การศึกษา-สิ่งแวดล้อม-สาธารณสุข
ผลสำรวจชี้เด็กไทยได้รับ 'แคลเซียม' ไม่เพียงพอ ร่วมสร้างรากฐานการมีคุณภาพชีวิตที่ดีให้เด็กไทย ผ่านการส่งเสริมโภชนาการที่ดี กับโครงการ 'โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทยปี 2'


วัยเด็กถือเป็นช่วงเวลาสำคัญต่อพัฒนาการโดยรวม โภชนาการจึงมีบทบาทหลักต่อการเจริญเติบโตของเด็กที่ส่งผลในระยะยาว แต่จากผลสำรวจภาวะโภชนาการเด็กภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 2 หรือ SEANUTS II (South East Asian Nutrition Surveys II) พบว่า ทุพโภชนาการ หรือสภาวะของร่างกายที่เกิดจากการได้รับอาหารที่ไม่ครบถ้วน หรือมีปริมาณที่ไม่เหมาะกับความต้องการของร่างกาย ยังคงเป็นปัญหาใหญ่โดยรวมของทั้งภูมิภาค และเด็กไทยที่มีอายุระหว่าง 6 เดือน – 12 ปี มากกว่าร้อยละ 70 ไม่ได้รับแคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอ นอกจากนี้ ยังพบว่าแม้เด็กไทยจะได้รับมื้อเช้าเป็นส่วนมาก แต่โภชนาการที่ได้รับกลับไม่เพียงพอ ด้วยคุณภาพของอาหาร อันเป็นผลพวงมาจากปัญหาทางเศรษฐกิจ

 
โดยผลสำรวจ SEANUTS II ในเด็กอายุ 6 เดือน – 12 ปี จำนวนเกือบ 14,000 ราย จากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม ระหว่างปีพ.ศ. 2562 – 2564 ระบุว่า มากกว่าร้อยละ 70 ของเด็กในทั้ง 4 ประเทศไม่ได้รับแคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอ เมื่อเทียบกับปริมาณค่าเฉลี่ยที่ควรได้รับในแต่ละวัน และมากกว่าร้อยละ 84 ได้รับวิตามินดีต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งแคลเซียมและวิตามินดีนับเป็นแร่ธาตุและสารอาหารที่สำคัญต่อการพัฒนาและการเสริมสร้างการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน โดยเฉพาะในวัยเด็กที่กำลังเจริญเติบโต 
 
 
ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนมยูเอชที ภายใต้ตราสินค้า โฟร์โมสต์ ในประเทศไทยและอินโดจีน ตระหนักถึงปัญหาทุพโภชนาการในเด็ก อันมีสาเหตุมาจากการไม่สามารถเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพได้ และพร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้เด็กไทยทุกคนสามารถเข้าถึงและได้รับโภชนาการที่ดี ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและการมีพัฒนาการสมวัย อันส่งผลต่อคุณภาพชีวิตระยะยาว

 
ดร.โอฬาร โชว์วิวัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “พันธกิจหลักของฟรีสแลนด์คัมพิน่า คือการส่งมอบโภชนาการที่ดีด้วยผลิตภัณฑ์จากน้ำนมโคคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้เพื่อให้คนทุกกลุ่มมีสุขภาพที่ดี จึงเป็นที่มาของโครงการ ‘โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทย’ ซึ่งได้ริเริ่มขึ้นครั้งแรกในปีที่แล้ว ปีที่ทุกคนประสบกับภาวะวิกฤติจากโรคระบาดโควิด-19 เราตระหนักดีว่า มีครอบครัวกลุ่มเปราะบางและคนชายขอบที่มีลูก และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้มากกว่าคนกลุ่มอื่น
 
