ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยเมื่อวานนี้ราคาทองคำเปิดที่บริเวณ 1,875 เหรียญ ก่อนจะลงมาปิดที่บริเวณ 1,818 เหรียญ ซึ่งลดลงมากว่า 50 เหรียญในระหว่างวัน จากการที่มีกระแสข่าวออกมาว่าเฟดมีโอกาสจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 0.75% มากขึ้นถึง 90% ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ในครั้งแรกที่มีเพียง 4% เท่านั้น เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อหรือ CPI ที่ปรับสูงขึ้นอย่างมาก ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องโดยเมื่อวานนี้เคลื่อนตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 104.09 - 105.15 จุด โดยเช้านี้อยู่ที่ 105.03 จุด ส่งผลให้ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าต่อเนื่องโดยเริ่มขึ้นไปทดสอบที่บริเวณ 35 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 34.96 บาท/ดอลลาร์ ในส่วนของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นจากความคาดหวังว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปีเริ่มปรับสูงขึ้นกว่าอายุ 10 ปีเล็กน้อย โดยเช้านี้อายุ 2 ปีอยู่ที่ 3.42% ขณะที่ อายุ 10 ปี อยู่ที่ 3.38% ทำให้ตลาดเริ่มมีความกังวลมากขึ้นและเริ่มย้ายเม็ดเงินออกจากตลาดหุ้นเข้าสู่ตลาดพันธบัตรมากขึ้น สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ PPI m/m และ Core PPI m/m คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นจากเดิม สำหรับกองทุนทองคำ SPDR ปัจจุบันถือครองเท่าเดิมที่ 1,068.87 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำแกว่งตัวอย่างมากจากการที่นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำแกว่งตัวลงมาอีกครั้งและหลุดระดับ 1,850 เหรียญ โดยเช้านี้อยู่ที่บริเวณ 1,820 เหรียญ ซึ่งจะเห็นความความผันผวนสูงมาก ทำให้ภาพรวมของราคาทองคำยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน โดยเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวบรรจบกันอยู่ที่บริเวณ 1,838 - 1,855 เหรียญ วันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับหลักระยะสั้นที่ 1,810 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,850 เหรียญ
สำหรับ Gold Comex และ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,810 เหรียญ และแนวต้าน 1,855 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 30,000 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 30,500 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series M22 จะมีแนวรับที่ระดับ 30,150 บาท และแนวต้านที่ระดับ 30,450 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เน้นเทรดระยะสั้นลงซื้อขึ้นขาย ลงทุนตามกรอบการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน ระวังความผันผวนของราคา หรือใช้กลยุทธ์ Wait & See เพื่อรอดูความชัดเจนหลังการประชุมในวันที่ 14 -15 มิ.ย. นี้
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับเมื่อราคาย่อตัว ระวังความผันผวนของราคา
ข่าวเด่น