใน 5 กลุ่มเสี่ยง กล่าวคือ

1. คู่สมรสที่ฝ่ายหญิงมีอายุมากกว่า 35 ปี

2. เคยรักษาโดยใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์มาแล้วแต่ไม่สำเร็จ

3. คู่สมรสที่มีประวัติโรคถ่ายทอดทางพันธุกรรมในครอบครัว เช่น โรคธาลัสซีเมีย (Thalassemia) หรือเคยคลอดบุตรที่ทารกมีความผิดปกติทางพันธุกรรม

4. ฝ่ายหญิงมีประวัติแท้งหลายครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุ

5. ฝ่ายชายมีคุณภาพของอสุจิที่ผิดปกติ
 
 
นอกจากไข่แล้ว อสุจิก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่ต้องได้รับการคัดสรรเช่นกัน เพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์และได้ทารกที่ปกติสมบูรณ์

จากประสบการณ์การรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์มานานกว่า 30 ปี คุณภาพของไข่ในผู้หญิงเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด เพราะคุณภาพไข่จะลดลงตามอายุที่มากขึ้นอย่างชัดเจน โดยปัญหาของการมีบุตรยาก ร้อยละ 50 เกิดจากฝ่ายหญิง ร้อยละ 30 เกิดจากฝ่ายชาย และอีกร้อยละ 20 เกิดจากทั้งสองฝ่าย

ทั้งนี้ ในส่วนปัญหาของฝ่ายชายมักเกิดจากการใช้ชีวิตที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ มีภาวะเครียด ขาดการออกกำลังกาย ส่งผลต่อสุขภาพทางเพศไม่ค่อยสมบูรณ์ เช่น ความต้องการทางเพศลดลง อวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือได้รับสารเคมี เช่น สารตะกั่ว สารโลหะหนัก หรือ เล่นกีฬาแล้วเกิดอุบัติเหตุที่อัณฑะทำให้เกิดแผลเป็นและพังผืด

การเตรียมตัวมีบุตรมีความจำเป็นต้องทราบว่าสุขภาพของคู่สมรสแต่ละคู่นั้น มีปัญหาอะไรที่จะส่งผลต่อรังไข่และลูกอัณฑะหรือไม่อย่างไร ซึ่งที่ Fertility and Women Wellness Clinic มีเครื่องมือที่ทันสมัยสามารถตรวจวิเคราะห์ร่างกายเชิงลึกถึงรหัสพันธุกรรม
 
 
“Fertility and Women Wellness Clinic ยังมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น เครื่อง Hamilton Thorne IVOS II Computer Assisted Semen Analysis (CASA) ที่รับรองโดย WHO หรือ World Health Organization ใช้ตรวจวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของอสุจิ รูปร่างความผิดปกติต่าง ๆ รวมถึงยังสามารถวิเคราะห์ถึงการแตกหักของดีเอนเอในหัวอสุจิ (DNA Fragmentation) หรือในขั้นตอนของการคัดเลือกอสุจิสำหรับทำ IVF/ICSI/IUI เราใช้เทคนิคที่เรียกว่า MACs Sperm (Magnetic activated cell sorting Sperm) ในการคัดเลือกอสุจิที่มีความแข็งแรงที่สุด ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิ และได้ตัวอ่อนที่มีคุณภาพมากขึ้น สามารถเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การมาปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุภาวะการมีบุตรยากแต่เนิ่น ๆ เป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อทราบแนวทางการเตรียมตัว การรักษาที่เหมาะสมและได้ผลสำเร็จสูง ที่ Fertility and Women Wellness Clinic มีความแตกต่างจากที่อื่น คือ เราเน้นการดูแลสุขภาพในแบบเฉพาะเจาะจงตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล เพื่อการมีบุตรอย่างมีคุณภาพ เช่น การตรวจสุขภาพแบบองค์รวมของทั้งสามีและภรรยา การตรวจเลือดเพื่อหาระดับวิตามินหรือระดับฮอร์โมน ปรับเปลี่ยนเรื่องการรับประทานอาหาร การใช้ชีวิต การบริหารความเครียด การพักผ่อนที่เหมาะสม และปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการมีบุตร
 

 
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Fertility and Women Wellness Clinic หนึ่งในคลินิกเฉพาะทางที่ BDMS Wellness Clinic ได้รับรางวัล Fertility Medical Centre of the Year in the Asia-Pacific 2021 จาก Global Health and Travel Magazine นิตยสารชั้นนำด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสุขภาพในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

BDMS Wellness Clinic มุ่งมั่นพัฒนาและวิจัยเรื่องสุขภาพ เพื่อมอบเป็นของขวัญสุขภาพแก่คนไทยทุกคน เพราะสุขภาพที่ดี คือของขวัญที่ดีที่สุด Live longer, Healthier and Happier

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ ไลน์: @womenandfertility or https://lin.ee/zG8BJFT หรือ โทร 028269971 อีเมล info@bdmswellness.com และ เว็บไซต์ www.bdmswellness.com , https://www.bwcfertilityclinic.com/

 

 


LastUpdate 29/05/2565 22:02:16 โดย : Admin
02-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 2, 2024, 5:57 am