ในฐานะที่เราเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมโฟร์โมสต์ แบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานถึง 66 ปี จึงได้จับมือกับมูลนิธิกระจกเงา สานต่อโครงการ ‘โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทยปีที่ 2’ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์นมยูเอชที โฟร์โมสต์ โอเมก้า 369 และ โฟร์โมสต์ โอเมก้า 369 สมาร์ท ขนาด 180 มล. จำนวน 1,000,000 กล่อง ซึ่งอุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์และจำเป็นต่อการเจริญเติบโต ให้แก่เด็กและครอบครัวที่ได้รับความเดือดร้อน โดยตั้งเป้าส่งมอบโภชนาการที่ดีให้แก่เด็กไทยและครอบครัวที่ขาดโอกาสทั่วประเทศ ภายในเดือนพฤศจิกายน 2565

 
โดยนับตั้งแต่เปิดตัวโครงการ ‘โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทยปีที่ 2’ ในวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีผู้บริโภคให้การตอบรับโครงการเป็นอย่างดี โดยโฟรโมสต์ได้ส่งมอบนมโคคุณภาพดี โฟร์โมสต์ โอเมก้า 369 และ โฟร์โมสต์ โอเมก้า 369 สมาร์ท แก่มูลนิธิกระจกเงาและมูลนิธิเครือข่าย เป็นจำนวนกว่า 14,000 ลัง หรือมากกว่า 500,000 กล่อง โดยได้นำไปแจกจ่ายแก่เด็กและครอบครัวในชุมชนต่างๆ ได้แก่ มูลนิธิดวงประทีป คลองเตยดีจัง เครือข่ายเยาวชนหญิงสู่ชีวิตใหม่ในจังหวัดกาญจนบุรี ชุมชนในจังหวัดเพชรบุรี เป็นต้น เราคาดหวังว่าจะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยและทำให้คนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงโภชนาการที่ดียิ่งขึ้นได้”

 
นางสาววีราภรณ์ ประสพรัตนสุข หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรและระดมทุน มูลนิธิกระจกเงา พาร์ทเนอร์หลักของโครงการ ‘โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทย’ กล่าวว่า จากปีที่แล้วที่เราสามารถส่งมอบโภชนาการให้เกือบ 500 ครัวเรือนใน 50 ชุมชนทั่วประเทศ มูลนิธิกระจกเงายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ ฟรีสแลนด์คัมพิน่า ประเทศไทยและแบรนด์โฟร์โมสต์ เป็นปีที่สอง ในการส่งต่อโภชนาการที่ดีให้แก่เด็กและครอบครัวกลุ่มเปราะบาง ภายใต้โครงการ ‘โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทย’ อีกครั้ง แม้ว่าสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 จะคลี่คลายแล้ว แต่ยังมีผู้ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องอยู่อีกมาก มีครอบครัวที่ผู้ปกครองตกงาน หรือต้องกักตัวในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพ ซึ่งในครอบครัวที่ลำบาก ถ้าต้องเลือกระหว่างนมกับข้าว พวกเขาจะเลือกข้าวมากกว่า จึงทำให้เด็กในครอบครัวเหล่านี้ได้รับคาร์โบไฮเดรตเป็นสารอาหารหลัก แม้เด็กส่วนหนึ่งจะได้รับนมจากโรงเรียน แต่ยังมีกลุ่มเด็กก่อนวัยเรียนตามชุมชนที่ยังอยู่ในภาวะทุพโภชนาการ กระจกเงาจึงทำงานร่วมกับเครือข่ายด้านเด็กในชุมชนอย่างหลากหลาย เพื่ออุดช่องว่างนี้ให้กับเด็กไทย”  

 
คุณครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิดวงประทีป มูลนิธิฯ ที่ทำงานร่วมกับมูลนิธิกระจกเงาในฐานะภาคีเครือข่ายเพื่อกระจายและส่งมอบผลิตภัณฑ์นมบริจาคให้แก่เด็กและครอบครัวที่เดือดร้อนทั่วประเทศ กล่าวว่า “แม้ปัจจุบันสถิติของพัฒนาการไม่สมวัยจะลดลงแล้วก็ตาม และปัญหาน้ำหนักตัวไม่สมวัยจะดีขึ้นจากร้อยละ 30 – 40 มาอยู่ที่ร้อยละ 11-12 แต่ก็ยังไม่ใช่ตัวเลขที่เราปรารถนา ในฐานะคนที่ลงพื้นที่ส่งมอบนมบริจาคให้ถึงมือเด็กและครอบครัวที่ได้รับความเดือดร้อน เราเห็นเด็กในชุมชนที่วิ่งเล่นตามตรอกซอกซอย แววตาที่เขารอคอยและดีใจเมื่อมีคนนำนมบริจาคมาให้หลายครอบครัวที่พ่อแม่ไม่สามารถดูแลลูกของตัวเองได้ เนื่องจากต้องออกไปทำงาน ฝากหลานไว้กับย่ายายและอาศัยเพียงเบี้ยคนชราเลี้ยงดูปากท้องนั้นไม่เพียงพอ บางครอบครัวต้องนำไข่ 1 ฟองมาผสมกับน้ำแล้วทอด เพื่อให้ไข่ขยายและแบ่งกันได้หลายคน คุณภาพของอาหารและโภชนาการไม่ได้เหมาะสมตามที่ควรจะเป็น ซึ่งสำหรับเด็กๆ นั้นสำคัญมาก พัฒนาการทั้งทางร่างกายและสมองซึ่งเกิดขึ้นในวัยนี้ คือรากฐานของคุณภาพชีวิต
 
 
แม้หลายคนอาจจะมองว่าการบริจาคเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและไม่ยั่งยืน แต่ในสถานการณ์ที่ทุกคนลำบาก พัฒนาการของเด็กที่ได้รับผลกระทบไม่ได้หยุด หากสูญเสียโอกาสไป อาจหมายถึงคุณภาพชีวิตของเขาในระยะยาว ทางมูลนิธิดวงประทีปจึงขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมกับโครงการ ‘โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทย’ เพื่อให้เด็กๆ ยังสามารถมีรอยยิ้มและก้าวข้ามผ่านวิกฤติได้โดยไม่สูญเสียโอกาส”
 
ในเดือนเกิดของโฟร์โมสต์และเดือนแห่งวันแม่ ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมแบ่งปันความสุขและสร้างรอยยิ้มให้เด็กไทยกับโครงการ “โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทยปีที่ 2” เพียงซื้อผลิตภัณฑ์นมยูเอชทีโฟร์โมสต์ ขนาดบรรจุ 170 มล. 180 มล. หรือ 225 มล. ทุกรสชาติ จำนวน 1 ลัง  ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม พ.ศ. 2565  ผ่านโฟร์โมสต์ออนไลน์ (โฟร์โมสต์ เดลิเวอรี่) และช่องทางของร้านผู้จัดจำหน่ายที่ร่วมรายการ ได้แก่ ร้านค้าอย่างเป็นทางการโฟร์โมสต์ใน ช้อปปี้ และ ลาซาด้า ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายบนเว็บไซต์ เจดี ในเซเว่น อีเลฟเว่น โลตัส บิ๊กซี ท็อปส์ แมคโคร ซีเจ มอร์ และร้านค้าทั่วไปที่ร่วมรายการ (ร้านค้าที่มีป้ายโครงการฯ) โดยทุกๆ การซื้อ 1 ลัง โฟร์โมสต์จะบริจาคผลิตภัณฑ์นมยูเอชที โฟร์โมสต์ โอเมก้า 369 หรือ โฟร์โมสต์ โอเมก้า 369 สมาร์ท ขนาดบรรจุ 180 มล.จำนวน 1 ลังให้กับมูลนิธิกระจกเงา เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับเด็กและครอบครัวที่ได้รับความเดือดร้อน
 
 
 
เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตที่ดีให้เด็กไทย พร้อมรับประกาศณียบัตรเชิดชูเกียรติ (Certificate of Appreciation) เพียงถ่ายภาพใบเสร็จและลังนมที่ท่านซื้อภายใต้โครงการ และคอมเมนต์ใต้โพสต์นี้: ประกาศณียบัตร ขอบคุณผู้ร่วมสนับสนุนโครงการ 'โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทยปีที่ 2' สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/ForemostThailand/

LastUpdate 20/08/2565 22:01:54 โดย : Admin
30-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 30, 2024, 9:43 pm